บทเรียน SONY WALKMAN / โดย ลงทุนแมน
Sony Walkman ถือเป็นจุดกำเนิดซาวด์อะเบาต์
ที่เป็นนวัตกรรมในการฟังเพลงแบบพกพา
แต่สุดท้ายต้องเสียตลาดนี้ให้กับคู่แข่งอย่าง iPod
เราสามารถเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ซาวด์อะเบาต์ Sony Walkman ถูกนำออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี ค.ศ. 1979
โดยผู้ผลิต Sony Walkman คือ Masaru Ibuka วิศวกรชาวญี่ปุ่น
และ เขาคนนี้คือ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Sony ด้วย
การพัฒนา Sony Walkman ของ Sony นั้นเป็นการนำไอเดียของเครื่องเล่นเทปคาสเซตทั่วไป มาดัดแปลงให้เป็นเครื่องเล่นเทปคาสเซตแบบพกพาได้
ด้วยการตัดฟังก์ชันการบันทึกเสียง กับลำโพงออกไป เพื่อทำให้เครื่องเล่นเทปคาสเซตมีขนาดเล็กลง และสามารถพกพาได้
เมื่อครั้งที่ Sony Walkman ออกสู่ตลาด ราคาที่ออกขายครั้งแรกอยู่ที่ 150 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,500 บาท
ตอนนั้นผู้บริหารของ Sony คาดว่าจะสามารถขายสินค้ารุ่นนี้ได้ 5,000 ชิ้นต่อเดือน
แต่ปรากฏว่า Sony Walkman กลับสร้างยอดขายได้ถึง 50,000 ชิ้น ใน 2 เดือนแรกที่ออกวางจำหน่าย
หลังจากประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น Sony Walkman ก็ถูกนำไปขายที่สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ก่อนที่สินค้าอื่นๆ จะตามมาด้วย เช่น CD Walkman, เครื่องเล่น CD แบบพกพา, MD Walkman, เครื่องเล่นมินิดิสก์แบบพกพา
10 ปีแรกของการวางจำหน่ายเครื่องฟังเพลงแบบพกพาของ Sony
Sony Walkman มียอดขาย 186 ล้านชิ้น
CD Walkman มียอดขาย 46 ล้านชิ้น
MD Walkman มียอดขาย 4.6 ล้านชิ้น
เรียกว่า การมาของ Sony Walkman นั้น สร้างปรากฏการณ์ และปฏิวัติวงการฟังเพลงในช่วงนั้นไปอย่างสิ้นเชิง
แต่แล้วยอดขายของ Sony Walkman เริ่มลดลง หลังจากที่ Apple ได้มีการนำ iPod ออกมาขายในปี 2001 โดย iPod นั้นเป็นเครื่องฟังเพลงแบบพกพาซึ่งใช้ฮาร์ดดิสก์ในการเก็บข้อมูล ในราคาประมาณ 12,000 บาท
นับตั้งแต่ปีแรกที่ iPod ออกขาย มาจนวันนี้ Apple สามารถขาย iPod ได้มากกว่า 400 ล้านเครื่อง ซึ่ง iPod ถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาสินค้าอื่นๆ ของ Apple ในเวลาต่อมา ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ iPad
ต้องยอมรับว่า iPod สามารถลบข้อจำกัดของ Sony Walkman ไปได้อย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะข้อจำกัดในการฟังเพลงได้ทีละม้วนของเทปคาสเซต หรือทีละแผ่นของซีดี เพราะในตอนนั้นถ้าเราอยากฟังเพลงเยอะๆ ก็ต้องถือเทป หรือ ซีดี จำนวนมากติดตัวไปด้วย
นอกจากรูปแบบของ iPod ที่สวยถูกใจลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น
iPod ยังสร้างแพลตฟอร์มใหม่ชื่อ iTunes ซึ่งสามารถดาวน์โหลดเพลงจำนวนมากมายจากที่บ้าน โดยไม่ต้องไปที่ร้านซื้อเทป หรือ ซีดี
แม้แต่ศิลปินจากค่าย Sony เองยังกดดันบริษัทให้เอาเพลงตนเองไปไว้ไป iTunes เพื่อสามารถเข้าถึงผู้ฟังเพลงได้มากขึ้น
เรื่องราวของ Sony Walkman อาจบอกกับเราได้ว่า
ถ้าวันนี้เราคิดว่า เราประสบความสำเร็จแล้ว
เราอาจต้องกลับมาทบทวนตัวเองว่า ความสำเร็จนี้จะคงอยู่ต่อไปได้นานแค่ไหน
เรายังมีจุดไหนที่ต้องพัฒนาต่อไปอีก?
เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่มาพร้อมกับความสำเร็จก็คือ คู่แข่งที่พร้อมจะก้าวเข้ามาแย่งตลาด
ถ้าสุดท้าย
สินค้าของเราตอบโจทย์ไม่ดีเท่าคู่แข่ง
ต่อให้เรามีอดีตที่สวยหรู เป็นตำนานแค่ไหน
มันก็ไม่ช่วยอะไรอยู่ดี
การเริ่มต้นเร็ว ไม่สำคัญเท่า การยืนระยะ..
———————-
อ่านลงทุนแมนสนุกขึ้น
อ่านในแอป Blockdit
โหลดที่ http://www.blockdit.com
———————-
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Walkman
-https://www.sony.net/SonyInfo/News/Press_Archive/199907/99-059/
-https://edition.cnn.com/2019/07/01/tech/innovation/walkman-40th-anniversary-trnd/index.html
-https://th.wikipedia.org/wiki/ไอพอด
-https://www.lifewire.com/number-of-iPods-sold-all-time-1999515
-http://liblog.dpu.ac.th/article/upload/a088.pdf