โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

ผลวิจัยล่าสุดชี้จัด เจลล้างมือ หยุดการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ดีกว่าการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ

Thaiware

อัพเดต 15 ต.ค. 2561 เวลา 07.34 น. • เผยแพร่ 15 ต.ค. 2561 เวลา 06.00 น. • เคนชิน
ผลวิจัยล่าสุดชี้จัด เจลล้างมือ หยุดการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ดีกว่าการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ
ใครที่เป็นพ่อแม่คงรู้ดีว่าเวลาลูกหลานเจ็บไข้ได้ป่วยมันน่าทรมานใจขนาดไหน และเจลล้างมือน่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีเลย

เด็กๆ ป่วยไข้ได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ เพราะเด็กๆ ชอบเล่นสกปรกและล้างมือไม่ค่อยสะอาด แถมภูมิต้านทานยังน้อย โดยที่คุณครู และเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ดูแลเด็กๆ มักจะต้องทำหน้าที่ในการดูแลไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อหวัดหรือเชื้อโรคในกลุ่มเด็กๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย และการสอนให้เด็กๆ ล้างมืออย่างถูกวิธีก็เป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่เด็กต้องคอยสอนบุตรหลาน รวมถึงที่โรงเรียนก็ควรให้ความสำคัญในเรื่องการสอนล้างมือด้วย

และผลงานวิจัยล่าสุดจากสเปน ได้มีการชี้แนะว่า ผลิตภัณฑ์เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ นั้นมีประสิทธิภาพในการหยุดยั้งการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ดีกว่าการล้างมือด้วยสู่บและน้ำ โดยการวิจัยนี้ทำกับเด็ก 900 คนที่มีอายุ 3 ขวบหรือต่ำกว่า และผลก็ออกมาชัดเจนว่า เมื่อศูนย์ดูแลเด็กมีการเปลี่ยนไปใช้เจลล้างมือ ก็สามารถลดอัตราการเจ็บไข้ได้ป่วยของเด็กๆ อย่างมีนัยสำคัญ

โดยสำนักข่าว CNN รายงานว่า ในการวิจัยได้มีการแบ่งเด็กๆ ออกเป็น 3 กลุ่ม ขึ้นอยู่กับว่าศูนย์ดูแลเด็กแต่ละที่นั้นใช้เจลล้างมือ หรือว่าใช้สบู่กับน้ำ โดยเด็กกลุ่มที่ 1 ใช้เจลล้างมือ ในขณะที่กลุ่มที่ 2 นั้นก็มีการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ

และเด็กทั้ง 2 กลุ่มได้รับการสอนเรื่องความสำคัญของการรักษาความสะอาดของร่างกาย และมีตารางเวลาการล้างมืออย่างชัดเจน ในขณะที่กลุ่มที่ 3 นั้นล้างมือด้วยสบู่ แต่ไม่ได้มีการเน้นย้ำเด็กๆ ในเรื่องการรักษาความสะอาดแต่อย่างใด

ผลวิจัยล่าสุดชี้จัด เจลล้างมือ หยุดการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ดีกว่าการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ
ผลวิจัยล่าสุดชี้จัด เจลล้างมือ หยุดการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ดีกว่าการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ

และเมื่อสิ้นสุดช่วงระยะเวลาของการทำวิจัยที่ยาวนานถึง 8 เดือน มีรายงานการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจของเด็กๆ จำนวน 5,211 เคส และมียอดวันป่วยไข้สะสมรวมกัน 5,186 วัน โดยกลุ่มที่ใช้เจลล้างมือนั้น มีอัตราการเจ็บป่วยน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉลี่ยแล้ว เด็กกลุ่มแรกที่ใช้เจลล้างมือ มีจำนวนวันการเจ็บไข้ได้ป่วยประมาณ 3.25% ในขณะที่เด็กกลุ่มที่ 2 ที่ใช้สบู่ล้างมืออย่างเคร่งครัด จำนวนวันการเจ็บป่วยอยู่ที่ 3.9% และเด็กกลุ่มสุดท้ายที่ใช้สบู่ แต่ไม่ได้เคร่งครัดเรื่องการล้างมือ นั้นมีจำนวนวันการเจ็บป่วยที่สูงถึง 4.2%

จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า เด็กกลุ่มที่ 2 นั้นมีโอกาสป่วยสูงกว่าเด็กกลุ่มแรกถึง 21% และยังต้องเข้ารับการรักษาบ่อยกว่าถึง 31% และตัวเลขยิ่งมีความแตกต่างยิ่งมากขึ้นอีก เมื่อเทียบระหว่างเด็กกลุ่มแรกที่ใช้เจลล้างมือ กับเด็กกลุ่มที่ 3 ที่ใช้สบู่แถมยังไม่เคร่งครัดเรื่องการล้างมือ

และสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ไม่อยากเห็นลูกหลานของตัวเองต้องเจ็บไข้ได้ป่วยบ่อยๆ ก็เป็นความคิดที่ดีทีเดียวที่จะมีเจลล้างมือติดบ้านหรือติดรถไว้ และใช้งานมันบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0