โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ปู รับลดสถานะแต่ไม่หมดรัก แมทธิว ปัดข่าวอักษรย่อจัดฉากแต่งงาน

daradaily

อัพเดต 24 ม.ค. 2563 เวลา 14.14 น. • เผยแพร่ 24 ม.ค. 2563 เวลา 12.41 น.

"ปู" รับลดสถานะแต่ไม่หมดรัก "แมทธิว" ปัดข่าวอักษรย่อจัดฉากแต่งงาน

                   ถูกโยงว่าเป็นนางเอก “นางเอกตัวแม่เลิกแฟนไฮโซปลอม” ที่เพจดังใต้เตียงดาราได้ออกมาแฉว่า ฝ่ายชายรวยไม่จริง ทำนางเอกเกือบหมดตัวเพราะเปย์ไปเยอะ ถูกหลอกให้เปิดบริษัทแต่สุดท้ายเจ๊ง ค่าตัวที่ทำงานมาก็ต้องแบ่งให้บริษัทฝ่ายชายฟรี ๆ ตามสัญญาที่ทำไว้ แถมก่อนหน้านี้นางเอกอยากมีซีนถูกขอแต่งงานแบบโรแมนติก เลยไปหาซื้อแหวนมาจัดฉากขอแต่งงานเองอีก และงานเข้าโยงมาที่ "ปู ไปรยา ลุนด์เบิร์ก" เมื่อมีโอกาสเจอสื่อมวลชน "ปู" ได้เปิดใจเผยถึงเรื่องนี้ว่า

อ่านข่าวต่อ

ชาวเน็ตจับตา! “ปู ไปรยา” ไม่สวมแหวนหมั้น “แมทธิว” เกิดอะไรขึ้น?

                   เรื่องวิวาห์ล่ม จริงๆ เดือนนี้มีอีเว้นท์เข้ามา 4 งาน ตั้งแต่มีข่าวนี้ออกมาเราไม่รับงานเลย เพราะส่วนตัวเราคิดว่าข่าวที่ไม่ได้เกี่ยวกับเราโดยตรงแต่คนที่เรารักไม่ได้อยู่ในวงการนี้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย เราหาเงินจากข่าวนี้ไม่ได้ เพราะมีหลายเรื่องที่จะต้องแก้นิดนึง เราว่าบางเรื่องไม่ค่อยแฟร์ ขอเล่าทีละประเด็นเลย 

                   ประเด็นแรกเรากับแมธทิวลดสถานะกันจริง เรื่องข่าวคือเขาย้ายมาอยู่เมืองไทยเพื่อที่จะอยู่กับเเฟนเขา เขาต้องเสียสละอาชีพเขา เขาย้ายมาทำบริษัทที่นี้โดยไม่ได้พูดภาษา ไม่ได้รู้จักใคร เพื่อนและพ่อแม่ไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เพียงเพราะว่าเราไม่ยอมเสียสละอาชีพตัวเอง เพราะคิดว่าสิ่งที่เราสร้างมาเราถอยไม่ได้ เราต้องรับผิดชอบครอบครัวเรายังทำงาน UN ที่เราอยากทำ เรามีเด็กที่เราให้ทุนการศึกษา หาคนที่เรารับปากว่าเราจะส่งเขาเรียนจนจบ เราไม่เคยพูดว่าเราเป็นคนดีเป็นนางฟ้าตามที่ข่าวเขียนไม่เคยคิดด้วยซ้ำ เพราะเราก็มีอารมณ์ รัก โกรธ โลภ หลง แต่สิ่งที่เราเชื่อตลอดที่ทำงานสังคมคือเพราะว่าลองดูประเทศเราสิ คนที่ยากลำบากมีเยอะมาก แล้วดาราเป็นบุคคลที่มีโอกาสเยอะมาก ที่เราทำทุกวันนี้เพียงเพราะคิดว่าเรามีความรับผิดชอบ ต่อสังคม ต่อเพื่อนมนุษย์ ไม่ใช่เพราะเราคิดว่าเราเป็นคนดี แล้วพอข่าวนี้ออกมาสิ่งเดียวที่เรารู้สึก หลายรอบที่พาดหัวข่าว นางฟ้าภาพลักษณ์จากสวรรค์ เราไม่ใช่นางฟ้าและไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็น  และเหตุที่เราไม่ได้ไปต่อกับแมธทิวมันก็เกี่ยวกับเรื่องนี้ 

                   ในเรื่องของแมธทิว ข่าวอักษรย่อเราเข้าใจ เรามีทุกวันนี้ก็เพราะนักข่าว เรารักและเคารพอาชีพนักข่าวมากที่สุด แต่ข่าวอักษรย่อมีข้อเสี่ยงตรงที่ว่า บางครั้งเขียนเวอร์เพื่อให้คนเข้ามาอ่าน เข้ามาถูกใจ แชร์คอม เมนต์ แล้วเราคิดว่าบางครั้งมันก็ทำลายภาพลักษณ์ และจิตใจคนหนึ่งมาก โดยในแบบที่เขาแก้ไม่ได้ แล้วคุณแมธทิวเป็นคนต่างชาติที่ไม่มีพื้นที่ที่จะพูด ที่จะแก้ แล้วเขาไม่เคยอวดรวย แล้วเราก็ไม่เคยพูดว่าเขารวย แล้วก็ไม่เคยพูด และคำว่าปลอมมันแรงมากในใจเรามองว่าเขาสูญเสียคู่หมั้นเขาแล้ว เขาต้องย้ายออกจากประเทศไทยกลับไปประเทศเขา และมาเจอข่าวนี้ในช่วงที่เราตัดสินใจในช่วงที่เราลดสถานะกันแล้ว และเขาไม่ได้โกรธสักคำเลย เขาเข้าใจแล้วว่านี้แหละคืออาชีพเรา เขารับรู้ข่าวตั้งแต่วันแรก แล้วตอนนี้เราบินไปเจอเขาที่ LA รอบล่าสุด เราเห็นน้ำตาเขาคอล เเล้วเขาอึ้ง เพราะเขาก็ไม่คิดว่าจุดจบของการที่เราจะคุยกันมันจะมาด้วยคำพูดที่ไม่ได้เกี่ยวกับเขา เพราะไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับอาชีพเรา แล้วทั้งนี้ทั้งนั้นที่เราไปกันไม่รอด ณ ตอนนี้ที่เราคืนเขาไปแล้ว เราไม่จำเป็นต้องซื้อแหวนตัวเอง

                   ที่การแต่งงานของเรา มันจะทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนอันนี้คือเรื่องจริง การแต่งงานเราต้องมีความรับผิดชอบหัวหน้าครอบครัว เป็นแม่ของลูก พอใกล้วันแต่งงานขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งจริงๆ เราวางวันไว้แล้ว เป็นปีหน้าเดือน 6 เรามองว่าชีวิตเรายังไม่พร้อมที่จะสละในสิ่งที่เราสร้างไว้ในมือ เพราะสุดท้ายคนใดคนหนึ่งต้องเสียสละชีวิตตัวเอง ไม่เราย้ายไปอยู่กับเขาหรือเขาต้องย้ายมาอยู่กับเรา แล้วคนไหนจะยอมเสียสละชีวิตตัวเองมากว่า แล้วใครจะยอมเสียสละชีวิตตัวเองในวัย 30 ปี แล้วเราจะเสียใจทีหลังไหม ถ้าเราเสียใจทีหลังเราจะเป็นภาระพ่อแม่เรา ทั้งที่เราสร้างมาขนาดนี้ ลูกที่คลอดมาจะทำอย่างไรต่อ เราคิดคำถามพวกนี้หมดเลยและสุดท้ายเราคิดว่า เด็กที่เราให้ทุนการศึกษา 5 คน น้องเขาเรียนไม่จบเลย ความรับผิดชอบเราเยอะมาก เราแต่งไม่ได้ไม่ใช่เพราะเราไม่รัก เรารักเขาสุดหัวใจ เขาเป็นผู้ชายที่ดีมาก เขาเป็นแฟนที่ซื่อสัตย์กับเรา ไม่เคยมีผู้หญิงคนอื่น ไม่เคยเอาเปรียบเรา เห็นคุณค่าเราพอที่จะแต่งงานกับเรา แต่เราเลือกอาชีพของเรา เราเลือกในสิ่งที่เราเลือกแล้ว เพราะผู้หญิงเวลาเราเลือกแล้ว เราถอยหลังไม่ได้ เราแต่งงานแล้วและถ้ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เราฝัน เราจะกลับมาเป็นคนเดิมมันเหนื่อยมาก เราเห็นจากแม่เห็นจากคนรอบข้างเรา แล้วเรายอมที่จะเจ็บวันนี้ เผื่อที่เขาจะได้ในสิ่งที่เขาคู่ควร 

                   อยากจะชี้แจงว่า อันแรกเลยเราไม่เคยซื้อแหวนตัวเอง เราไม่ได้เมคถ้าเราเมคเราคงต้องจัดหรูหราตามโรงเเรม ใส่ชุดราตรี แต่งหน้าสวยๆ ทำไมต้องญี่ปุ่น ทำไมต้องในสวน ทำไมต้องใส่กางเกงยีนส์ นี้หรอคือภาพเมค ปูไปรเมคคือเวนิสอิตาลี เราพูดเลย ถ้าเมคจริงเราจะไม่เมคครึ่งทาง อันที่สองที่เรารู้สึกคือ บริษัทเขาไม่ได้เจ๊ง อันนี้ไม่เกี่ยวกันเลย แล้วอันที่บอกว่าเขาเอาเปรียบเรา เราว่าชีวิตจริงไม่ใช่ละคร แล้วเรื่องเปย์เราของพูดประโยคหนึ่ง ผู้ชายไม่ใช่ธนาคาร เขามีพ่อมีแม่ ถ้าเรามีอาชีพขนาดนี้แล้วเราไม่คิดจะเลี้ยงแฟนเราสักมื้อ ไม่เคยคิดจะซื้อของขวัญให้เขา คบกันมา 4 ปี คืออะไรเราว่ามันไม่ได้ ช่วงปีใหม่เรารู้สึกผิดมากเราห่างกันมาได้ 4-5 เดือน แต่เราได้คุยกันทุกวันเพราะคนเรารักกันมันไม่ได้เลือกกันง่ายๆ หรอก แต่เราก็มีความรับผิดชอบต่อเขา เพราะการเตรียมการแต่งงานมันมีค่าใช้จ่าย เราตัดสินใจลดสถานะก่อนที่จะเป็นเรื่องลำบากกับพ่อเเม่เขา แล้วจริงถ้าเราต้องการจะสร้างซีนสร้างภาพ เราจะแต่งที่เมืองไทย จริงๆ แพลนของเราไม่ได้แต่งที่เมืองไทย 

                   ในวันที่เราถอดแหวน เขาไม่ได้ยื้อ เพราะเขาเป็นผู้ชายที่มีศักดิ์ศรี แต่เขาเห็นแรงกดดันในชีวิตเรา เขาเห็นการทำงานของเรา เขาห็นหมดทุกอย่างเราว่าเขารู้ว่าทำไมเราปล่อยตรงนี้ไม่ได้ ประโยชน์เดียวที่เขาพูดตอนท้ายกับเรารอบล่าสุดคือ ยังก็ตอบอย่าแพ้และอย่าล้ม เธอทำหน้าที่ของเธอต่อไปถ้าเธออยากช่วยคนอยากทำงานสังคม คนไม่เห็นด้วยคนว่าเธอไม่เป็นไรเธอจะไปแคร์ทำไม ตั้งแต่ต้นเธอเลือกแล้ว

                   ถ้าเรารู้ว่าเรารับผิดชอบหน้าที่ของภรรยาและแม่ของคนยังไม่ได้ เราทำงานสังคมเราต้องเรียนรู้ เรายังไม่พร้อม ถามว่าคิดจะพักงานแต่งแต่ไม่ต้องเลิกกันได้ไหม เขาต้องรอเรา เขารอเราโดยที่เราไม่ใส่แหวนก็ได้ เขาจะได้มีอิสรภาพของเขา เพราะการที่เรากั๊กคน อายุ 30-35 ปี เป็นช่วงหนุ่มเนื้อหอมเลยนะ มันเห็นเราไปกั๊กเขาไว้ เรารักเขาเกินที่จะกั๊กเขา เรารักเขาจริงๆ เราต้องปล่อย และถ้าเขาเป็นของเรา เราเชื่ออีก 5 ปีเขาอาจจะกลับมาขอเราอีกทีก็ได้ 

                   งานแต่งงานเราก็เตรียมสถานที่ไว้เสร็จแล้ว แต่ยกเลิกหมด เพราะเหตุผลตามที่เราบอกเลย คนถามเยอะว่าเขารวยไหม ถ้าเราตอบว่าเขารวยก็เหมือนว่าเราอวดรวย ตอบว่าปานกลางก็ว่าเป็นกลางอีก ตอบว่าไม่รวยมันก็ไม่จริง เราให้ไปค้นประวัติว่าพ่อเขาทำอาชีพอะไรดีกว่า เราไปเยี่ยยมบ้านเขาครอบครัวเขาดีมาก และแม่เขารู้ถึงข่าวนี้ด้วย เขาก็มองเป็นเรื่องธรรมดาเป็นมันเป็นอาชีพเรา 

                   วันที่เราถอยก็มีน้ำตากันทั้งคู่ คนรักกันเราคุยกันทุกวันเรามีอะไรเราปรึกษาเขาตลอด สิ่งเดียวที่ไม่ได้ปรึกษาคือบทสัมภาณษ์นี้ เราปรึกษาเขาเรื่องอื่นตลอด ไปLAเราก็รู้สึกแปลก ว่าเราไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว เรายังเห็นแววตาเขายังมองเราเหมือนเดิม แต่เราก็กลับบ้านต่างคนต่างกลับแค่นี้ ทั้งๆ ที่เราก็อยู่ด้วยกันมา 4 ปี

                   เราตอบไม่ได้ว่าเขาจะรอเราไหม แต่เรารู้ด้วยใจเขา เขาบอกว่าเราคือรักแท้ของเขา ไม่งั้นเขาไมคุกเขาของเราแต่งงาน เราก็ยังไม่รู้เขาจะรอเราหรือเปล่า แต่เราถึงเมืองไทยไม่ได้ ทำงานเมืองนอกชั่ววูปเราทำได้ แต่เราถึงเมืองไทยถึงครอบครัวเรายังทำไม่ได้ ตัวเขาย้ายมาอยู่นี้ที่นี้เขาก็ไม่มีเพื่อน เขาพูดภาษาไม่ได้ กลายเป็นว่าเขารอเราทุกวันเวลาที่ไปทำงาน พอเขาเริ่มมีงานทำเราก็ไม่ได้เจอกันเลยมันเลยเป็นสถาน การณ์ที่ไม่เวิร์ค

                   ปีที่ผ่านมาเราเครียดมาก เราก็ไปอยู่เมืองนอก พอเเรงกดดันงานแต่งเกิดขึ้น เราก็บอกเขาว่าเราขอทำงาน เราก็ทำงานจริงเราไม่ได้เจอกัน 4เดือนครึ่ง เขาก็เรียกเรามาคุยว่ายังไง เราก็บอกเขาตรงๆว่าการเป็นผู้หญิงเราสู้มาตลอด กว่าเราจะมีวันนี้เราถอยไม่ได้ 

                   ตอนนี้เราก็แฮปปี้ จะเศร้าตอนที่นึกถึงเขาเราจะรู้สึกผิดกับข่าวที่เกิดขึ้น การที่เราเลือกตัวเองเลือกอิสรภาพตัวเอง การเลิกกันแบบนี้มันคือการเลิกที่ไม่ได้โกรธกัน แต่รู้ว่าเราเดินหน้าต่อไปตอนนี้ยังไม่ได้ เราไม่มีคนเราเพราะเราคิดว่าผู้ชายคนนี้คือรักแท้ของเรา แต่รักแท้อีกคนของเราก็คือตัวเรา

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0