ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อกำหนดกรอบและผลักดันโครงการที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1 ล้านยูนิต(โครงการบ้านล้านหลัง) เพื่อบุคคล 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่มีรายได้น้อย กลุ่มที่กำลังสร้างครอบครัว และ กลุ่มคนชราที่ไม่มีผู้ดูแล ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายไว้ โดยคณะกรรมการชุดนี้ มี นายนรินทร์ กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานคณะทำงาน
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า โครงการบ้านล้านหลังในเบื้องต้นได้กำหนดแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาวเอาไว้ โดยระยะสั้นคาดหวังว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีที่อยู่อาศัยที่เข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 1 แสนยูนิต เพื่อให้คนทั้ง 3 กลุ่ม ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองตามนโยบายที่ นายสมคิด ได้มอบหมายไว้
"แผนระยะสั้นต้องดำเนินการให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเราตั้งใจว่าจะส่งมอบของขวัญชิ้นที่หนึ่งให้กับท่านรองนายกฯ ที่ท่านขอไว้ในวันเกิดท่านตอนที่มาเปิดงาน ธอส. เอ็กโป ซึ่งเราก็เตรียมที่จะมีที่อยู่อาศัยในราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ออกมาให้กับประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยทั้ง 3 กลุ่ม ที่ท่านรองนายกฯ ได้ให้โจทย์เอาไว้"
สำหรับอัตราดอกเบี้ยโครงการนี้ ยังไม่ได้กำหนดตัวเลขที่ชัดเจน แต่ที่ ธอส. ตั้งเป้าหมายเอาไว้ คือ ที่อยู่อาศัยราคา 1 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้ 40 ปี จะมีอัตราการผ่อนต่อเดือนไม่ถึง 4 พันบาท และอัตราดอกเบี้ยคงที่จะยาวประมาณ 5 ปี จากปัจจุบันกำหนดไว้ที่ 3 ปี
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ในส่วนของที่อยู่อาศัยที่มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทนั้น ปัจจุบัน ธอส. ได้คุยกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาบ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทจำนวน 2-3 ราย พบว่า ผู้ประกอบการกลุ่มนี้มีที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จแล้วประมาณ 1 หมื่นกว่ายูนิต และเตรียมจะสร้างเพิ่มในปีหน้าอีกราวๆ 2 หมื่นยูนิต ซึ่งหลังจากนี้ ธอส. จะเร่งเจรจากับผู้ประกอบการรายอื่นๆ เชื่อว่า จะสามารถหาที่อยู่อาศัยที่มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ได้ครบ 1 แสนยูนิตภายในสิ้นปีนี้แน่นอน
"คนอาจสงสัยว่า ราคาที่อยู่อาศัยต่ำกว่า 1 ล้านบาท มีอยู่จริงหรือไม่ ซึ่งยอมรับว่าผู้ประกอบการที่สร้างบ้านกลุ่มนี้ อาจจะมีไม่มาก เพราะเขาก็คิดว่า สร้างเสร็จแล้วจะไปขายใคร เพราะคนที่มีกำลังซื้อหน่อยก็ไม่มาอยู่ ส่วนคนที่อยากอยู่ ก็ไม่มีแรงผ่อน ซึ่งเราได้รับโจทย์มาว่า ให้สร้างระบบ post finance ภายใต้กฎหมายที่เราทำได้ ซึ่งก็น่าจะทำให้ระบบเกิดขึ้นมาได้ และทำให้ผู้ประกอบการกล้าที่จะสร้างที่อยู่อาศัยขึ้นมารองรับคนกลุ่มนี้ด้วย"
