โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

พักผ่อนน้อย กินไม่ดี สุขภาพพัง ดูแลตัวเองกันหน่อย : 6 สิ่ง ที่จะช่วยดูแลสุขภาพของคนวัยทำงาน

Mango Zero

เผยแพร่ 16 ต.ค. 2561 เวลา 10.12 น. • Mango Zero
พักผ่อนน้อย  กินไม่ดี สุขภาพพัง ดูแลตัวเองกันหน่อย  : 6 สิ่ง ที่จะช่วยดูแลสุขภาพของคนวัยทำงาน

วัยทํางาน – วัยที่เป็นพาร์ทใหญ่ของชีวิต แต่กลับเป็นช่วงที่เราละเลยสุขภาพอย่างไม่ใยดี ใช้ร่างกายทำงานจนคุ้มจนลืมดูแลตัวเอง ไหนจะปัจจัยภายนอก อย่างมลพิษในอากาศที่เราเจอห้องแอร์วันละหลายชั่วโมง, สารเคมีที่มากับอาหารที่เราทาน ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำลงอีก จนเป็นหวัด ไอค่อกแค่กแทบตลอดทั้งปี

จากสถิติที่วัยทำงานเป็นวัยที่ใส่ใจกับสุขภาพน้อยที่สุดในประเทศไทย แต่ในบางประเทศอย่าง ประเทศญี่ปุ่นแม้จะทำงานหนักแต่กลับมีสุขภาพที่ดี เพราะดูแลสุขภาพด้วยการทานอาหาร เช่น การบริโภคเห็ดเป็นประจำ เป็นต้น ถึงเวลาแล้วที่เราอยากให้ลองมาปรับการใช้ชีวิตดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ให้ของขวัญกับร่างกายบ้างกันดีกว่า

อย่าข้ามมื้อเช้า

นอนดึกตื่นสายไปทำงานไม่ทัน ได้กินข้าวอีกทีก็มื้อเที่ยงที่ออฟฟิศแล้ว

ซึ่งการไม่รับประทานอาหารเช้าส่งผลเสียกับร่างกายมากกว่าที่คุณคิด เพราะจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ทำให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่พอ และการทานอาหารไม่ตรงเวลายังอาจส่งผลให้เกิดโรคอย่างกระเพาะอาหารอักเสบ, ภาวะกรดไหลย้อน, ท้องอืด, ท้องเฟ้อ ตามมาอีกด้วยนะ

ส่วนอาหารเช้าที่ควรเลือกทาน ตัวอย่างเช่น ต้มเลือดหมู, ขนมปังไข่ดาว, โจ๊กหมู, น้ำเต้าหู้ โดยอย่าเน้นเมนูที่มีน้ำตาลมากจนเกินไป

ข้อดีของการทานอาหารเช้าจะทำให้สุขภาพเราดีขึ้นในด้านต่างๆ เช่น ระบบภูมิคุ้มกัน, ระบบเผาผลาญ และทำให้เรามีสมาธิในการทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย

อย่านั่งติดโต๊ะทั้งวัน

หลายคนน่าจะเคยได้ยินถึงโรค “ออฟฟิศซินโดรม” และหลายคนอีกเช่นกันที่มีความเสี่ยงและอาจเคยผ่านโรคนี้กันมาแล้ว ซึ่งเกิดจากการนั่งท่าเดิมเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดความผิดปกติในระบบของร่างกาย เช่น ระบบกระดูก, ระบบกล้ามเนื้อ, ระบบย่อยอาหาร, ระบบหัวใจ, ระบบฮอร์โมน ฯลฯ จนเกิดอาการปวดหลัง, ปวดคอและปวดศีรษะ โดยการป้องกันลดความเสี่ยงการเป็นโรคนี้ด็คือ คอยลุกจากโต๊ะมาเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 20 นาที

ยิ่งถ้าใครทำงานหน้าจอคอมเป็นประจำ อาจเกิดอาการตาล้า มองภาพได้ไม่ชัดเจนจนเกิดอาการปวดศรีษะตามมาอีกเช่นกัน เราจึงควรพักสายตาทุก 1 ชม. โดยการมองออกไประยะไกลบ้างสัก 3-5 นาที

นอนให้พอ

การนอนดึกเป็นการบั่นทอนทำลายร่างกายของเราในแต่ละวัน ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานไม่เต็มที่ ไม่มีสมาธิ การนอนหลับให้เพียงพอวันละ 7-8 ชม. จึงสำคัญอย่างมาก ช่วยให้ร่างกายของเราสดชื่น แจ่มใส และสร้างสมดุลให้ร่างกายทำงานให้เป็นปกติ ทำงานมาเหนื่อยล้าทั้งวันอย่าลืมหาเวลาผ่อนคลายให้ร่างกายกันด้วยนะ

ลดเค็มจัด เผ็ดจัด ทานผักให้มากขึ้น

การกินเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของเรา แต่ในละวันการกินของเรามักเป็นไปอย่างเร่งรีบและไม่ตรงต่อเวลาเพราะการทำงานที่คาดเดาไม่ได้ ทำให้บางครั้งอาหารที่เรามักทานเป็นประจำจึงเป็น อาหารกึ่งสำเร็จรูป, ฟาสท์ฟู้ด ซึ่งเป็นตัวก่อโรคร้ายหลายชนิด เช่น โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคอ้วน และโรคตับ โดยมีข้อมูลสำรวจจากสำนักสถิติแห่งชาติพบว่า วัยทำงานบริโภคอาหารหลักครบทั้ง 3 มื้อน้อยกว่าวัยอื่นๆ

การหันมาใส่ใจกับอาหารที่ทานเลือกทานผักให้มากขึ้น ลดของมันของทอด สลับกับการทานอาหารคลีนในมื้อต่างๆ จะช่วยให้ร่างกายของเราดีขึ้น ลดอาการเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ได้

ออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายสร้างผลดีให้ร่างกายอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากจะทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย, เผาผลาญพลังงาน ยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย และการนั่งเป็นเวลานานๆ ของคนทำงานออฟฟิศยังจะทำให้ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง, สะโพก และต้นขา ซึ่งการออกกำลังกากายนี่แหละที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ลองจัดเวลาประมาณอาทิตย์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที อาจเป็นช่วงเช้าก่อนทำงานหรือช่วงเย็นหลังเลิกงานก็ได้ รับรองว่าสุขภาพทั้งกายและใจจะดียิ่งขึ้นแน่นอน

ดูแลร่างกายอยู่เสมอ

วัยทํางานอย่างเราต้องเจอปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอกต่างๆ อยู่เสมอ เช่น ระหว่างเดินไปทํางานหรือกลับบ้าน เราต้องเจอมลภาวะ อากาศ หรือโรคต่างๆ ต้องหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยดูแลร่างกายอยู่เสมอ “แบรนด์เห็ดสกัดเข้มข้น”ซึ่งแบรนด์เห็ดสกัดเข้มข้น ประกอบไปด้วยเห็ดที่มีคุณประโยชน์ถึง 5 ชนิด ด้วยกัน คือ

  • เห็ดชิตาเกะ
  • เห็ดไมตาเกะ
  • เห็ดยามาบูชิตาเกะ
  • เห็ดหลินจือ
  • ถั่งเฉ้า

รับประทานวันละ 1 ขวด พร้อมเต็มที่ลุยกับทุกวัน

ขอบคุณที่มาจาก : Honestdocs, Advisor Anamai, RSUhealth, Thaihealth, Nso.go

 

 

 

 

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0