นร.เดือด! ชุมนุมใหญ่ ไล่ ผอ.โรงเรียน แฉยับ เอาเงินไปจัดบวงสรวง ทึ่งพฤติกรรม?

นร.เดือด! ชุมนุมใหญ่ ไล่ ผอ. แฉยับ พฤติกรรมทึ่ง เอาเงินโรงเรียน ไปจัดบวงสรวง อ้างปัดรังควาญ วิพากษ์การบริหารงาน แบบไม่ชอบมาพากล

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 16 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานมาจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม มีผู้ปกครองและนักเรียนกว่า 200 คน รวมตัวขับไล่ ผู้อำนวยการโรงเรียน มีการขึ้นเวทีเปิดเครื่องขยายเสียง พูดถึงความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานของ ผู้อำนวยการโรงเรียน

โดยมีตัวแทนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นหัวหน้าชมรมนักเรียน เปิดเผยว่า ในวันนี้และมีการประชุมครูผู้ปกครองนักเรียนจึงได้มีการรวมตัวกันเพื่อชี้แจงการบริหารงานที่ไม่ชอบมาพากล ของผู้อำนวยการโรงเรียน

คือการให้ครูผู้ช่วยมาขายน้ำให้กับเด็กนักเรียนในโรงเรียน โดยเป็นการต้มน้ำขาย แต่หลังจากที่ขายแล้วก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเงินที่ขายได้ ไปอยู่ในส่วนใด ไม่มีการทำบัญชีแจกแจงให้กับครูและนักเรียนทราบ การบริการน้ำดื่มก็ไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน

ทั้งๆที่มีการขยายห้องเรียนเพื่อรับเด็กนักเรียนเพิ่ม รวมไปถึงโรงอาหารไม่สร้างเพิ่มให้เพียงพอกับจำนวนนักเรียน บ้างต้องนั่งกินข้าวกับพื้นหรือตามใต้อาคาร ไม่เป็นสุขลักษณะ เด็กหลายคนบอกว่าคิวยาว ซื้ออาหารไม่ทัน และไม่มีที่นั่ง แต่ทางโรงเรียนกลับนำเงินไปทำตะเกรงกั้นนกหลายแสนบาท

นอกจากนี้ยังมีการบังคับขายสมุดให้กับเด็กนักเรียนในโรงเรียนทุกคนในราคา 138 บาท แต่ละคนจะได้สมุดที่แตกต่างกัน และเมื่อเปรียบเทียบกับโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย ซึ่งจำหน่ายในราคาเล่มละ 10 บาทเท่านั้น แต่โรงเรียนเราขายราคา 12 บาท หากเป็นสมุดเล่มใหญ่ราคา 20 บาท แต่โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัยขายแค่ 15 บาทเท่านั้น

ที่ผ่านมาโรงเรียนดังกล่าว ยังมีการจัดพิธีบวงสรวง ปัดรังควาญ โดยมีการ อ้างว่ามีเจ้าที่ เจ้าทาง ของโรงเรียนโกรธ ที่ครูส่วนใหญ่มักทำผิด ไม่สามัคคี จึงทำให้เกิดเรื่องราวมากมาย จะทำให้ต้องหมดงบประมาณไปกับในส่วนในการทำพิธีจำนวน 50,000 บาท

และพฤติกรรมของผู้อำนวยการ ทุกๆวันจะมีคนคอยปัดรถ ล้างเช็ดรถให้อยู่ตลอดเวลา แต่ได้ประกาศออกมาให้ครูผู้ช่วยและนักเรียนช่วยกันประหยัดไฟ แต่ทั้งๆที่ ตัวผู้อำนวยการโรงเรียนเอง นำรถส่วนตัวมาเช็ดล้างที่โรงเรียน โดยใช้น้ำของโรงเรียน คิดดูว่ามันสมควรหรือไม่

นอกจากนี้พฤติกรรมของผู้อำนวยการพูดจากับลูกน้องด้วยถ้อยคำหยาบคาย ข่มขู่ วางอำนาจ ใช้กฎหมายอ้างอิงเพื่อกดขี่ข่มเหง จะไล่ออกบ้าง จะไม่ประเมินให้ผ่านบ้าง จะไม่ยอมเซ็นย้ายบ้าง การประเมินเงินเดือนที่ผ่านมาก็ไม่เป็นไปตามระบบ

เอื้อผลประโยชน์ให้กับพวกพ้องอย่างเห็นได้ชัด ไม่พิจารณางานจากหน้าที่ ไม่สร้างขวัญกำลังใจในการทำงานแต่ใช้อำนาจกฏหมายข่มขู่แทน ทำให้ครูได้ลาออกไปจำนวนหนึ่ง ไม่มีสัมพันในชุมชนเลย แม้กระทั่งวัดซึ่งเป็นที่อุปถัมภ์โรงเรียน กรรมการสถานศึกษาหลายท่านก็ทิ้งวัดห้วยไปแล้วเพราะไม่ฟังกรรมการแย้งติง

ยังมีการกระชากคอเสื้อของเด็กนักเรียนโดยมีผู้คนเห็นมากมาย และพยายามจะตบเด็กนักเรียน ผมว่ามันไม่สมควร การเป็นผู้บริหารและใช้คำพูดที่ด่าทอรุนแรง และไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ มักจะแสดงอาการเกรี้ยวกราด ด่า หยาบคาย ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ และเคยหลุดปากออกมาว่า ผอ. กินยาอยู่ แต่ไม่มีใครทราบว่าเป็นยาอะไร จึงอยากให้ไปตรวจสอบดูว่าผู้อำนวยการกินยาอะไรอยู่

ทั้งนี้ ยังใช้เวลาเรียนของนักเรียนอบรมครูบ่อย มีการประชุมบ่อย ควรให้ครูได้อยู่กับนักเรียนบ้างและใส่หูฟังตลอดทั้งวันเพื่อฟังเสียงครูนินทา เพราะแอบติดเครื่องดักฟังและติดกล้องวงจรปิด บอกว่าต่อไปนี้คุยนินทาอะไรกันก็จะได้ยินกันหมดเรื่องแบบนี้ไม่ได้เกี่ยวกับนักเรียน สำหรับ ผอ.คนนี้เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอยู่ที่โรงเรียนโพรงมะเดื่อวิทยาคม และเคยถูกขับไล่มาเช่นเดียวกัน ก่อนจะมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว

ทางด้านผู้ปกครองของเด็กนักเรียนรายหนึ่งเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพอจะทราบรายละเอียดมาคร่าวๆบ้างแล้ว ถึงความไม่ชอบมาพากลหลายๆอย่างของผู้อำนวยการโรงเรียน ในวันนี้เด็กนักเรียนได้ออกมาพูด ก็ควรเปิดโอกาสให้กับเด็กนักเรียนได้อธิบาย

ทางผู้อำนวยการควรรับฟังหากมีข้อสงสัยตรงจุดใดให้สอบถามหรือพูดคุยกัน หากไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้คนกล่าวหาควรออกมาชี้แจง ไม่ใช่ปิดไมโครโฟนหนี พยายามที่จะทำไม่ให้เด็กนักเรียนออกมาพูด ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ตัวเราเองเป็นผู้ปกครองเราอาจจะไม่ทราบเรื่องราวทั้งหมด แต่กริยาที่ได้พบเห็นนั้นมันไม่ถูกต้อง เพราะเป็นผู้ใหญ่กันแล้วควรจะออกมาพูดคุยชี้แจงให้ครบถ้วน พ่อแม่ผู้ปกครอง ทุกคน รวมไปถึงครูนักเรียนบางส่วนก็ยังคาใจอยู่

จากนั้นได้มีอาจารย์ เชิญตัวแทนผู้ปกครอง 5 คน ตัวแทนนักเรียน 5 คน เข้าไปปรึกษาหาแนวทางแก้ไขกับผู้อำนวยการโรงเรียนโดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อพูดคุยเคลียปัญหาที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นผู้ปกครองรายหนึ่งได้ออกมาพูดว่า เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกัน หลังจากที่มีพฤติกรรมการทำงานที่ไม่โปร่งใส

ทั้งนี้ได้มีการยุติการประท้วง และให้ผู้อำนวยการโรงเรียนได้ทำงานต่อไปเพื่อพิสูจน์ผลงาน พร้อมทั้งมีการแยกย้ายกันโดยไม่มีเหตุรุนแรง สำหรับโรงเรียนดังกล่าว เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาแบบสหศึกษาและเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ สอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ