มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิ่งลงวันเดียวหนักสุดนับตั้งแต่ต้นปีในวันพฤหัสบดี(23พ.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบประมาณ 2 เดือน จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ปัจจัยนี้ฉุดวอลล์สตรีทร่วงหนักและดันทองคำพุ่งแรง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 3.51 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 3.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม
ความเคลื่อนไหววานนี้ทำให้น้ำมันดิบทั้งสองสัญญาปิดลบวันเดียวหนักสุดในรอบปี 2019 ทั้งในรูปแบบดอลลาร์และคิดเป็นเปอร์เซ็นต์
นักวิเคราะห์มองว่าความตึงเครียดทางการค้าที่ปะทุขึ้นระหว่างสองชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลก สหรัฐฯและจีน ได้กระพือข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันดิบในระยะสั้น โดยเฉพาะในกรณีที่ความขัดแย้งทางการค้าไม่อาจคลี่คลายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพหัสบดี(23พ.ค) ดิ่งหนัก นักลงทุนเทขายหุ้นในภาคต่างๆ ในนั้นรวมถึงกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยี ท่ามกลางความกังวลว่าสงครามการค้าที่ลุกลามระหว่างปักกิ่งและวอชิงตันจะกัดเซาะการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ดาวโจนส์ ลดลง 286.14 จุด (1.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,490.47 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 34.03 จุด (1.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,822.24 จุด แนสแดค ลดลง 122.56 จุด (1.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,628.28 จุด
ในวันพฤหัสบดี(23พ.ค.) มีความเห็นที่ซ้ำเติมความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังปักกิ่งบอกว่าวอชิงตันจำเป็นต้องแก้ไขพฤติกรรมที่ผิดๆหากต้องการให้การเจรจาทางการค้าเดินหน้าต่อไป หลังจากสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำ หัวเว่ย เทคโนโลยี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ตลาดน้ำมันและตลาดหุ้นที่ดิ่งลงอย่างหนักท่ามกลางข้อพิพาททางการค้า กระตุ้นให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(23พ.ค.) พุ่งแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 11.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,285.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์