ประกาศใช้แล้ว พระราชบัญญัติงบประมาณใหม่ คุมเข้มการจัดทำงบและเบิกจ่าย กำหนดผู้รับผิดชอบและประเมินผลชัดเจน เพิ่มบทลงโทษใคร"ซิกแซก"เจอโทษหนัก ทั้งแพ่ง-อาญา คู่สัญญาเจอด้วย
รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการใช้เงินภาครัฐหลายเรื่อง ก่อนหน้านี้คือระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง โดยล่าสุดได้ปรับปรุงในกรอบใหญ่ คือ งบประมาณของประเทศ โดยออกพระราชบัญญัติฉบับใหม่มาแทนฉบับเดิมทั้งหมด
ทั้งนี้ ราชกิจจานุเบกษา ประกาศใช้ พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 โดยให้ยกเลิกพระราชบัญญัติก่อนหน้านั้น 7 ฉบับ
พระราชบัญญัติที่ยกเลิก คือ พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502,พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2503 ,พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2511 ,ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 203 ลงวันที่ 31 สิงหาคม พุทธศักราช 2515(5) พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2517, พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2534 และพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2543
ดูรายละเอียด พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณได้ใช้บังคับ มาเป็นเวลานาน สมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดทํางบประมาณ การบริหารงบประมาณรายจ่าย การควบคุมงบประมาณ รวมถึงการประเมินผลและการรายงานการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้กระบวนการจัดสรร งบประมาณของประเทศมีลักษณะที่มุ่งเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของงบประมาณเป็นสําคัญ และเพื่อให้ เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณยิ่งขึ้น จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
พระราชบัญญัติ ฉบับใหม่มีทั้งสิ้น 61 มาตรา รวมบทเฉพาะกาล โดยมีบทบัญญัติตั้งแต่เรื่องการจัดทำงบประมาณ การบริหาร และการประเมินผล แต่ที่เพิ่มมาค่อนข้างเข้มงวด คือ มาตรา 42 ในหมวดที่ 8 ว่าด้วยความรับผิด ดังนี้
มาตรา 52 ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยรับงบประมาณ ผู้ใดจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพัน หรือโดยรู้อยู่แล้วยินยอมให้กระทําการดังกล่าวนั้นโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ หรือระเบียบที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ นอกจากความรับผิดทางอาญาซึ่งอาจได้รับตามกฎหมายอื่นแล้ว ผู้กระทําหรือผู้ยินยอมให้กระทําการดังกล่าวจะต้องรับผิดชดใช้เงินงบประมาณที่หน่วยรับงบประมาณได้ จ่ายไปหรือต้องผูกพันจะต้องจ่าย ตลอดจนค่าสินไหมทดแทนใด ๆ ให้แก่หน่วยรับงบประมาณนั้น
บุคคลภายนอกผู้ได้รับประโยชน์จากการกระทําตามวรรคหนึ่ง จะต้องร่วมรับผิดกับผู้กระทําการ ฝ่าฝืนด้วย เว้นแต่จะแสดงได้ว่าตนได้กระทําไปโดยสุจริตไม่รู้เท่าถึงการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติหรือระเบียบ ดังกล่าว
ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับแก่ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งได้ทักท้วงคําสั่งของผู้บังคับบัญชาหรือได้บันทึกข้อโต้แย้งไว้เป็นหนังสือแล้วว่า การที่จะปฏิบัติ ตามคําสั่งนั้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือระเบียบ
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติฉบับนี้ จะเริ่มนำมาใช้ในการจัดทำงบประมาณในปีหน้า คือ งบประมาณปี 2563
