โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ปีทองของหนังไทย คาดมูลค่าจะทะลุ 2 พันล้าน “นาคี 2” สร้างสถิติใหม่ในรอบ 10 ปี

Brand Inside

อัพเดต 22 ต.ค. 2561 เวลา 13.44 น. • เผยแพร่ 22 ต.ค. 2561 เวลา 09.19 น. • Ratirita
cinema
Photo : Shutterstock

ภาพยนตร์ไทยปีนี้โตหรู100% ปัจจัยสำคัญจากคอนเทนต์ที่ถูกจริตคนไทยมากขึ้น คาดมูลค่าจะทะลุถึง2,000 ล้านบาท นาคี2 เป็นคอนเทนต์ที่ทุบสถิติวันเปิดตัวสูงที่สุดในรอบ10 ปี

Photo : Shutterstock
Photo : Shutterstock

นาคี2 ทุบสถิติหนังไทยในปีนี้

อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยมีการเติบโตขึ้นๆ ลงๆ มาตลอดหลายปีทั้งนี้มาจากคอนเทนต์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่มีความหวือหวาเท่าไหร่นักและมีผู้ผลิตรายใหญ่แค่ไม่กี่ราย

แต่ในปีนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีของตลาดภาพยนตร์ไทย เมื่อมีภาพยนตร์ที่สร้างรายได้สูงกว่าปีก่อน โดยเฉพาะ“นาคี2” ที่เพิ่งเข้าโรงได้ไม่กี่วัน แต่สามารถสร้างรายได้ทะลุ200 ล้านเข้าไปแล้ว เป็นการทุบสถิติหนังที่สร้างรายได้เร็วที่สุดในรอบ10 ปี

มีการคาดการณ์ว่าภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในปี2561 จะเติบโตได้ถึง100% โดยที่ในช่วง9 เดือนแรกมีภาพยนตร์ที่ทำรายได้เกิน100 ล้านบาท4 เรื่อง ได้แก่ น้องพี่ที่รักของGDH, ไบค์แมน ศักรินทร์ ตูดหมึกของM39, ขุนพันธ์2 ของสหมงคลฟิล์ม และ ๙ ศาสตราของM Pictures

Photo : Shutterstock
Photo : Shutterstock

เมื่อดูจำนวนหนังไทยทั้งหมดของปีนี้จะมีทั้งสิ้น43 เรื่อง น้อยกว่าปี2560 ที่มี48 เรื่อง แต่สามารถทำรายได้เฉลี่ยได้ดีกว่า ในปีที่แล้วมีภาพยนตร์ที่สร้างรายได้เกิน100 ล้านเพียง3 เรื่องเท่านั้น คือ ส่ม ภัค เสี้ยน ของM Pictures, ฉลาดแกมโกงของGDH และ มิสเตอร์เฮิร์ทมือวางอันดับเจ็บ ของทรานฟอร์เมชั่น

ในปีนี้ยังได้แรงหนุนจากภาพยนตร์นาคี2 ที่สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ทำรายได้ในวันเปิดตัววันแรก50 ล้านบาท คาดว่าจะทำรายได้ทะลุ500 ล้านบาทได้ตลอดโปรแกรมการฉาย

Photo : Shutterstock
Photo : Shutterstock

พรชัย ว่องศรีอุดมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายภาพยนตร์ไทย และต่างประเทศ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด(มหาชน) บอกว่า

“ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ถือเป็นโอกาสทองของภาพยนตร์ไทย มีภาพยนตร์เข้าฉายถึง11 เรื่อง และคาดว่าจะเป็นภาพยนตร์ทำเงินทั้งสิ้น เริ่มตั้งแต่นาคี2 โฮมสเตย์ ขุนบันลือ โนราห์ คาดว่าทั้งปีหนังไทยจะมีรายได้รวม2,000 ล้านบาท มีการเติบโต100%”

ในรายได้2,000 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็นสัดส่วนในกรุงเทพฯ50% และต่างจังหวัด50% เป็นตัวเลขที่มีการเติบโต100% จากในปีก่อนๆ มีการเติบโตเฉลี่ย20% เท่านั้น จะสามารถกินสัดส่วนรายได้ของตลาดภาพยนตร์ได้22% จากที่ปีก่อนๆ มีสัดส่วน11% ที่เหลือเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูด

คอนเทนต์ถูกจริตมากขึ้น

พรชัยเสริมว่าที่ในปีก่อนมีหนังไทยเข้าฉายทั้งหมด48 เรื่อง เป็นตัวเลขที่เยอะก็จริง แต่ไม่สามารถสร้างรายได้ที่ดีมากนัก เพราะมีค่ายอิสระเยอะ ผู้ผลิตยังผลิตคอนเทนต์ตามความต้องการของตนเอง แต่ในช่วงหลังเริ่มมีการเข้าใจตลาดมากขึ้น มีมุมมองในการผลิตหนังที่แตกต่างออกไป ทำการตลาดที่เน้นเจาะกลุ่มคนดูตามเซ็กเมนต์มากขึ้น

ในปีนี้เห็นความหลากหลายของหนังมากขึ้นมีทั้งตลกแอคชั่นอนิเมชั่นทริลเลอร์แฟนตาซีไม่ได้มีคอนเทนต์ซ้ำๆกันในแบบเดิม

หนังเริ่มมีความแมสมากขึ้น เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น เห็นได้จากหนังที่ได้รับความนิยมจะมีความโลคอลเข้ากับท้องถิ่น เช่น นาคี2, ไทบ้านเดอะซีรีส์ สามารถดึงให้คนอินด้วยได้

Photo : Shutterstock
Photo : Shutterstock

“ปัจจัยที่ทำให้นาคี2 ได้รับความนิยม มองว่าเป็นเรื่องที่คนไทยอยากดู เพราะคนไทยรู้จักอยู่แล้ว เป็นเื่องความเชื่อที่ทำให้คนอินได้ เป็นคอนเทนต์ที่ตรงกับความต้องการของเขา รวมถึงการวางไทม์มิ่งการฉายในช่วงนี้ช่วงก่อนออกพรรษาก็มีส่วนเช่นกัน”

จะเห็นว่าตอนนี้หนังเริ่มเจาะตามกลุ่มลูกค้ามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด โดยที่นาคี2 คาดว่าน่าจะมีลูกค้าในกรุงเทพฯ40% และต่างจังหวัด60% ส่วนโฮมสเตย์น่าจะมีลูกค้าในกรุงเทพฯ60% และต่างจังหวัด40%

ตลาดต่างจังหวัดทำเกมเปลี่ยน

อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญทำให้ตลาดหนังไทยเติบโตอย่างสวยหรูในปีนี้ ก็เพระาว่าผู้เล่นในตลาดโรงภาพยนตร์ได้ขยายตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น อย่างเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ได้บุกตลาดไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น เริ่มเจาะจังหวัดรองในพื้นที่เล็กๆ ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น

เมื่อโรงภาพยนตร์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าก็ทำให้ภาพยนตร์ไทยได้รับการตอบสนองอย่างดีช่วยทำให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0