"ก้อย รัชวิน" เผย "ตูน บอดี้สแลม" ไม่ต้องเหนื่อยคนเดียวอีกต่อไป ผุดมูลนิธิก้าวคนละก้าว ส่งต่อให้คนไทยก้าวไปด้วยกัน ชมหั่นผมสั้นแล้วหน้าเด็กลง เป็นทรงเดียวกับที่เจอกันครั้งแรกเมื่อ 9 ปีก่อน แจงข่าวลือก่อนไปวิ่งมาราธอนที่ญี่ปุ่น ตูนย่องซื้อแหวนแต่งงาน ยันอีกฝ่ายเซอร์ไพรส์ไม่เก่ง บอกมโนไปเองหรือเปล่ารอคุกเข่าขอแต่งระหว่างวิ่งเข้าเส้นชัย เปิดใจขำๆ ไม่หวังก็เริ่มหวัง ร่ำไห้อ่อนแอซบตูนระหว่างวิ่ง แต่แฮปปี้ฝ่ายชายอยู่เคียงข้างเหมือนได้ชาร์ตพลัง มีแรงวิ่งต่อ
คอยซัปพอร์ตหวานใจทุกเรื่อง สำหรับ "ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ" ล่าสุด "ตูน บอดี้สแลม" อาทิวราห์ คงมาลัย เปิดตัวมูลนิธิก้าวคนละก้าว ฝ่ายหญิงก็มาให้กำลังใจ เป็นผู้สนับสนุนที่ดี โดยเจ้าตัวเปิดใจทุกวันนี้ก็เหมือนเป็นทีมงานโครงการก้าวฯ และหลังจากนี้ตูนจะไม่วิ่งคนเดียวอีกต่อไป แต่จะเป็นก้าวของคนไทยทุกคน
“เป็นธรรมเนียมค่ะ เวลาพี่ตูนจะเริ่มโปรเจกต์อะไรใหม่ๆ ก้อยก็จะมาร่วมแสดงความยินดี ก้อยเป็นส่วนหนึ่ง เหมือนเป็นทีมงานของก้าวคนละก้าวไปแล้วค่ะ จริงๆ เราคุยกันตั้งแต่เริ่มต้น โครงการก้าวคนละก้าวพี่ตูนอยากจะสานต่อ เขาอยากจะทำสิ่งนี้ไปตลอดเท่าที่เขาจะมีแรงทำได้ เรื่องจะทำเป็นมูลนิธิเราก็ปรึกษากันมาตลอด มันเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร เราอยากจะให้ทุกๆ คนได้มีส่วนร่วม โครงการก้าวฯ แต่ละครั้งที่ผ่านมาได้สร้างพลังไปถึงคนไทยทั่วประเทศจริงๆ ซึ่งก้าวฯ ในครั้งนี้จะเป็นก้าวฯ ที่จะส่งต่อให้ทุกคนได้มาร่วมเป็นก้าวเล็กๆ ที่จะก้าวไปด้วยกันค่ะ มันจะไม่ใช่ก้าวของคนใดคนนึงแล้ว จะไม่ใช่ก้าวของพี่ตูนคนเดียว แต่จะเป็นการก้าวไปด้วยกัน”
“ครั้งนี้ก็ห่วงเรื่องสุขภาพของพี่ตูนเป็นปกติอยู่แล้วค่ะ แต่รูปแบบในการวิ่งในครั้งนี้มันแตกต่างจาก 2 ครั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้เราไม่ได้วิ่งระยะไกล แต่เป็นการส่งต่อ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าพี่ตูนเป็นแรงบันดาลใจ เราจึงอยากให้คนไทยทุกคนเป็นแรงบันดาลใจส่งต่อให้คนธรรมดามาทำเรื่องที่ไม่ธรรมดา สุดท้ายอาจจะมีพี่ๆ นักข่าวไปยืนเป็นไม้นึง แล้วพี่ตูนวิ่งไปส่งต่อให้ก็ได้ (ยิ้ม) เราอยากให้เป็นใครก็ได้ออกมาดูแลตัวเอง ออกมาวิ่งแล้วบอกว่า เขาจะดูแลตัวเองเพื่อให้ตัวเองและครอบครัวดีขึ้น”
ไม่ให้วิ่งก็จะวิ่ง แต่ไม่แน่ใจจะได้วิ่งเคียงข้างกันหรือไม่
“ยังไม่แน่ใจค่ะ ยังไม่รู้ว่ารูปแบบจะเป็นยังไง แต่คงต้องมีสักไม้แหละ ถ้าเขาไม่ให้วิ่งก็จะวิ่งค่ะ (หัวเราะ) ที่หลายคนห่วงพี่ตูนเรื่องผอม จริงๆ พี่ตูนเป็นแบบนี้อยู่แล้วค่ะ เขาทำงานหนักด้วยค่ะ และอาจจะพักผ่อนน้อย เดี๋ยวหุ่นคงกลับมาค่ะ”
ชมหั่นผมสั้น หน้าเด็กลง เป็นทรงเดียวกับที่เจอตอนแรกๆ เมื่อ 9 ปีก่อน
“ทรงเดียวกับสมัยที่เจอกันตอนแรกๆ เลย ผ่านไป 9 ปี (หัวเราะ) ก้อยไม่ได้เชียร์ให้เขาตัดค่ะ อยู่ๆ เขาก็ตัดเองค่ะ แต่ก้อยก็ไม่ได้ถามว่าทำไมตัดผม มันก็สบายตัวดีนะ ตอนแรกนึกว่าเขาแค่จะเล็มผม ก้อยเดินกลับมาอีกทีเขาผมสั้นไปแล้ว ก้อยว่าเขาคงเบื่อแหละเพราะไว้ผมยาวมานานมากแล้ว ถามว่าชอบที่เขาผมสั้นหรือยาว ได้หมดค่ะ ก็เป็นลุคใหม่ ก็แปลกตาดีค่ะ ดูเด็กลง"
แจงข่าวลือก่อนไปวิ่งมาราธอนที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตูนย่องซื้อแหวนแต่งงาน ยันอีกฝ่ายเซอร์ไพรส์ไม่เก่ง
“โอ้โห (หัวเราะ) ไม่ทราบเลยค่ะ เขาไม่มีอะไรพิรุธเลยค่ะ พี่ตูนเป็นคนที่เซอร์ไพรส์ไม่เก่ง เขาจะต้องหลุดออกมาเอง แล้วก้อยก็จะจับได้ ถ้ามีอะไรเขาคงจะพูดกับเราเองมากกว่าค่ะ ถามว่ากดดันมั้ย กดดันทำไมคะ ถ้าเป็นเรื่องดีๆ ก็ดีนะคะ (ยิ้ม) ไม่กดดันเลยค่ะ"
มโนไปเองหรือเปล่า ตูนรอคุกเข่าขอแต่งงานระหว่างวิ่งเข้าเส้นชัย อ้อนถามตูนให้หน่อย ไม่รีบ ใช้ชีวิตเรื่อยๆ
“อันนี้เรามโนกันไปเองหรือเปล่า (หัวเราะ) ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยค่ะ ไม่ได้คาดหวัง ไม่ได้รออะไรค่ะ แต่ก็มีหลายๆ คนมาบิวต์ว่าจะนั่นจะนี่หรือเปล่า แต่ก็ยังไม่มีอะไรนะคะ พอคนบิวต์เยอะๆ อยากไม่หวังจะเริ่มหวังแล้วเนี่ย (หัวเราะ) คือทุกครั้งที่เราเริ่มว่างก็จะมีอะไรเข้ามาให้เรารับผิดชอบค่ะ ก้อยเข้าใจเขา และก็อยากสนับสนุนในสิ่งที่เขาทำ ทุกวันนี้มันก็แฮปปี้และดีอยู่แล้วค่ะ”
"ถามว่ามีวี่แววมั้ย ถามพี่ตูนให้ก้อยหน่อยสิคะ (หัวเราะ) ก้อยก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ อย่างโครงการนี้กว่าจะจบก็คือปีหน้าเลย เพราะเราจะไปกันทุกภาคค่ะ ถามว่าก้อยรอได้มั้ย เราก็ใช้ชีวิตกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันนั้น ไม่รีบค่ะ”
ร้องไห้วิ่งมาราธอนที่โตเกียว ค้นพบจุดอ่อนตัวเอง มักอ่อนแอให้คนที่รักเห็น
“มันเป็นความรู้สึกที่มันเหนื่อย ก้อยพบจุดอ่อนของตัวเองบางอย่าง เวลาที่เราอยู่กับคนที่เรารัก เราจะแสดงความอ่อนแอให้คนที่เรารักเห็นได้ง่ายมาก ถ้าเทียบกับการวิ่งกับคนที่เราไม่รู้จักหรือไม่สนิท แต่พอวิ่งกับคนรัก เรารู้ว่าจะมีคนปลอบเราอยู่ข้างๆ พอเราอนุญาตให้ตัวเองแสดงความรู้สึกนั้นออกมา มันก็เลยร้องเลยค่ะ การวิ่งที่โตเกียวมีทั้งฝน ลม และอากาศหนาว โหดที่สุดตั้งแต่เคยวิ่งมา พี่ตูนให้กำลังใจตลอด ก้อยโชคดีมากที่มีเขาอยู่ข้างๆ ถ้าไม่มีพี่ตูนก้อยอาจจะวิ่งไม่จบด้วยซ้ำไป”
มีตูนอยู่ข้างๆ เหมือนได้ชาร์ตพลัง มีแรงวิ่งต่อ
“ถามว่าพี่ตูนเข้ามากอด อบอุ่นมั้ย (หัวเราะ) ก้อยมีความเครียดอยู่แล้ว กดดันตัวเองตั้งแต่ก่อนจะลงไปวิ่ง ท้องเสียด้วย อุปสรรคหลายอย่างเลยค่ะ พอมีเขาอยู่ข้างๆ มันก็ทำให้เรามีแรงที่จะไปต่อ เหมือนมันชาร์ตพลังขึ้นมา แต่เราก็เปลี่ยนวิธีการ แทนที่จะตะบี้ตะบันวิ่งเอาเป็นเอาตายให้ได้ตามเป้าที่เราวางไว้ เปลี่ยนเป็นวิ่งให้มีความสุข วิ่งจับมือกันไป คุยกันไปตลอดทางมันเป็นความรู้สึกที่ดีมากค่ะ”
