คุณรู้ไหมว่าคนอย่างวอเรน บัฟเฟ่ต์, เจฟ เบโซส, บิลเกตต์ หรือแม้แต่มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก มีอะไรที่เหมือนกัน
ใช่แล้วครับ…พวกเขาเป็นโค-ต-รมหาเศรษฐีระดับโลกเหมือนกัน
แต่ไม่ใช่แค่ความรวยเท่านั้นที่พวกเขามี คนเหล่านี้มีวิธีการและการใช้ชีวิตที่ทำให้พวกเขากลายเป็นเศรษฐีที่เหมือนหรือคล้ายกันให้คนรุ่นหลังที่อยากก้าวสู่เส้นทางเศรษฐีได้ศึกษากันบ่อยๆ
จากงานวิจัยของ ‘Thomas C. Corley’ ศาสตราจารย์ผู้ศึกษาพฤติกรรมของเหล่าคนรวยและประสบความสำเร็จได้เจ้าของหนังสือขายดี ‘Rich Habit’ ได้รวบรวมถึงพฤติกรรมของเศรษฐี หรือคนรวย ที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จ ซึ่งไม่ได้อยู่ที่อาหารที่รับประทานในระหว่างวัน (หยอกๆๆ) แต่จะขึ้นอยู่กับตัวเองว่ามีวิธีคิดและการจัดการกับไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจอย่างมากดังนี้
1. ต้องอยู่ให้ถูกที่ถูกเวลา - เศรษฐีส่วนใหญ่จะวนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หมายถึง ถ้าวันนี้แหล่งเงินอยู่ที่ไหน ก็ต้องไปตรงนั้น ยุคหนึ่งคืออเมริกา ยุคหนึ่งคือรัสเซีย และยุคนี้คือจีน ที่สามารถเนรมิตให้ ‘เซินเจิ้น’ กลายเป็นซิลิคอนวัลเลย์ยุคใหม่ หรือแม้แต่ตัวคุณจะอยู่ที่เมืองไทย ก็ต้องดมกลิ่นเงินให้ออกว่าแหล่งเงินอยู่ตรงไหน จากนั้นก็ลุยเข้าไปเลย
2. ต้องเก่งในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้เรื่อง - คำเปรียบเปรยที่ว่า ‘รวยไม่รู้เรื่อง’ ไม่ได้หมายความว่า รวยเพราะฟลุค แต่หมายถึงคนที่รวยได้โดยที่คนอื่นไม่รู้เรื่องนั่นแหละ เพราะพวกเขาสามารถเข้าไปคว้าโอกาสได้ก่อนใคร และกล้าที่จะเพิ่มความเก่งในเรื่องนั้นๆ ให้ตัวเอง อย่างเช่น ยุคที่คนกลัวการขายครีมออนไลน์ แต่เศรษฐีจะศึกษาถึงความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้าด้วยตัวเอง และเริ่มขายก่อนใคร ขายไปขายมา รวยร้อยล้าน หรือบางคนเอาดีในการขายขนมแปลกใหม่ จนเอาธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ รวยเป็นหมื่นล้าน ในขณะที่คนอื่นยังงมโข่งอยู่ เป็นต้น
3. ต้องกล้าเสี่ยง - ไม่มีมหาเศรษฐีคนไหนที่ไม่เสี่ยง เพราะความเสียหายที่แท้จริงของยุคนี้ คือ การไม่ได้ทำอะไรเลย แต่คนที่เป็นเศรษฐี พวกเขามักจำกัดความเสี่ยงเป็น ถ้าลงทุนสั้น ต้องรู้จัก Stop Loss (จำกัดจำนวนการสูญเสีย) ถ้าลงทุนหรือทำธุรกิจระยะยาว ก็ต้องกระจายความเสี่ยงเป็น
4. ต้องบริโภคความรู้อย่างต่อเนื่อง - การที่คนคนหนึ่งจะมาเป็นเศรษฐีได้ หรือประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ต้องมีความรู้มากๆ ฉลาด ทันคน และสามารถควบคุมคนได้ ฉะนั้นความรู้จึงเป็นบ่อเกิดให้กับทุกๆ สิ่ง และส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มาจากอ่านหนังสือมากๆ โดยงานวิจัยของ Tom ได้วิจัยมาแล้วว่า ร้อยละ 85 ของเศรษฐีจะอ่านหนังสือโดยเฉลี่ยคือ 2 เล่ม หรือมากกว่านั้นต่อเดือน ในหมวดจิตวิทยา สุขภาพ และอาชีพ
5. ต้องวางเป้าหมายให้กับทุกสิ่งที่ทำ - เศรษฐีจะมีเป้าหมายตลอดไม่ว่าจะทำอะไร งานเล็กหรือใหญ่ ทั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ และเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้ จะมีเป้าหมายตลอดจนติดนิสัย เช่น วันนี้จะทำงานนี้ให้เสร็จ พรุ่งนี้จะต้องทำอะไรต่อไป หรือจะทำวันพรุ่งนี้ให้ดีกว่าวันนี้ได้ยังไง เป็นเหมือนกับการฝึกสมองให้คิดและวางแผนอยู่ตลอด เพื่อประสิทธิภาพและลดความผิดพลาดไปในตัว
6. ต้องมีความรอบคอบในการบริหารเงิน - การจะเป็นเศรษฐี ไม่ใช่รวยแล้วใช้เต็มที่ แต่คนพวกนี้จะรู้จักวางแผนการใช้เงิน เช่น ดูว่าเวลาสิ้นเดือนต้องจ่ายอะไรบ้าง เงินเดือนต่อเดือนพอหรือไม่ เงินเดือนลูกน้องควรจะบริหารยังไง มีหนี้ตัวไหนต้องจัดการก่อน-หลัง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเบสิกที่คนธรรมดาก็ควรรู้ หรือจะลองนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ดู ก็จะดีอย่างมาก
7. ต้องตื่นนอนและลุกจากที่นอนแต่เช้า - จะมีแต่คนขี้เกียจเท่านั้น ที่เลือกไถอยู่บนเตียงจนวินาทีสุดท้ายและค่อยลุกไปอาบน้ำ ก่อนจะออกไปทำงาน ซึ่งใครที่ทำตัวแบบนี้ทุกวัน อาจทำให้คุณมีเวลาน้อยเกินไปในการที่จะดูแลตนเองในตอนเช้า เช่น การทานอาหารเช้า การขับถ่าย การออกกำลังกาย สร้างพลังและความกระปรี้กระเปร่าได้ตลอดวัน แต่คนที่เขาประสบความสำเร็จมักตื่นเช้า ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะชอบตื่นหรือไม่ก็ตาม เพราะพวกเขารู้ดีว่าประโยชน์ของการตื่นแต่เช้าเป็นอย่างไร
8. ต้องมีสุขภาพที่ดี - มีคำกล่าวว่า เราไม่สามารถหาเงินได้ใน 2 สถานที่ ได้แก่ บนเตียงของโรงพยาบาล และโลงศพ ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จ เราต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เพื่อพร้อมกับการเผชิญโลกแห่งการแข่งขันเสมอ เศรษฐีส่วนมากจึงมีการวางแผนการดูแลสุขภาพของเขาเป็นอย่างดี โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดของการมีสุขภาพดี คือ การออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพยายามรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ โดยการออกกำลังกายควรทำให้ได้ 30 นาทีต่อครั้ง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน แต่จะให้ดีที่สุด ควรจะต้องทำให้ได้ทุกวัน และหมั่นตรวจสุขภาพอย่างต่อเนื่องด้วย
9. จัดระเบียบทางความคิด - เศรษฐีมักจะมีความละเอียด รอบคอบ ใส่ใจในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กๆ หรืองานใหญ่ พวกเขาก็จะให้ความสำคัญกับการวางแผนจนดูเหมือนคนจุกจิก แต่นั่นคือพฤติกรรมคุ้นชินที่เป็นเรื่องปกติ งานไหนที่ต้องให้ความสำคัญก่อน-หลัง ต้องจัดลำดับ และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ คือ เวลาก่อนเลิกงานสัก 10-20 นาที พวกเขามักจะเขียนโน้ตเตือนความจำว่าพรุ่งนี้จะต้องทำอะไรบ้าง เป็นการจัดระเบียบสมองเพื่อต้อนรับการทำงานในวันต่อไป
10. ต่อยอดอย่างมีเป้าหมายและไม่หยุดทำ - คนที่รวยมากๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำงานเพราะเงิน เพราะคนที่มีเป้าหมายเป็นเงินอย่างเดียว พอได้เงินแล้ว ก็จะเริ่มกลัวความเสี่ยง จากนั้นก็จะหยุดทำ แต่บรรดาเศรษฐีจะคิดต่าง พวกเขาจะสนุกที่ได้ต่อยอดธุรกิจที่ทำ ไม่มีข้อจำกัด เหมือน Google ที่เราแทบไม่รู้เลยว่า เขาจะทำอะไรต่อ แต่จริงๆ เขามีสิ่งที่คิดในใจไว้แล้ว หรือพูดง่ายๆ ก็คือ พอนับหนึ่งได้ ก็จะนับไปถึง 10 นับ 100 และไม่มีวันจบ พัฒนาธุรกิจและตนเองแบบ S-Curve
นอกจากข้างต้นที่กล่าวมาทั้งหมดแล้วนั้น เศรษฐีที่ดีมักจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากคนรอบข้างด้วย พวกเขาจะให้ความหมายกับทุกๆ ประสบการณ์ที่ได้รับ เพราะบางสิ่งที่ได้มาจากคนรอบข้าง คือ ครูที่ดีที่จะช่วยให้พบคำตอบทางลัดบางอย่างได้มากกว่าการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
ถ้าอยากเป็นเศรษฐี คนรวย หรือผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต คุณพร้อมจะเปลี่ยนพันธุกรรมชีวิตแล้วหรือยัง
อ้างอิง: Pawawit Stock Comment, Pepperrr.net
