โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ผ่ากลยุทธ์‘แดร์คลาสสิเคอร์’ ‘เสือเหลือง’vs‘เสือใต้’ ฤาจะเดิมพันแชมป์บุนเดสลีกา!?!

แนวหน้า

เผยแพร่ 25 พ.ค. 2563 เวลา 23.00 น.

ศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี ถือเป็นศึกใหญ่ที่แฟนบอลทั่วโลกเฝ้าจับตามอง หลังจากพวกเขามีเรตติ้งพุ่งกระฉูดนับตั้งแต่กลับมาดวลแข้งกันได้ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

แมทช์เดย์ที่ 27 ช่องว่างระหว่าง “ผู้นำ” กับ“ผู้ตาม” ยัง 4 แต้มเหมือนเดิม นั่นคือ “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิค นำจ่าฝูงอยู่ที่ 61 คะแนน ตามมาด้วย“เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 57คะแนน

แต่ที่ตามมาถือว่านัวมากๆ…“สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค จากที่ 3 หล่นไปที่ 5 มี 52 คะแนนเท่าเดิมเพราะกันแพ้ “ห้างยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คาบ้าน ทำให้ เลเวอร์ฯมี 53 คะแนน อยู่ที่ 4

“กระทิงเปลี่ยว” อาร์เบ ไลป์ซิก คืนฟอร์มบุกถลุง ไมนซ์ 05 ด้วยสกอร์ 5-0 กลับมาอยู่ที่ 3มี 54 คะแนน ทำให้ 2 นัด ที่เจอกัน ไลป์ซิก ยำแหลกรวม 13-0 ติโม แวร์เนอร์ เย่อคนเดียวดับเบิ้ลแฮททริก!!!!!

ขณะที่เกมหนีตาย เริ่มมันส์ “นางนวล” เบรเมนหยุดอ่าน “นวลนาง” บุกหักคอ ไฟร์บวร์ก ถึงป่าดำ 1-0ตามหลังพื้นที่เพลย์ออฟ เหลือ 3 แต้ม

โปรแกรมนัดวันอังคารนี้ มีทั้งหมด 4 คู่ 01.30 น.ประกอบด้วย แวร์เดอร์ เบรเมน พบกับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค,ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต พบกับ ไฟร์บวร์ก และไบเออร์เลเวอร์คูเซ่น พบ โวล์ฟสบวร์ก ส่วนคู่ที่เตะก่อนใครในเวลา 23.30 น. พลาดไม่ได้ในทุกประการนั่นคือ ศึกแห่งศักดิ์ศรี โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ดวลล่าท้าแชมป์กับ บาเยิร์น มิวนิค

“แดร์ คลาสสิเคอร์” ครั้งที่ 126 แมทช์นี้ ที่สนามซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ในนอร์ธ ไรน์-เวสต์ฟาเลีย “พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36” ถ่ายทอดสด

l ฟอร์มแจ่ม-แรงพอกัน

การกลับมาออกสตาร์ทหลังจากต้องพักไปนานถึง 63 วัน ปรากฏว่าทั้งสองทีมเอาชนะได้ทั้งหมด พร้อมกับทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ฝั่ง “เสือใต้” บุกไปชนะ อูนิโอ เบอร์ลิน 2-0 ก่อนจะถล่ม ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 5-2 โดยแต้มเพื่อลุ้นแชมป์สมัยที่ 30 ของสโมสร และถ้าทำได้ 8 ปีติดต่อกัน เพราะฟอร์มร้อนมากไม่แพ้ใคร 13 นัดติด และชนะถึง 12 นัด

ทางฝั่ง “เสือเหลือง” สตาร์ทแรงด้วยการถลุงชาลเก้ 04 ในดาร์บี้แมทช์แห่งแคว้นรูห์ 4-0 ก่อนจะไปปราบ โวล์ฟสบวร์ก ถึงถิ่น 2-0 ทำให้การลุ้นแชมป์ยังคงเปิดกว้างอยู่เช่นเดิม หลังจาก 10 นัดหลังเก็บชัยชนะได้ถึง 9 เกม และชนะมา 6 นัดรวด

l ผ่าขุมกำลัง ‘เสือเหลือง’

อาการบาดเจ็บของ มาร์โก้ รอยส์ ยังไม่มีผลต่อผลงานของทีม หลังจาก ลูเซียง ฟาฟร์ ปรับระบบมาเป็น 3-4-3 ใช้สปีดแรงจากริมเส้นทั้ง ราฟาเอล เกร์เรยโร่กับ อัชราฟ ฮาคิมี่ มาช่วยเสริมเกมบุก ถือเป็นแผนที่เป็นความบังเอิญแบบพอดี หลังจากยืนกองหลังหน้ากระดานเรียงสี่ แล้วมีรอยรั่ว

ปัญหาคือ มัทส์ ฮุมเมิลส์ ที่เจ็บเอ็นร้อยหวายตั้งแต่การซ้อมเมื่อศุกร์ที่แล้ว และกัดฟันลงเล่นได้ครึ่งเดียวในเกมทุบ โวล์ฟสบวร์ก หากลงไม่ได้คือปัญหาทันทีเพราะ ฮุมเมิลส์ เล่นได้ลงตัว กับ ลูคัส พิสเซ็ค และมานูเอล อคานจี ขณะที่ตรงกลางดูเหมือนว่า มาห์มูด ดาฮูดกับ โธมัส เดอลานี่ย์ 2 ตัวสำรองกำลังเล่นได้ดีมากๆ แม้ว่าเอ็มเร่ ชาน กับ อั๊กเซิ่ล วิตเซิ่ล จะหายเจ็บกลับมายังเบียดไม่ลง

ขณะที่เกมรุก จาดอน ซานโช่ คือปริศนาสำคัญว่า เขาฟิตพอหรือไม่ หลังจากลงมาแอสซิสต์ลูกที่ 16 ในซีซั่นนี้เป็นสถิติใหม่ของทีม เช่นเดียวกับ โจวานนี่ เรย์น่า ที่เจ็บตอนวอร์มจนเสียโอกาสตัวจริง เพราะ ธอร์กก็อง อาซาร์ ที่ลงแทนมา 2 เกม ก็สามารถแอสซิสต์ได้ทั้งสองนัด ทำให้มีโอกาสเป็นไปได้ทั้งหมดว่าใครจะได้เล่น แต่ 2 เกมที่ผ่านมาอาซาร์ เล่นกับ ยูเลี่ยน บรันด์ท โดยมี เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์เครื่องจักรสังหารจากนอร์เวย์ ปักหอกซัดไปแล้ว 10 ประตู จากการลงตัวจริงเพียง 7 เกมเท่านั้น

l ผ่ากองกำลัง ‘เสือใต้’

เกมบุกที่ร้อนแรงช่วยให้ทีมเดินหน้าคว้าชัยได้อย่างต่อเนื่อง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ซัดไปแล้ว 27 ประตูในลีก ยอดรวมทะลุ 41 ประตู ทำให้ยิงได้เกิน 40 ลูก5 ซีซั่นติดต่อกันเป็นหัวใจสำคัญ ประเด็นคือ จะเลือกใครใส่ในตำแหน่งกองกลางกับตัวรุก ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่า จะได้ลงแน่ๆ คือ โยชัว คิมมิช กับ โธมัส มุลเลอร์

หลายคนที่อยู่ในข่ายได้สตาร์ท ซึ่ง เลออนกอเร็ตซ์ก้า ได้เล่นมา 2 เกมติด แต่ ติอาโก้ อัลคันตาร่าก็พร้อมจะเล่นเช่นเดียวกันกับตัวเลือกทางริมเส้นทั้งอีวาน เปริซิซ กับ แซร์จ กนาบรี้ และคิงส์ลี่ย์ โกมานต่างได้สตาร์ทคนละเกม ทำให้ทีมมีการเปลี่ยนเกียร์ปรับสปีดได้อย่างน่าสนใจ

ปัญหาของ “เสือใต้” นั่นคือแนวรับที่ปะผุของ ฮันซี่ฟลิค ได้อย่างน่าสนใจ เมื่อยังขาด นิคลาส ซือเล่ กับฆาบี มาร์ติเนซ แต่แบ๊กโฟร์ฉุกเฉินทั้ง เบนฌาแม็ง ปาวาร์,เยอโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา และอัลฟอโซ่ เดวิส เล่นได้ลงตัวมาก ข่าวดีคือการกลับมาของ ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ ทำให้ทีมมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

l สถิติ…สถิติ…สถิติ

ทศวรรษที่ผ่านมา มีแค่ 2 ทีมนี้ที่ได้แชมป์มาครอง บาเยิร์นฯ ทำไป 8 สมัย ดอร์ทมุนด์ 2 สมัย ซีซั่น 2010-11และ 2011-12 ยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์

บาเยิร์นฯ 29 สมัย ดอร์ทมุนด์ 8 สมัย อยู่ในอันดับ 3 โดยอันดับ 2 คือ เนิร์นแบร์ก ที่ตอนนี้ดิ้นรนหนีตายอยู่ในลีกา 2

คู่นี้ปะทะกันครั้งแรก ดอร์ทมุนด์ บุกมาชนะที่มิวนิค 2-0 เมื่อ 16 ตุลาคม 1965 นับจากวันนั้น เจอกันมาทั้งหมด 125 นัด บาเยิร์นฯ ชนะ 59 ดอร์ทมุนด์ ชนะ 33เสมอ 33 บาเยิร์นฯ ยิง 238 ดอร์ทมุนด์ ยิง 150 นับเฉพาะในลีก 103 นัด บาเยิร์นฯ ชนะ 48 ดอร์ทมุนด์ ชนะ 26 เสมอ 29 พบกันหนแรกปีนี้ บาเยิร์นฯ ถลุง 4-0 ซึ่งเป็นเกมแรกที่ ฮันซี่ ฟลิค คุมทัพลงเล่นในบอลลีกอีกด้วย

l นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ดอร์ทมุนด์ : โรมัน เบือร์กี้-ลูคัส พิสเซ็ค, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มานูเอล อคานจี-อัชราฟ ฮาคิมี่, มาห์มูด ดาฮูด, โธมัส เดอลานี่ย์, ราฟาแอล เกร์เรยโร่-ยูเลี่ยน บรันด์ท, เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์, ธอร์กก็อง อาซาร์

เทรนเนอร์ : ลูเซียง ฟาฟร์

บาเยิร์น มิวนิค :  มานูเอล นอยเออร์-เบนฌาแม็ง ปาวาร์,  เยอโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา, อัลฟอนโซ่เดวิส-โยชัว คิมมิช, ติอาโก้ อัลคันตาร่า-คิงส์ลี่ย์ โกมาน,เลออน โกเร็ตซ์ก้า, โธมัส มุลเลอร์-โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

เทรนเนอร์ : ฮันส์ ดีเตอร์-ฟลิค

l ผ่าเกมลูกหนัง-อาจเป็นวันชี้ชะตาแชมป์

คิดง่ายๆ ในเกมนี้ ถ้าหาก ดอร์ทมุนด์ ชนะ จะทำให้การล่าแชมป์เปิดกว้างมากเพราะสถานการณ์จะตามหลังและนำไม่ห่างแค่คะแนนเดียว แต่ถ้าเป็น บาเยิร์นฯ ชนะก็จะเป็นไปกลับฉีกห่าง 7 แต้มแบบนี้ไม่น่าจะเหลือ

ปีก่อนบู๊กันที่นี่ ดอร์ทมุนด์ ชนะไปสุดมันส์ 3-2ว่ากันว่าบรรยากาศพาเกมนี้ไปให้หรอยแรง แต่เกมนี้ไม่มีแฟนบอลเข้ามาเชียร์คือสิ่งเร้ารอบข้างไม่มี แต่นี่คือสิ่งคุ้นชินที่นักบอลได้สัมผัสมาแล้ว 2 เกม นั่นคือต้องบิวท์มันขึ้นมาด้วยตัวเอง

“แดร์ คลาสสิเคอร์” หนนี้ถือว่ามาพอดีจังหวะ นักบอลหลายคนเคาะสนิมกันไปแล้ว และเป็นช่วงเวลาที่เตรียมจะต้องสู้กันแบบถี่ยิบ สภาพร่างกายยังไม่ช้ำมากมายนัก และกำลังติดเครื่อง จะทำให้เกมนี้สนุกแน่นอน โดยใครชอบสายสปีดเดินทางเร็วต้องดู ดอร์ทมุนด์ แต่ถ้าดูจังหวะฝีมือในการเล่นให้ดู บาเยิร์นฯ

ทั้งสองทีมเหมือนกันตรงที่กำลังเดินผ่านเข้าสู่ยุคใหม่การถ่ายเลือดครั้งสำคัญเกิดขึ้นทั้งในแผนการเล่น และในตัวผู้เล่นต่าง ๆ

หลายเสียงเชื่อมั่นว่า เกมนี้น่าจะตัดสินแชมป์กันไปเลยก็ถือว่า ไม่ผิด แต่นี่คือ การกำหนดทิศทางที่ชัดเจนของบุนเดสลีกา ในซีซั่นนี้เลยก็ว่าได้ แม้ ฮันซี่ ฟลิค จะบอกว่า นี่ไม่ใช่เกมตัดสินแชมป์ แต่ถ้าหากนำไป 7 แต้มถือว่ามีโอกาสพลาดได้อีก 2 หน ซึ่งตามทรงแล้วยากมาก

นัดนี้จับตาตั้งแต่การ “จัดทัพ” เพราะ ลูเซียง ฟาฟร์ ทำเรื่องแปลกๆ ประหลาดๆ มาหลายครั้งในเกมใหญ่ที่เจอกันและแพ้เละทั้ง 2 ครั้ง ที่ถิ่นบาวาเรีย

แต่เขาก็ปรุงรสได้กลมกล่อมเวลาได้เล่นในบ้าน และได้วูบวาบน่ากลัว

ตรงกันข้าม ฮันซี่ ฟลิค ไม่ได้ทำ บาเยิร์นฯ ให้เป็น“เอฟซี ฮอลลีวู้ด” อย่างที่คุ้นเคย แต่ทุกคนเล่นแบบทำงานหนัก ไม่เร่งร้อน แต่ให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ตัวเองต้องการ

เมื่อประมวลจากเหตุผล และสถานการณ์

รับประกันว่า คู่นี้ใส่กันยับแน่นอน

บี แหลมสิงห์

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0