ผู้ประกอบการรถตู้สะท้อนปัญหาขาดทุนเว้นระยะห่างผู้โดยสาร วอนรัฐช่วยเหลือ
กลายเป็นกระแสวิพากษ์ วิจารณ์ ในโลกโซเชียล หลังมีผู้ใช้เฟชบุ๊กคนหนึ่ง ได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวที่ตนต้องนั่งรถโดยสารเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดหนองคาย โดยนั่งจากพัทยา แต่ปรากฎว่าราคาค่ารถโดยสารกลับพุ่งขึ้นเป็น 2 เท่า จากราคาปกติ
โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า วันนี้ผมเดินทางกลับหนองคาย รัฐบาลให้นั่ง2เบาะต่อคน เท่ากับราคาเพิ่มเป็น2เท่า ราคาสมควรไหมครับ จากปกติ 500 กว่าบาท เป็น 910 บาทสำหรับผมก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ แต่ถ้าคนหาเช้ากินค่ำต้องการที่จะกลับบ้านละ น่าสงสาร ไหนเศรษฐกิจแบบนี้ ตายๆอย่างเดียว สภาพรถก็ไม่ได้ใหม่ หรูหราอะไรเลย แต่ก็เข้าใจทั้ง2ฝ่ายแหละครับ ฝากแชร์ถึงรัฐบาลด้วยครับ
โดยภายหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปเป็นสาธารณะ ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยส่วนใหญ่ต่างบอกว่า แพงมาก เจอแบบนี้คงไม่กล้ากลับบ้านแน่ อีกทั้งยังบอกว่ากำลังจะกลับเหมือนกัน แต่ถ้าเจอบแบบนี้คงไม่ไหว นอกจากนี้ยังมีบางคนก็มาแชร์ประสบการณ์ที่เคยเจอเพิ่มค่าโดยสารเช่นกัน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่บริษัท 407 พัฒนา จำกัด สาขาพัทยา พบกับ นายมานิต อับดุลการี พนักงานขายตั๋วของบริษัทฯ ได้ชี้แจงราคากับผู้โดยสารที่ เดินทางมาซื้อตั๋วทุกคน ว่าราคาตั๋วปรับขึ้นเพราะอะไร ซึ่งปกติรถโดยสารจะรับผู้โดยสารได้ 40 ที่นั่งค่าเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีอยู่ที่ราคา 479 บาท หนองคายราคา 517 บาท หลังจากที่กรมขนส่งทางบกกำหนดให้รถโดยสารจะต้องนั่งเว้นระยะห่างกัน ทำให้บริษัทสามารถรับผู้โดยสารได้เพียง 20 คน ถ้าจะให้จำหน่ายตั๋วในราคาเดิม ทางบริษัทไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดไว้ได้
ย้ำว่า ทุกครั้งที่มีการออกตั๋วทางพนักงานจะสอบถามลูกค้าก่อนเสมอว่าค่าตั๋วรถโดยสารอยู่ที่ราคานี้ ถ้าผู้โดยสารตอบตกลง ทางพนักงานจะมีการออกตั๋วโดยสารให้ หากลูกค้าไม่พอใจในราคาพนักงานก็ไม่ออกตั๋วให้ เพราะพนักงานไม่ได้บังคับผู้โดยสารให้มาซื้อตั๋ว หลังจากเปิดขายตั๋วมาประมาณ 1 เดือนก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องราคาตั๋วแต่อย่างใด
ขณะที่ ประชาชนที่มาต่อคิวซื้อตั๋วรถโดยสารส่วนใหญ่ ก็รับได้ในราคาที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะเข้าใจกับสถานการณ์ และไม่เดินทางกลับต่างจังหวัดบ่อย ที่สำคัญแม้ว่าจะราคาจะสูงขึ้น ก็ดีกว่าต้องเสียเงินเหมารถกลับบ้านที่อาจจะค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
กทม.ยอมรับ คุมขสมก.เว้นระยะห่างลำบาก