โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ธุรกิจเจ๊งเดือนพ.ค.พุ่ง 11%

NATIONTV

อัพเดต 18 มิ.ย. 2562 เวลา 10.57 น. • เผยแพร่ 18 มิ.ย. 2562 เวลา 09.44 น. • Nation TV
ธุรกิจเจ๊งเดือนพ.ค.พุ่ง 11%
ธุรกิจเจ๊งเดือนพ.ค.พุ่ง 11%

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุ บริษัทตั้งใหม่เดือนพ.ค. มีจำนวน 5,942 ราย เพิ่มขึ้น 1% แต่ทุนจดทะเบียนพุ่ง 3.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 135% ส่วนบริษัทเลิกกิจการ มีจำนวน 1,130 ราย เพิ่ม 11% คาดแนวโน้มบริษัทตั้งใหม่ยังเติบโตต่อเนื่อง ทั้งปียังเข้าเป้า 7.5 หมื่นราย

++นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่าธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศเดือนพ.ค.2562 มีจำนวน 5,942 ราย เพิ่มขึ้น 1%เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.2561และเพิ่มขึ้น 0.03%เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.2562โดยธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ยังคงเป็นธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไปธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร มีทุนจัดตั้งใหม่รวม 35,218ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.2562 ที่มีจำนวน 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20,218 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 135% และเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.2561 จำนวน 21,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,128 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 67%และยอดรวมธุรกิจจัดตั้งใหม่ 5เดือนของปี 2562 (ม.ค.-พ.ค.) มีจำนวนรวม 32,636 ราย เพิ่มขึ้น 5% ++ทั้งนี้ ยอดทุนจดทะเบียนในเดือนพ.ค.2562 ที่เพิ่มสูงขึ้น มาจากธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีขนาดใหญ่และมีทุนจดทะเบียนสูงกว่า 1,000 ล้านบาท 3 ราย คือ บริษัทจำกัดแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ประกอบธุรกิจโรงแรม มีมูลค่าทุน 18,318 ล้านบาท สูงสุดในเดือนนี้ บริษัทจำกัดประกอบธุรกิจโฮลดิ้ง มูลค่าทุน 2,389 ล้านบาท และบริษัทจำกัดประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าทุน 1,000 ล้านบาท++ส่วนธุรกิจเลิกกิจการในเดือนพ.ค.2562มีจำนวน 1,130ราย เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.2562 เพิ่มขึ้น 15%และเทียบกับเดือนพ.ค. 2561 เพิ่มขึ้น 11%โดยธุรกิจที่เลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไปธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหารมีทุนเลิกกิจการ 3,538ล้านบาท ลดลง 8%เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.2562 และยอดเลิกกิจการรวม 5เดือนมีจำนวน 5,403ราย เพิ่มขึ้น 10%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน++อย่างไรก็ตาม กรมฯ มั่นใจว่าการจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังจะยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)การบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนขยายตัว และการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยลบ ที่ต้องระวังมาจากปัญหาสงครามการค้า สถานการณ์การเมือง โดยยังคงมั่นใจว่ายอดจัดตั้งใหม่ทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมาย 75,000 ราย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0