ผลข้างเคียงร้ายแรงที่เกิดจากการสักที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน

ปี 2016 รอยสักกลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปมากกว่าการมีเรือนร่างที่ว่างเปล่าและเกลี้ยงเกลา ฉันเองก็มีรอยสักหลายแห่งรวมถึงรอยสักที่กินพื้นที่สามในสี่ส่วนบนแขนซ้ายของฉันด้วย ฉันไปสักครั้งแรกเมื่อเข้าสู่อายุ 18 ปีจากนั้นก็เว้นไปอีก 2-3 ปีจึงค่อยสักต่อ บอกได้คำเดียวว่าการสักเป็นสิ่งที่สนุกมาก

สัญญาณเตือน

หลังจากที่ผ่านการฝึกสมุทัยเวชศาสตร์ซึ่งเป็นการหาต้นตออาการของคนไข้หรืออาการป่วยเรื้อรังโดยการวิเคราะห์อย่างจริงจังแล้วฉันก็ตัดสินใจตรวจอุจจาระกับตรวจเลือดเพื่อวิเคราะห์สุขภาพของตัวเองบ้าง ฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะเจออะไรที่น่าตกใจแต่ปรากฏว่าเมื่อได้รับผลตรวจเลือดฉันก็ร้องไห้ออกมาทันที ที่ผ่านมาฉันดูแลสุขภาพอย่างดีแต่ผลเลือดเผยว่าค่าเอนไซม์ตับมีปัญหาจนอาจถึงขั้นตับล้มเหลว ฉันกลัวมากเลยทีเดียว นอกเหนือจากอาการลมพิษบนผิวหนังกับประวัติการเป็นโรควิตกกังวลแล้วฉันก็ไม่เคยมีปัญหาด้านสุขภาพมาก่อนเลย

โลหะหนักในตับ

หลังจากที่วิเคราะห์เส้นผมเพื่อค้นหาโลหะหนักแล้วก็พบว่าปริมาณสารพิษภายในร่างกายของฉันสูงมาก ฉันงดใช้ผลิตภัณฑ์ส่วนตัวที่มีสารพิษ งดรับประทานอาหารแปรรูป งดสักเพิ่ม และเข้าสู่กระบวนการดีท็อกซ์อย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ยังงดดื่มแอลกอฮอล์ ล้างพิษหลอดเลือดด้วยสมุนไพร รวมถึงการใช้สมุนไพรบำรุงตับ เช่น มิลค์ ทิสเซิลและแดนดิไลออนเพื่อกำจัดโลหะหนักออกจากระบบในร่างกาย เพียงไม่กี่เดือนค่าเอนไซม์ตับของฉันก็กลับสู่สภาพปกติ

ในเวลาต่อมาเราได้เห็นผู้คนมากมายที่ตับของพวกเขาทำงานหนักมากเกินไปไม่ต่างจากฉันซึ่งอาการดังกล่าวก็เกี่ยวข้องกับการมีรอยสักจำนวนมากบนร่างกายด้วย โลหะหนักอย่างปรอท เหล็ก สารหนู ตะกั่ว และแคดเมี่ยมจะช่วยให้หมึกสำหรับสักมีสีสวยและติดทนนาน ขณะที่คาร์บอนแบล็คกับโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนก็มักจะเป็นส่วนประกอบหลักของหมึกดำ

รอยสักและสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

การสัมผัสกับโลหะและสารพิษอันตรายเหล่านี้จะส่งผลให้ตับทำงานหนักรวมถึงอวัยวะส่วนอื่นๆที่มีหน้าที่ฟอกสารพิษด้วย โลหะหนักจำนวนมาก เช่น ตะกั่วกับปรอทก็มีพิษต่อระบบประสาทซึ่งส่งผลต่อการทำงานของสมองในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ เป็นเหตุให้จิตใจหม่นหมอง เหนื่อยล้า และอาการอื่นๆอีกมากมาย หากคุณตัดสินใจที่จะสักก็ควรปรึกษาช่างสักเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและปลอดสารพิษมากที่สุด หมึกสักบางสีจะใช้เม็ดสีซึ่งสกัดจากพืชธรรมชาติตั้งแต่เครื่องเทศอย่างขมิ้นแทนที่จะเป็นโลหะหนัก อย่างไรก็ตามช่างสักอาจจะต้องสั่งซื้อมาเป็นพิเศษ หากคุณสงสัยว่าตัวเองได้รับสารพิษหรือโลหะหนักในปริมาณที่สูงก็ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมุทัยเวชศาสตร์เพื่อเข้ารับการดีท็อกซ์อย่างปลอดภัย ผิวหนังของคนเราเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย ดังนั้นการที่เราจะสักอะไรลงไปบนผิวหนังจึงมีความสำคัญไม่ต่างจากการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเลย หมึกสักเหล่านั้นจะพุ่งตรงเข้าสู่กระแสเลือดและไหลเวียนไปทั่วร่างกายซึ่งส่งผลกระทบได้มากพอๆกับอาหารที่เรารับประทานเข้าไป ด้วยเหตุนี้เราจึงควรคิดให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะป้อนอะไรก็ตามเข้าไปในร่างกายเนื่องจากผลข้างเคียงอาจจะรุนแรงมากกว่าที่คุณคิด