โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

"ผูกนิพานโลกีย์" ตำรากามสูตรสัญชาติไทย คาถาขอบุตร-จุดอารมณ์หญิง-ขนาดสำคัญไฉน

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 13 ก.ย 2566 เวลา 05.35 น. • เผยแพร่ 12 ก.ย 2566 เวลา 08.52 น.
ภาพปก - ผูกนิพานโลกีย์
ภาพกิจกรรมเชิงสังวาสแบบชาวบ้าน จิตรกรรมที่วัดหนองยาวสูง จังหวัดสระบุรี

ผูกนิพานโลกีย์” ตำรากามสูตร สัญชาติไทย มีเนื้อหาอย่างไรกัน?

เราคงมิอาจปฏิเสธได้ว่าการ “เสพสมพาส” มีความหมายอย่างยิ่งในการธำรงรักษาเผ่าพันธุ์ของมนุษย์มิให้สูญสิ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอารยธรรมตะวันออกนั้น การเสพสมพาสได้รับการยอมรับว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง คือเป็นศิลปะในการร่วมรักด้วยท่วงท่าต่างๆ เพื่อให้การปฏิบัติกิจนั้นเกิดความสุขอย่างหฤหรรษ์ ตำราในลักษณะนี้ที่ขึ้นชื่อลือชาและรู้จักกันทั่วโลก คงไม่พ้น “ตำรากามสูตร” ของอินเดีย

ในสังคมไทยนับแต่โบราณมา เรื่องการเสพสมพาสถือเป็นเรื่อง “บัดสีบัดเถลิง” ผู้ดีย่อมไม่กล่าวถึง (ในที่แจ้ง) ดังนั้นตำราในลักษณะนี้จึงมักไม่เกิดขึ้นได้ง่าย อย่างไรก็ตามในขณะที่สังคมปิดกั้นเรื่องดังกล่าว นิทานพื้นบ้านและเพลงพื้นบ้านกลับบรรจุเรื่องราวเหล่านี้ไว้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะนิทานแนวตาเถรกับยายชี เพลงปฏิพากย์ต่างๆ ที่แสดงถึงการระบายออกเรื่องเพศของสังคม แต่ก็ยังไม่พบตำราหรือบันทึกใดๆ ที่กล่าวถึงการเสพสมพาสไว้อย่างชัดเจน การค้นพบวรรณกรรมที่เป็นตำราในลักษณะ “กามสูตร” ที่มีสัญชาติไทยเต็มร้อยครั้งนี้จึงนับเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง

เรื่อง ผูกนิพานโลกีย์ นี้ พบที่วัดไผ่ล้อม ตำบลบางพระ อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด จารลงใบลาน ด้วยอักษรขอมและอักษรไทย ประพันธ์เป็นกลอนสุภาพ จำนวน 1 ผูก ฉบับลานดิบ มี 28 หน้าลาน ใบลานหน้าปกมีข้อความจารว่า“ผูกนีภานโลกี ฯIะ จบบ่อรีบูญตามช่บับแล ฯIะ” ใบลานหน้าปลายมีข้อความจารว่า “ฯIะ นีภารโลกีผูกนีข้าพ่เจ้านายรุ่งล่คอร จำลองไวยสืบกู่ลบุตไปยในยผายภากหน้านั้นแล ฯIะ” เป็นอันว่าเรื่องผูกนิพานโลกีย์นี้นายรุ่งโต้โผคณะละครคัดลอกไว้ เพื่อไม่ให้ลูกหลาน “สูญพันธุ์”

จักฃ่อกล่าวตำราชตาหยีง

แต่บูราญทายทักประจักจริ่ง

เปนไหญ่ยิ่งลัคะณ่นารี

ในช่โลกเรียกว่าโลกค่วีใสย

อุประไมดังตราพระยาราช่ษีร

ตีประทับไว้ยสำรับกระสัตรี

ใครชัวดีดูรูในยกายา

เริ่มต้นเรื่องด้วยการทำนายวันเดือนปีเกิดของหญิง เพื่อทำนายสัณฐานและขนาดของของลับและปริมณฑล อารมณ์ทางเพศและลักษณะนิสัย ในการทำนายนั้นตามตำรามีวิธีการดังนี้คือ

ท่านใหยเอาปีเดีอรวันกำเนีด

ที่ก่อเกีษออกจากครันชัณ่ษา

บวกกันเข้าไวยเปนตำรา

เอาตรีภพ่โลกานันมาคูน

เอา ๘ ทีดษานั้นมาหาร

มากประมารกว่าเสษ ๗ ว่าเสดสูน

ทายตามตำราอย่าอาดูน

คูนหารให้ยถูกย่ากลัวแคลง ฯ

เมื่อคำนวณวันเดือนปีเกิดได้ตามวิธีการแล้ว จึงนำเศษนั้นมาตรวจกับตำรา ดังจะขอยกตัวอย่างดังนี้

เสด ๑ พืงพิศ่ไบยพูล

ร่วมรูรอยแค่บอยานายแหนง

ประกอ่บดวยมาร่ยาตันหาแรง

ยาร่แวงขนมากไม่ยยากมี

ถ้าทำเถิ่งไจยากลัวอด

เถิ่งสิ้นมดจนตายไม่ยนายหนี

จฉีบหายลาโภเพราะโยนี

มักถอยทรัพอัปีรเชีอใจยคล ฯ

เสษ ๒ ดังกระดองเต่าหับ

ว่ารอยคับแคมโคกปีดหปากหน

มันนอกใจยหมีไห้ยผัวรูกน

เสนขนมากดํกปํกปิดทาง

เถิ่งทำเทาไรยก็ยังมาคีดคํด

ไม่ละพ่ยศทีชัวยาอางขนาง

จะอาภับโภคาคียาร่าง

ด้วยกระดางทังสองกิ่นแหนงแรง ฯ

หลังจากทำนายวันเดือนปีเกิดเพื่อพยากรณ์ขนาดแล้ว จึงกล่าวถึง “กามจรผู้หญิง” (จุดหรือตำแหน่งที่จะทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ) โดยกล่าวว่าเรียงตามวัน ตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ จนกระทั่งถึงวันแรม 15 ค่ำ รวมทั้งเรียงตามวันทั้ง 7 และช่วงเวลาในแต่ละวันด้วย

เรียกว่าถ้าจะเสพสมพาสให้ถึงฝั่งแล้ว ตามที่ระบุใน ผูกนิพานโลกีย์ จะต้องคำนึงก่อนร่วมรักว่า ตรงกับวันกี่ค่ำ วันอะไร เวลาใด สีผิวของหญิง เพื่อจะได้หากามจรหญิงได้ถูกต้องตามตำรา ดังตัวอย่างช่วงเวลาในแต่ละวัน

วันฯIะ ก่อนไกยแลไก่ยขันอยูฝาตีน ครันรุ่งอยู่ฝาตีน ครันรุ่งอยู่ไบยหู แดษอุนอยูนํมทังสองค่าง กอนงายยูตํนแขน สายอยู่ปลายนีอแลงายแกแมแลงต่วันเทียงอยู่ปาก ต่วันชายอยูทองน้อย บายควายอยู่หัวแลน้า ฝายคำยูโยนี เมือเข้านอนยูปลายตีน เทียงคืนอยู่ต่โภ่ก เสพด้วยมันให้ยคลำโยนีมัน ๓ ที ให้ยมันคลำอํงคชาติด้วย ๓ ที เสพด้วยมันรักแล ฯIะ

ในตำราได้กล่าวถึงสรรพคุณของ “กามจรหญิง” นี้ไว้ว่า “ท่าบุรุษผูไดยทำตามกล่าวมาดังนี ถ้าแมนว่าไปยศัก ๑๐๐ ปีหมีลืมเลย กล่าวไวยทังนีไหยีงชายทังหลายทังปวงภํบหํนทางนี เส่มีอรนึ่งภ่บหํลทางส่วันนีภาฬแล ” “ไหรูจักกามจอรตามลัคณวันกาม จอรทีในยให้จับทีนันใมรองเลย ฯ” เข้าใจว่าด้วยสรรพคุณดังกล่าวนี้เอง จึงเป็นที่มาของชื่อวรรณกรรมเรื่องนี้

จากนั้นเป็นอักษรขอมประโยคหนึ่งว่า “มาตาปิตุปุตฺตทนํ” เป็นคาถาสำหรับภาวนาขอบุตร ใต้คาถาเป็นภาพจำลองอวัยวะเพศหญิง 3 ภาพ ภายในแต่ละภาพแสดงจุดต่างๆ ของอวัยวะเพศหญิง เพื่อให้ฝ่ายชายได้เลือกว่าต้องการแบบใด โดยแต่ละจุดจะมีคุณประโยชน์แตกต่างกันไป นอกจากนี้ในตำรายังจะได้บอกวิธีการเข้าถึงจุดเหล่านั้น ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย และกลเม็ดเคล็ดลับในการกำหนดว่าใครจะเป็นฝ่ายถึงจุดสุดยอดก่อน โดยพรรณนาไว้อย่างละเอียดลออ ดังตัวอย่าง

“ถ้าจ่ะใหยตองประตูกลางให้ยหยีงนรเยียดตีนตัวเราเข้านังกลาง เอาตีนเราแย่กขาหยีงออกทังสองค่าง แล้วกํดเข้าไวยแต่เทียมควบแล ถ้าตองแล้วใหยเยียดตีนออกจึ่งส่อืกเข้าไปให้ยสีนเถิษ ฯ ถ้าตองประตูใด ยาแซไวยนารจ่เปนพ่ยาติแล ฯ ถ้าจ่ะใหยตองประตูซรายขวาทัง ๔ แห่งนั้นใหยหยีงนอรแหกฃาออกแล้วคู้ตีนเข้าทังสองใหยตีดต่โพ่ก แล้วตัวเราเข้านังกลางแต่เทียมควบใหยต้องชองขวาหยีงนันส่นุกนักแล ฯ”

ในตำรายังได้อธิบายวิธีการร่วมรักให้ต้องกับหญิงสีผิวต่างๆ ขนาดของอวัยวะเพศต่างๆ กามจรของรูปหน้าของหญิงแบบต่างๆ กามจรของลักษณะหัวนมสีต่างๆ ดังตัวอย่าง

“หยิงไดยหัวนํมแดงดังลูกมากศุกกามอยู่ตํนขาแล ฯ ถ้าหัวนํมเฃียวกามอยูแกม ถ้าหัวนํมเหลืองกามอยู่ทองน้อย ถ้าหัวนํมขาวกามอยูส่ดือ ถ้าหัวนํมดำกามอยูอํกแล ฯฯ”

ต่อจากนี้เป็นอักษรขอม ภาษาบาลี ว่าดังนี้ “เอจุตโตปโนอกฺเข จุตโตมิเมมิปาปุตตอุปฺปวา ปุตตปาเสฺสสงฺคโหพุทโธโหติอนาคเต” เป็นคาถาภาวนาขอบุตร แล้วจึงกล่าวถึงการดูลักษณะอวัยวะเพศชาย อวัยวะเพศหญิง และขนเพชร เพื่อทำนายลักษณะนิสัย และปิดฉากลงด้วยการดูลักษณะองคชาต ดังนี้

“ฯ ถ้าผู้ไดยลึงดังดอกบัวมีบูญนักหนาแล ฯ ถ้าผู้ไดยลืงดังงัวมักเลนชูนักแล ฯ ถ้าผู้ไดยลืงดังม้ามีเมียเถิงสองคํลมักเลนชูนักแล ฯ ถ้าผู้ไดยลืงยาว ๔ อํงคูลีจ่มีลูกหลายคํนแลฯ ถ้ายาว ๕ อํงคูลีเมียรักนักหนาแลฯ ถายาว ๖ อํงคูลีเมียเลนชูนักแล ฯ ถ้ายาว ๗ อํงคูลีเขนใจยนักหนาแล ฯ ถ้ายาว ๘ อ่งคูลีมักตายโหงแล”

ผูกนิพานโลกีย์ จึงนับได้ว่าเป็น ตำรากามสูตร สัญชาติไทยอย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะเสนอเรื่องราววิธีการร่วมสมพาสของชายหญิงแล้ว ยังได้แทรกคติความเชื่อและความรู้ทางโหราศาสตร์ ลักษณะทางสรีระของหญิงชายไทยไว้อย่างครบถ้วน ดังที่ท่านผู้ประพันธ์ได้ศึกษาค้นคว้าไว้อย่างละเอียด

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 11 พฤษภาคม 2560

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0