โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

บริษัทใหญ่เตรียมระดมทุนเพียบ SET หาช่องทางดึงบ.เพื่อนบ้านเข้าระดมทุน 

Wealthy Thai

อัพเดต 22 ม.ค. 2563 เวลา 08.36 น. • เผยแพร่ 22 ม.ค. 2563 เวลา 08.36 น. • wealthythai
บริษัทใหญ่เตรียมระดมทุนเพียบ SET หาช่องทางดึงบ.เพื่อนบ้านเข้าระดมทุน 

Highlight  

  • *SET มั่นใจหุ้นใหญ่ไอพีฮอต่อเนื่อง      *
  • ชี้เข้าระดมทุนช่วยให้เป็นที่รู้จัก     
  • หาช่องเปิดไอพีโอสกุลเงินต่างประเทศ   

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออก หลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ยังมีหุ้นขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เข้าไอพีโอ ในตลาดหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เพราะภาคธุรกิจเห็นความสำคัญของการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มากกว่าเปฌนแหล่งระดมทุนแต่เป็นที่สร้างโอกาสและเป็นที่รู้จักของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง          

"ในส่วนไอพีโอเรามั่นใจว่า ยังมีบริษัทที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท อีกจำนวนมากที่จะเข้าระดมทุน ส่วนจะมีขนาดเท่าไหร่ เรายังบอกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับแวลูเอชชั่นในช่วงที่จะเข้าระดมทุนด้วย"       

ทั้งนี้การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ยอกจากจะช่วยในด้านระดมทุน ยังสร้างให้บริษัทเหล่านี้เป็นที่รู้จัก จากเดิมที่ต้องวิ่งหาพันธมิตร แต่พอมาอยู่ในตบาดหลักทรัพย์เขาจะโดดเด่น และมีคนสนใจอยากจะเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจมากขึ้น ซึ่งในปีนี้มองว่าการระดมทุนในภาพรวมทั้งตลาดแรกและตลาดรองจะไม่ต่ำกว่า5.5 แสนล้านบาท ส่วนภาวะหุ้นไอพีโอในช่วงที่ผ่านมานั้นใยด้านการตั้งราคา คงจะให้ความเห็นไม่ได้ เพราะการตั้งคาคา เป็นเรื่องของผู้ขายและผู้ซื้อเป็นหลัก       

นายภากร  ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาวะหุ้นไอพีโอที่เกิดขึ้นตอนนี้ เป็นเรื่องหนึ่งที่ตลาดให้ความสำคัญ แต่ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ นอกจากนี้เรายังดูถึงความเป็นไปได้ที่ให้ไทยเป็นแหล่งระดมทุนของภูมิภาค อย่างการเปิดให้ระดมทุนผ่านสกุลเงินอื่นๆที่นอกเหนือสกุลเงินบาท หากทำได้จะช่วยสร้างทางเลือกการลงทุนของคนในประเทศที่จะสามารถลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศได้            

นอกจากนี้ผู้จัดการตลาดเห็นว่า ปัจจุบันโลกมีพลวัตการเปลี่ยนแปลงที่ต้องเตรียมพร้อมรับมืออย่างต่อเนื่อง ทั้งสถานการณ์ต่างประเทศ ในประเทศ และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ในปี 2563 เป็นปีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินงานมาครบ 45 ปี จึงมุ่งเน้นการเติบโตแบบ Inclusive Well-being สร้างการเติบโตไปพร้อมกันทั้งตลาดทุน สังคม และประเทศชาติ อย่างมีสมดุล มีคุณภาพและยั่งยืนในระยะยาวเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของคนไทย เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถก้าวข้ามผ่านช่วงของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี และความผันผวนในเวทีโลกที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมกลยุทธ์ 3 ด้าน ประกอบด้วย

 

1) เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ (Grow with Efficiency)  ปรับรูปแบบการทำงานและขยายธุรกิจด้วยการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกันได้อย่างมีคุณภาพ ขณะเดียวกันยังคงมุ่งเน้นลดความซ้ำซ้อนของกระบวนการและกฎเกณฑ์ต่างๆ และการให้บริการในรูปแบบ One-Stop Service แก่บริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการนำข้อมูล (data) มาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงตามความต้องการ รวมถึงสร้างฐานข้อมูลที่ให้อุตสาหกรรมได้นำไปใช้ต่อยอดและประโยชน์ร่วมกัน

 

2) เติบโตด้วยการสร้างโอกาสใหม่ (Grow with New Opportunities) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะมุ่งเน้นความเชื่อมโยงกับตลาดทุนในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนม่า และเวียดนาม รวมทั้ง การขยายโอกาสการระดมทุนของธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) รวมถึงสตาร์ทอัพ (Startups)

3) เติบโตไปด้วยกันกับผู้ร่วมตลาดและสังคมอย่างยั่งยืน (Grow with Stakeholders & Sustainable Society) ปรับปรุงกฎเกณฑ์ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจให้ง่ายและสะดวกมากขึ้น (Ease of Doing Business) และการคุ้มครองผู้ลงทุน พร้อมสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ผู้ร่วมตลาดได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ลดต้นทุนการทำธุรกิจให้แก่อุตสาหกรรม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและแพลตฟอร์มกลางของตลาดทุน และการเสริมความปลอดภัยทางไซเบอร์ การสร้างช่องทางใหมในการลงทุนให้สะดวกมากขึ้น รวมถึงการส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และสร้างผลลัพธ์ทางสังคม (Social Impact) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างสมดุลและมีคุณภาพ พร้อมปรับแนวทางการพัฒนาความรู้การออมและการลงทุนภาคประชาชน และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในทุกมิติ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0