ในที่สุดนโยบายสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ค่ายเซเว่นอีเลฟเว่น ยึดมั่นถือมั่น และใช้ปฏิบัติต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ปี 2518 ก็ถึงกาลอวสานลงในปี 2562
นายฟูมิฮิโกะ นากามัตสึ ซีอีโอใหม่เอี่ยมป้ายแดงของเซเว่นอีเลฟเว่นแจแปน ซึ่งขยับจากตำแหน่งรองประธาน ขึ้นมาเบียดกินตำแหน่งนายคาซูกิ ฟูรุยะ ให้ต้องตกกระป๋องลงไป ได้แจ้งอย่างเป็นทางการให้รู้ทั่วกันเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมาว่านับจากวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในญี่ปุ่นอย่างน้อย 8 แห่งจะเปลี่ยนจากที่เคยเปิดบริการ 24 ชั่วโมง เหลือ 16 ชั่วโมง หรืออาจจะน้อยลงกว่านั้น
คำแถลงยุตินโยบายสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง โดยซีอีโอคนใหม่เอี่ยมของเซเว่นอีเลฟเว่นแจแปนที่ว่านี้ เกิดขึ้น 7 เดือนคล้อยหลังกรณีนายฟูรุยะ อดีตซีอีโอที่ถูกปลดจากตำแหน่ง สั่งปรับนายมัตสึโมโตะ ซาเนโตชิ เจ้าของสาขาเซเว่นอีเลฟเว่นในโอซาก้าเป็นเงิน 17 ล้านเยน ฐาน”ละเมิดสัญญา” ด้วยการลดเวลาเปิดบริการจาก 24 ชั่วโมง เหลือ 19 ชั่วโมงระหว่างเวลา 06:00 น.ถึง 01:00 น. แล้วระงับการเปิดบริการช่วงเวลา 01:00 น.-06:00 น. โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากบริษัทแม่ที่เป็นคู่สัญญา
นายซาเนโตชิ ที่เป็นคู่สัญญาซึ่งถูกนายฟูรุยะ อดีตซีอีโอของเซเว่นอีเลฟเว่นแจแปนสั่งปรับ ได้ยกเอา 2 เหตุผลมาเป็นข้อต่อสู้
เหตุผลแรก เป็นประเด็นเรื่องสุขภาพ ที่ไม่สามารถแบกรับภาระการเปิดให้บริการได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง
เหตุผลที่สอง เป็นประเด็นเรื่องปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ที่ทำให้ไม่สามารถจัดหาแรงงานมารับผิดชอบการให้บริการได้ตามสัญญา
ปฏิกิริยาการต่อสู้ของนายซาเนโตชิ มิได้เป็นไปอย่างโดดเดี่ยว แต่ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากสหภาพแรงงานของเซเว่นอีเลฟเว่นที่ออกมาร่วมเคลื่อนไหวกดดันให้ผู้บริหารพิจารณาลดเวลาบริการลง ขณะเดียวกันนายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ก็มีท่าทีเห็นใจต่อการตัดสินใจของนายซาเนโตชิ และคล้อยตามกับการเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงานเซเว่นอีเลฟเว่นอีกด้วย
ผลลัพธ์จากการต่อสู้ของนายซาเนโตชิ ได้ก่อเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นกับเซเว่นอีเลฟเว่นแจแปน 2 ประการ
ประการแรก นายคาซูกิ ฟูรุยะ ถูกปลด และนายฟูมิฮิโกะ นากามัตสึ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งซีอีโอแทนแบบสายฟ้าแลบ
ประการที่สอง เซเว่นอีเลฟเว่นแจแปน สั่งทดลองลดเวลาบริการจาก 24 ชั่วโมง เหลือ 16 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 07:00-23:00 น. ในเซเว่นอีเลฟเว่นที่ดำเนินการเอง จำนวน 10 แห่งใน 8 จังหวัดคือโตเกียว-มิยางิ-โทจิงิ-ชิบะ-ไอจิ-เฮียวโงะ-ฟูกูโอกะ-คูมาโมโตะ
การทดลองลดเวลาบริการใน 10 สาขาที่ว่า เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม และเป็นที่มาของแถลงการณ์โดยซีอีโอป้ายแดงเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม
นายริวอิจิ อิซากะ ซีอีโอบริษัทเซเว่นแอนด์ไอโฮลดิ้ง ซึ่งเพิ่งขยับจากเก้าอี้ซีอีโอเซเว่นอีเลฟเว่นแจแปนที่เป็นบริษัทลูก ไปแทนที่นายโตชิฟูมิ ซูซูกิ ที่ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลชราภาพได้ไม่ถึง 3 ปี ได้ประกาศทิศทางนโยบายใหม่สำหรับเซเว่นอีเลฟเว่นแจแปน โดยจะหันเหจากที่เคยมุ่งมั่นทุ่มเทการขยายจำนวนสาขาเพิ่มขึ้น มาเป็นการให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของแต่ละสาขาให้ดีขึ้น เพื่อรับกับสถานการณ์ขาดแคลนแรงงาน
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเซเว่นอีเลฟเว่นแจแปน สะท้อนความอ่อนด้อยในการปรับปรุงพัฒนาตัวเองให้ลื่นไหลไปกับวิวัฒนาการโลกเทคโนโลยีสารสนเทศของเซเว่นอีเลฟเว่นในญี่ปุ่น ที่เป็นรองทั้งค่ายลอว์สัน และค่ายแฟมิลี่มาร์ท ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญในการตลาดคอนวีเนี่ยนสโตร์เหมือนกัน
ขณะที่ค่ายเซเว่นอีเลฟเว่นยังเงอะงะกับการลดเวลาบริการ แต่ค่ายลอว์สัน กลับพลิ้วไหวไปกับการเปิดเคาน์เตอร์บริการแบบ Self Service สำหรับช่วงเวลา 24:00-05:00 น. และค่ายแฟมิลี่มาร์ท ก้าวล้ำไปกับระบบเชื่อมโยงข้อมูลใบหน้ากับบัตรเครดิตของลูกค้า ที่ก้าวข้ามปัญหาขาดแคลนพนักงานไปแล้ว !
