เมื่อเวลา 12.40 น.วันที่ 14 ส.ค. 2562 ร.ต.อ.วงศธร ดุลเภรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งพบศพทารกใสในถุงวางอยู่ในเครื่องซักผ้าชำรุดหน้าบ้านพักเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊ง รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ด้านหลังโรงพยาบาล บริเวณหน้าบ้านพักเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ตรวจสอบเครื่องซักผ้าชำรุด ยี่ห้อพานาโซนิค สีขาว บริเวณถังซัก พบศพทารกยังไม่ทราบเพศ อายุประมาณ 3-5 เดือน สภาพเริ่มขึ้นอืด ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ใส่อยู่ในถุงพลาสติกมัดปากถุงแน่น และมีกระสอบปุ๋ยปิดทับอีกชั้น
สอบถามนายพงศ์ศักดิ์ บุรีรัตน์ อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมหาราช และเป็นเจ้าของบ้านพักที่เกิดเหตุ เล่าว่า เครื่องซักผ้าดังกล่าวชำรุดเสียหายมานานหลายปีแล้ว และตนนำมาวางไว้หน้าบ้านนานแล้ว โดยมีผ้าคลุมปิดเครื่องซักผ้าไว้ กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมาตนยกเครื่องซักผ้าเครื่องดังกล่าวใส่รถเข็น เพื่อนำไปให้ช่างหน่วยงานซ่อมบำรุงโรงพยาบาล ตรวจสอบเพื่อซ่อม แต่เมื่อเข็นเครื่องซักผ้าไปถึงหน่วยงานซ่อมบำรุง และช่างเตรียมจะตรวจเช็คซ่อม ปรากฏว่าเมื่อเปิดฝาเครื่องซักผ้า พบว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งรุนแรง เมื่อหยิบกระสอบปุ๋ยออกถึงกับผงะ เพราะพบว่ามีซากทารกสภาพสมบูรณ์ถูกใส่ในถุงพลาสติกปิดปากถุงแน่น สภาพเริ่มพองอืดส่งกลิ่นเหม็น
ด้านหน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊งนครศรีธรรมราช กล่าวว่า หลังรับแจ้งว่าพบศพทารกอยู่ในถังซักเครื่องซักผ้าภายในโรงพยาบาล จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถุงพบว่าภายในถังซัก มีซากทารก ยังไม่ทราบเพศ เนื่องจากต้องรอทางแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช มาชันสูตรพลิกศพถึงสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง อย่างไรก็ตามตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าทารกอายุประมาณ 3-5 เดือน และเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน เนื่องจากสภาพศพเริ่มพอง และส่งกลิ่นเหม็น
ล่าสุดทางแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ และตรวจสอบสภาพศพทารกแล้วพบว่าศพเริ่มขึ้นอืด เน่า และส่งกลิ่นเหม็น จึงนำศพทารกทั้งถุงไปผ่าพิสูจน์ที่นิติเวชของโรงพยาบาล เพื่อตรวจดีเอ็นเอ และตรวจสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป คาดใช้เวลาประมาณ 15 วัน จึงจะทราบผล เบื้องต้นทารกน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน
ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาล โดยเฉพาะจุดพบศพทารกอย่างละเอียด เพื่อเร่งติดตามคนที่นำศพทารกมาทิ้ง เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นแม่วัยรุ่นใจแตกที่ไม่พร้อมที่จะเลี้ยงลูก ซึ่งทางตำรวจจะเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามแม่ใจร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
-------------------------------
(ข่าวโดย ชชาดล เจริญพงศ์)