ปล่อยให้ขึ้นหิ้งหรือขุดมาทำใหม่ แบบไหนถึงจะดีกับเหล่าเกมชื่อดังในอดีต

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรามักจะมองเห็นเกมเก่า ๆ ชื่อดังในตำนานถูกขุดกลับมาทำใหม่ ไม่ว่าจะด้วยการ Remake , Reboot หรือ Remaster คำถามก็คือทำไมอยู่ดี ๆ มันกลายเป็นที่นิยมขึ้นมาได้ และยิ่งไปกว่านั้น หลายคนน่าจะมีคำถามนี้อยู่ในใจทุกครั้งที่เราเห็นว่ามีการประกาศหยิบของเก่ากลับมาทำใหม่ หรือสานต่อเป็นภาคใหม่ ว่ามันจะดีจริง ๆ หรือไม่ วันนี้มาดูประเด็นเหล่านี้กันว่า เกมบางเกมควรปล่อยให้มันเป็นตำนานต่อไป หรือควรสานต่อ หรือหยิบมันกลับมาทำใหม่อีกครั้งกันแน่

การนำกลับมาทำใหม่ / สานต่อ มีประโยชน์อะไรบ้าง

ก่อนอื่นเราคงต้องแยกเป็นกรณีกันไป ก่อนอื่นที่นำกลับมาทำใหม่ โดยส่วนมากจะเข้าข่ายการ Remake / Remaster ทีนี้ประโยชน์ของการทำแบบนี้คือ เกมที่ดังมาก ๆ หรือฮิตในอดีต แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะเคยเล่น หรือรู้จักมัน ประโยชน์ของมันคือทำให้เกมที่เคยดังในอดีต ถูกนำเสนอใหม่ในยุคนี้อีกครั้ง ให้เกมเมอร์ปัจจุบันได้สัมผัสถึงความสนุกของมัน แต่ถ้ามองในแง่ของผู้ผลิต มันก็คือการเอาของเก่ามาขายใหม่โดยลงทุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (กรณี Remaster เพราะถ้า Remake มันต้องสร้างใหม่ทั้งหมด)

อีกข้อหนึ่งคือไม่ว่าจะ Remake หรือ Remaster ถ้ามันเป็นเกมชื่อดังในตำนาน ล้วนแต่มีฐานแฟนคลับของเกมเกมนั้นรองรับ อย่างเช่น Resident Evil 2 Remake หรือ Final Fantasy VII ที่แค่ประกาศสร้าง แฟนเกมหลายคนก็พร้อมจะปาเงินใส่หน้าทีมผู้พัฒนากันชัวร์ ๆ อยู่แล้ว แต่ในส่วนของการสานต่อ ยกตัวอย่างเช่นเกมที่เว้นช่วงจากการทำภาคต่อไปนานมาก ในกรณีนี้เราจะยกตัวอย่างเช่น Shenmue 3 ที่ทิ้งห่างจากภาค 2 ไปถึง 18 ปีเต็ม

หากให้พูดกันตามตรง การสานต่อน่าจะยากกว่ามาก เพราะมันจะต้องมาพร้อมเนื้อเรื่องใหม่ ระบบใหม่ เอ็นจิ้นของเกมใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยและเครื่องเกมปัจจุบัน แต่ไม่ว่าจะเป็นการทำใหม่หรือสานต่อ แน่นอนว่าต้องมีฐานแฟนที่รองรับอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเหล่าค่ายเกมทั้งหลายคงไม่คิดจะทำมันออกมาแน่นอน

จำเป็นจะต้องนำมาทำใหม่ / สานต่อ จริงหรือไม่ ?

ไม่มีใครไม่อยากเล่นเกมภาคต่อที่ตัวเองชอบ แต่หลายครั้งหลายคราที่ภาคต่อของเกมเหล่านี้กลับทำลายความทรงจำดี ๆ ที่เรามีให้กับเกมไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะสาเหตุใด ๆ ก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น Duke Nukem Forever  ที่แฟน ๆ ต่างผิดหวังเพราะใช้เวลาไปนานมากนานจนลืม รวมไปถึงเกมอีกหลายเกมที่ทำภาคต่อออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรจนโดนแฟน ๆ สาปส่งว่าทำแบบนี้อย่าทำซะยังจะดีกว่า จริง ๆ ยังมีอีกหลายเกมเลยทีเดียว ที่ภาคต่อทำออกมาได้โหดร้ายจนรู้สึกว่า อย่าทำเลยจ้า

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ปัจจัยในการที่จะทำเกมภาคต่อ หรือทำใหม่ ก็ขึ้นอยู่กับทางทีมพัฒนาว่าพวกเขาอยากจะหยิบมันกลับมาทำมากน้อยแค่ไหน และฟีดแบคจากผู้เล่นก็มีส่วนด้วย และยังต้องแบกรับความเสี่ยงอีกต่างหากว่าจะเป็นการนำเอาของขลังมาทำพังหรือไม่ แต่เราก็ยังเห็นทุกค่ายเกมนำมาทำกันอยู่ประจำ

ความสนุกของเกมยุคเก่า จะครองใจคนยุคนี้ได้หรือไม่

เราอาจมีจดจำความสนุกของเกมเก่าได้อย่างตราตรึงไม่ว่าจะเป็นเกมจำพวก Action , Horror หรือแม้แต่ RPG เพียงแต่ถ้ามันถูกนำกลับมาทำใหม่ให้ภาพสวยขึ้น ทันสมัยขึ้น แต่เป็นระบบเกมแบบเดิม มันจะยังจะกวาดผู้เล่นหน้าใหม่และฐานแฟนใหม่ ๆ ได้อยู่หรือไม่

นี่เป็นอีกคำถามที่น่าสนใจ เพราะบางเกมนั้น แม้จะรีมาสเตอร์ภาพมาให้สวยงาม ใช้กราฟิกใกล้เคียงกับยุคปัจจุบัน แต่ด้วยความที่เกมเพลย์มันเป็นแบบเก่า ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับผู้เล่นทุกคนก็เป็นได้ เช่นตัวเกมอาจจะยากเกินไป เล่าเรื่องช้า หรือน่าเบื่อเกินไป ไม่ทันใจเท่าเกมเพลย์ของเกมยุคปัจจุบัน การรีมาสเตอร์ตัวเกมจึงอาจทำได้เพียงแค่กลับมาขายแฟน ๆ ชุดเดิมเท่านั้น และถ้าหากจะปรับปรุงระบบเกมเพลย์ให้ดีและเข้ากับสมัยไปเลยจึงเป็นการรีเมคมากกว่าแบบที่ Final Fantasy VII และ Resident Evil 2 ทำนั่นเอง โดยเฉพาะ Final Fantasy VII Remake ที่ยืนยันว่าจะมีโหมดดั้งเดิมใส่มาให้เล่นเป็นทางเลือกด้วย

จุดลงตัวของการนำเกมเก่ากลับมาทำใหม่ หรือทำต่อ

ต้องบอกว่ามันน่าจะเป็นคำตอบที่ทางผู้พัฒนาเองก็ตอบได้ยาก เพราะการนำเอาเกมหรือแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วมาทำต่อ ไม่ว่ายังไงก็ต้องยอมรับความเสี่ยงและเป็นงานยากพอตัว ระหว่างการทำให้เกมสนุกแบบเก่า และสนุกพอที่จะมีผู้เล่นหน้าใหม่มาสนใจด้วย และอย่างที่เรารู้กันดีว่าไม่มีทางที่ผลงานใด ๆ ก็ตามจะออกมาถูกใจคนทั้งหมดได้อยู่แล้ว ต่อให้มันดีแค่ไหน ยังไงก็มีคนไม่ชอบได้ สิ่งที่ค่ายเกมทำได้ก็เพียงแต่ต้องทำมันออกมาให้ดีที่สุดเท่านั้น

ในอนาคตเราอาจจะเห็นเกมเก่า ๆ ถูกนำกลับมารีเมค รีมาสเตอร์กันใหม่ หรือเอามาทำภาคต่อกันอีกมากมาย แต่สุดท้ายแล้ว จะออกมาดีหรือแย่ ผู้เล่นก็คงต้องตัดสินกันเอาเองว่ามันดีหรือไม่ดี ว่าแต่เราอยากเห็นเกมไหนถูกนำมาสานต่อหรือรีเมค / รีมาสเตอร์กันบ้าง ลองพูดคุยกันได้นะ!