นางพญาเสือโคร่งภูทับเบิก เริ่มแตกช่อออกดอกตูมๆแล้ว

เพชรบูรณ์-นางพญาเสือโคร่งภูทับเบิก เริ่มแตกช่อออกดอกตูมๆแล้ว หน.อช.ภูหินร่องกล้า ให้รอปลายเดือนธ.ค.นี้น่าจะชัดเจน

วันที่ 15 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ชาวทับเบิกเกิดความวิตกกังวลกรณีจู่ๆแปลงต้นนางพญาเสือโคร่งภูทับเบิก "ปลูกป่าประชาอาสา" เนื้อที่ 126 ไร่ บ้านทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูณ์ ทิ้งใบจนโกร๋นทั้งต้นจนแลดูยืนต้นตายยกทั้งแปลง ต่อมาทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูร่องกล้าเข้าสำรวจจนลงความเห็นว่า เป็นการผลัดใบตามธรรมชาติและให้คอยลุ้นเดือนมกราคมปี 2563 นี้ว่าจะออกออกบานสะพรั่งหรือไม่นั้น ล่าสุดมีรายงานว่า หลังจากที่สภาพอากาศหนาวเย็นจัดและอุณหภูมิที่ภูทับเบิกก่อนหน้านี้ลดดิ่งลงต่ำสุดราว 1 องศาเซลเซียส ทำให้ขณะนี้ต้นพญาเสือโคร่งแปลงภูทับเบิก ได้เริ่มทยอยแตกช่อดอกและออกดอกตูมๆเป็นบางส่วนแล้ว จนสร้างความดีใจให้กับชาวบ้านที่จับจ้องและคอยเฝ้าสังเกต

นายชัยณรงค์ เพิ่มพันญการ หรือ "แบงค์อาสาช่วยนักท่องเที่ยวภูทับเบิก" กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมาได้เข้าไปสำรวจที่แปลงต้นนางพญาเสือโคร่งดังกล่าว พบต้นนางพญาเสือโคร่งแตกช่อตามกิ่งก้านพร้อมทยอยออกดอกกระจายลักษณะเป็นดอกตูมกระจายเป็นหย่อมๆทั่วทั้งแปลง ขณะเดียวกันก็มีที่ออกดอกแต่ก็มีเพียงประปราย ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าต้นนางพญาเสือโคร่งที่ชาวบ้านตกใจที่จู่ๆทิ้งใบโกร๋นทั้งต้นทั้งแปลง ไม่ได้ยืนต้นตายอย่างที่เข้าใจ ตอนนี้จึงรอลุ้นกันต่อไปว่าแปลงนางพญาเสือโคร่งภูทับเบิก จะออกดอกบานเป็นทุ่งหรือบานเป็นหย่อมๆ แต่เชื่อว่าด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็นขนาดนี้น่าจะเอื้อให้พันธุ์ไม้ป่าชนิดนี้ออกดอกสะพรั่งสวยงามไม่น้อยกว่าปี 2560 ที่ผ่านมา

นายสุริยา กาละสูต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า กล่าวว่า จากการสำรวจล่าสุด พบว่าต้นนางพญาเสือโคร่งแปลงภูทับเบิกเพิ่งจะทยอยแตกช่อดอกและเป็นดอกตูมๆกระจายเป็นหย่อมๆทั่วทั้งแปลง ส่วนที่เริ่มบานอาจมีประปรายซึ่งยังพูดไม่ได้เต็มปาก ต้องรอความชัดเจนในปลายเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งแปลงที่ภูมลมโรก็มีสภาพไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ นอกจากนี้ต้องแยกให้ออกระหว่างออกดอก-ออกใบกับยืนต้นตายซึ่งเป็นคนละส่วนกัน อย่างไรก๋ตามแม้จะไม่ตายก็จริงแต่ไม่ออกดอกเลยหรือแตกไปเป็นใบเลยก็มี ที่ผ่านมาบางแปลงออกดอกเยอะ ในขณะที่บางแปลงก็แตกใบเยอะทำให้ไม่ค่อยมีดอก ส่วนยืนต้นตายนั้นถือเป็นปกติแค่เป็นตายตามธรรมชาติ ทั้งนี้ทางอุทยานฯได้ทำหนังสือถึงสำนักวิจัยฯเพราะขอสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญลงมาสำรวจ เพื่อจะได้วางแนวทางว่าควรจะบำรุงหรือดูแลกันอย่างไร

ภาพโดย : หน่วยช่วยเหลือนักท่องเที่ยวภูทับเบิก