หลังจากที่จังหวัดอุบลราชธานีเจอปัญหาน้ำท่วมอย่างหนัก ทำให้มีประชาชนหลายครัวเรือนเดือดร้อน และความช่วยเหลือยังเข้าไปในพื้นที่ได้ไม่มากนัก ทำให้ชาวบ้านเริ่มออกมาเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ทำเอา บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ อัดคลิปร่ำไห้ เตรียมหอบเงินส่วนตัว 1 ล้านเข้าไปช่วยเหลือ และขอคนไทยร่วมบริจาค จนช่วงเช้าวันนี้ (16 กันยายน) มียอดบริจาคเข้ามาเป็นจำนวนมากทะลุ 27 ล้านบาท และรวมทั้งหมดยอดทะลุมากกว่า 100 ล้านบาทแล้ว ล่าสุด บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้มาเปิดใจผ่านรายการ โหนกระแส ว่า "27 ล้านจริงครับ ผมไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีพี่น้องประชาชนที่จะร่วมทำบุญไม่ถึงสองวันเองนะครับ ตอนนี้ยอดมา 27 ล้านกว่าแล้ว ประกาศวันเสาร์ตอน 15.00 น. ทางหน้าแฟนเพจเท่านั้นเอง เลขที่บัญชีเดียวเองครับ เงินผม 1 ล้าน ตอนนี้ก็รวมแล้ว 28 ล้านกว่า ผมว่าเลยเที่ยงน่าจะถึง 30 ล้าน จะเอาเงินสดไปให้พี่น้อง ตอนแรกจะให้ครอบครัวละ 1 พัน แต่ตอนนี้เงินเข้ามามาก กะว่าจะให้ครอบครัวละ 2 พัน เพราะผมเช็คดูแล้วครอบครัวผู้เสียหาย 12,500 กว่าครอบครัว ถ้าครอบครัวละ 1 พัน มันก็ตกเป็นเงิน 12 ล้านกว่าเกือบ 13 ล้าน ตอนแรกผมกะว่าเข้ามาสัก 5-6 ล้าน แต่ปรากฎว่าเข้ามาถล่มทลาย ก็เลยให้ครอบครัวละ 2 พัน เป็น 20 กว่าล้าน ประมาณ 24 ล้าน ทั้งหมดผมจะให้ดูด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้แต่บาทเดียว ผมจะเข้าพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ลงพื้นที่ตั้งแต่วันแรกๆ วันที่ 7 กันยายน ตั้งแต่วันนั้นที่เห็นตึกสองขั้นฝั่งวาริญฯ น้ำท่วมจะถึงชั้นสอง ปัจจุบันนี้ขึ้นขอบหน้าต่าง โคกที่เราไป ที่เป็นเนินดิน มีคนอยู่ ตอนนี้อยู่ไม่ได้แล้ว ต้องอพยพไปอยู่ข้างนอกบางส่วน ตอนนี้น้ำลดบางส่วนเหมือนกันแต่ไม่ได้ลดมาก ตอนนี้เขาเอาทุ่นแรงดันน้่ำผลักน้ำออกไป จากระดับพื้นดินที่เราเหยียบไปถึงยอดที่ท่วมประมาณ 3 เมตรกว่า ตอนเราพายเรือไปเสาไฟฟ้าก็ 5.5 เมตร ตอนนี้เหลือไม่เท่าไหร่ วันนี้ลดบ้าง ผมเห็นรอยค้างอยู่อาจลงมาประมาณคืบ ถ้าฝนไม่ตกซ้ำ เพราะตอนผมมาฝนตกซ้ำ 4-5 ชั่วโมง บริเวณแถวนั้นแทบหาพื้นที่คนอยู่ไม่ได้ ฝั่งวาริญฯ ท่วมร้อยเปอร์เซ็นต์ จุดคนอยู่ได้คือจุดอพยพที่ทางการเตรียมไว้ให้กับบนสะพานที่ชาวบ้านไปจับจอง ใช้เชือกกั้นๆไว้เพื่อจับจอง หลังจากน้้นบางคนไปอยู่เองไม่พึ่งทางการก็ต้องไปหยิบยืมเงินมาซื้อหลังคา พวกผ้าใบมาติดบ้าง แต่ดึกๆ ฝนตกลงมา พายุเข้า ก็อยู่ไมได้ บางคนคิดว่าน้ำไม่ขึ้นไปจองด้านหน้า ปรากฎน้ำขึ้นมาก็ขยับไปหมด แล้วไปอีกไกลๆเพราะไม่มีพื้นที่ ชาวบ้านหลายคนบอกว่าบางครั้งย้ายไปอยู่ไกลๆ ต้องไปอยู่ในเมือง อาจต้องไปอยู่ตามศูนย์ประชุม แต่ชาวบ้านก็ต้องห่วง ก็ขอดูบ้านหน่อยว่าเป็นยังไง แม้จะมิดบ้านก็ต้องขอดูหน่อย บางคนเอามอเตอร์ไซค์ก็เอาเชือกแขวนไว้ เขาไปทำสัญลักษณ์ไว้เลย
ประเด็นดรามาที่อัดคลิปร้องไห้ แชร์เป็นล้าน คือผมไม่ได้คิดว่าการพูดของผมจะเป็นน้ำตาจระเข้ คือผมก็พูดไปตามที่ผมได้ประสบมากับชาวบ้าน ตอนที่ผมไป ผมมีเงินไม่มาก ประมาณ 2 แสนกว่าบาท ก็ซื้ออาหารสุนัข ซื้อข้าวของที่จำเป็น ค่าน้ำมัน ดูแลทั้งหมด เจอคนแก่ คนป่วย ก็ให้คนละพันสองพัน ให้ข้าวสารอาหารแห้งก็ธรรมดา แต่พอให้สตางค์เขาแทบจะลงกราบ เพราะเขาไม่มีเงินกัน ผมชั่วโมงนี้เขาต้องการเงิน เพื่อไปซื้อของที่จำเป็น เราก็คิดว่าผมจะกลับมากรุงเทพฯ เบิกเงินส่วนตัวของผม แล้วเอาเงินนี้ไปแจกตามครอบครัวต่างๆ ตอนไปดูหมู่บ้านนึงมี 100-300 ครอบครัว ถ้าคนละพัน ผมได้ประมาณพันครอบครัว ล้านนึงผมว่าไปได้ ผมก็เลยบอกว่าผมอยากกลับมาเบิกเงิน เห็นความเดือดร้อนเป็นยังไง แม้แต่เขาอยากกินกาแฟกระป๋อง 20 กว่าบาท เขายังไม่มีเงินซื้อเลย จังหวะชาวบ้านเขาเอาข้าวเหนียวส้มตำมาเลี้ยงทีมงานผมก็ไปจกข้าวเหนียวซึ่งร้อนมาก แล้วเดินเอาไปให้เขา เขามองเห็นข้าวเหนียวก็กินเลย ข้าวเหนียวเปล่าๆเลยนะ มีคนเดินถือลูกชิ้นมาก็เอาไปให้เขาสองไม้ เขาไม่มีเงินซื้ออะไรกินเลย ผมก็เลยบอกว่าผมจะเอาเงินไปช่วย ใครจะช่วยผมก็ได้นะ ทำบุญกับผมคนละ 20-50 บาท ผมช่วยคนแก่ที่ถูกทอดทิ้ง นอนกับอึกับฉี่มาหลายปี ผมก็มาลงคลิปนี้ว่าวันจันทร์มผมจะไปอุบลฯ อีก เงินผม 1 ล้าน ถ้ารวมกันจะช่วยได้อีกเยอะ
ตอนแรกคิดว่าได้เต็มที่คือ 5 ล้าน เลขบัญชี 0541226540 ธ.กสิกรไทย ชื่อบัญชี บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ยังไม่ปิดหรอกครับ เพราะหลังน้ำลดต้องมีการฟื้นฟูเยอะ ผมคิดว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญมาก ถ้ามีเงินเข้ามามากพอ จะซื้อพัดลม หม้อหุงข้าวให้ชาวบ้านที่ไม่เหลืออะไรเลย กะว่าจะช่วยเหลือตลอด หลังน้ำลดต้องเข้าไปฟื้นฟูจิตใจให้เขาสบายใจด้วย ที่หลายคนบอกว่าแซะรัฐบาล อย่าเรียกว่าแซะเลย เรียกว่าสะกิดดีกว่า ระหว่างนั้นพูดมันจุก มันพูดอะไรไม่ออก แล้วนึกถึงสิ่งที่รัฐบาลให้เงินเยียวยาหรือเงินอะไรไม่ทราบ ให้ไปช็อปปิ้งคนละพันบาทช่วยเศรษฐกิจ ผมก็คิดว่าคนละพันเนี่ย เอามาช่วยชาวบ้านที่ จ.อุบล ไหม แค่นั้นเอง ผมไมได้อะไรเลย นี่ไม่เรียกว่าแซะ เขาเรียกว่าสะกิด แต่คนไปผูกเรื่องมากมาย ก็ไม่เกี่ยวกับผมแล้ว ผมไม่ได้ไปต่อว่าต่อขาน แค่จ่ายเงินค่าช้อปปิ้งคนละพัน เอามาช่วยคนอุบลฯ ดีกว่า แค่นั้นเอง
รัฐบาลประกาศว่าจะมีการเยียวยาผู้ประสบภัย ไม่ทอดทิ้งแน่นอน น่าจะเป็นช่วงหลังน้ำลด แต่ตอนนี้ก็ต้องเยียวยาเบื้องต้นก่อน ปัจจัยเรื่องเงินที่เขาต้องการ ฟื้นฟูก็ฟื้นฟู แต่ ณ ตอนนี้ที่เกิดขึ้น เขาต้องอยู่เป็นเดือน ปลากระป๋อง บะหมี่สำเร็จรูป แค่นั้นที่อยู่ในถุงยังชีพ คิดว่าจะกินปลากระป๋องทุกวันไหม 7 วันก็เต็มที่ แต่เขาต้องอยู่เป็นเดือน ต้องมีอะไรเข้าไปช่วยเขาให้รู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงบ้าง ข้าวสารอาหารแห้งปัจจุบันถ้าถามมุมมองผมน่าจะพอ แต่ถ้าระยะยาวอาจต้องการ ณ ตอนนี้การให้เครื่องอุปโภคบริโภคเข้าไปเขาก็เอาเข้าบ้านไม่ได้ เขาก็เอามากองตามศูนย์ต่างๆ คนอยู่ในบ้านก็มี ที่ไม่ออกมา เขาสามารถเอาตรงนี้ไปทำกิน แต่ระบบไฟฟ้าก็ไม่มี ก็ต้องใช้เตาถ่าน ถ้าเอาไปอีกน่าจะเป็นเครื่องดื่ม น้ำดื่มสำคัญมาก เสื้อผ้า ผ้าอนามัย ของใช้ที่จำเป็น
ผมขอร้องนิดนึง เสื้อผ้ามือสองค่อนข้างลำบากเพราะต้องไปคัด ถ้าเป็นเสื้อผ้าใหม่มันได้เลย จะดีกว่า ถ้าเอาเสื้อผ้าขอเป็นเสื้อผ้าใหม่ ผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผม เพราะเขาไม่มีเงินซื้อ ในถุงยังชีพไม่มี ยาสระผม สบู่ทำความสะอาด สุขาเคลื่อนที่เริ่มมาแล้ว แต่น้อยอยู่ ตอนนี้เริ่มเข้าแล้ว ก็สำคัญมาก ส้วมสำเร็จรูป ถ้าเป็นกระโจมหน่อยก็ดีเลย เพราะมีผู้หญิงอยู่เยอะ นมเด็กก็ยังขาด ก็สำคัญ อะไรที่ในถุงบริจาคไม่มี ผมว่าสำคัญหมด ก่อนอื่นกราบขอบพระคุณพี่น้องที่ช่วยเหลือ เชื่อมั่นผมได้ทุกบาททุกสตางค์ ในบัญชีผม ผมเอาไปช่วยพี่น้องทุกครัวเรือนที่เดือดร้อน หลังน้ำลดก็ต้องฟื้นฟู ก็ขอบคุณและช่วยเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวอุบลฯ ผมไปดูมีคนบริจาค 10 บาท ผมซึ้งใจมากนะ พอรวมแล้วเป็นแรงใจส่งให้พี่น้องอุบลฯ ปกติน้ำท่วมที่ไหนจะเปิดศูนย์รับบริจาคแต่ทำไมปีนี้ไม่มี ผมก็งง อย่างน้อยเปิดโทรศัพท์รับบริจาค 100-200 ล้านต้องมี แต่นี่ไม่มี ผมสงสัยมาก" อย่างไรก็ตาม หนุ่ม-กรรชัย ดำเนิดพลอย พิธีกรรายการได้เผยตอนท้ายรายการว่ายอดบริจาคทะลุมากกว่า 100 ล้านเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากเพจ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
