คุณเป็นอีกคนมั้ยคะที่กำลังมีปัญหาเรื่องการเป็นหนี้บัตรเครดิต ถ้าใช่เราก็เป็นเพื่อนร่วมทุกข์กันค่ะ
อ้อมเชื่อว่า บัตรเครดิตเป็นผลอย่างหนึ่งของการที่สังคมยุคนี้ (หรือจะว่าไปตั้งแต่ยุคพ่อแม่เลยก็ได้) มนุษย์เงินเดือน คนทำงานฟรีแลนซ์ ถูกทำให้เชื่อว่า การมีเครดิตเป็นสิ่งที่ดี เป็นเรื่องของคนน่าเชื่อถือ เลยไม่น่าแปลกใจที่คนวัยทำงานจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม จะพกบัตรที่ว่านี้กันคนละใบสองใบ จะอ้างว่าเพื่อความสะดวก ไม่ต้องพกเงินสด ปลอดภัย กำไร เพราะเหมือนมีคนจ่ายเงินล่วงหน้าให้ ไหนจะผ่อน 0% หรือสารพัดข้อที่จะยกมาเพื่อใช้มัน
ส่วนตัวอ้อมเห็นด้วยค่ะว่าบัตรเครดิตมีประโยชน์ แต่มันต้องยั้งใจเป็นด้วย
มีสิ่งของบางอย่างที่ถ้าหากใช้เป็น มันจะมีประโยชน์มากกว่าโทษ แต่ของอย่างเดียวกันนี่แหละ ถ้าเราติดกับดักความเผลอ ความเพลิน ไหลไปกับความเคยชินจนติดเป็นนิสัย สุดท้ายของสิ่งนั้นจะไม่ใช่ “เราใช้มัน” แต่เป็น “มันใช้เรา”
ฉะนั้นสำหรับบางคนบัตรเครดิตเลยกลายเป็นตัวช่วยให้ทุกข์มากกว่าสุข เหมือนคุณผู้ชมที่มีปัญหาถามมาว่า จะจัดการอย่างไรดีกับการเป็นหนี้บัตรเครดิต เพราะทุกข์จนไม่มีความสุขแล้ว อ้อมได้มีโอกาสเรียนถามพระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต ท่านแนะนำมา 2 ข้อหลัก ๆ ค่ะ
1.ฝั่งจิต- หยุดคร่ำครวญ แต่จงใคร่ครวญ เพราะถ้ามัวโอดโอยมันก็จะยิ่งทุกข์อยู่อย่างนั้น สู้เอาเวลามาคิดว่าหนี้มันมาจากไหน แล้วหาทางสกัดเหตุแห่งทุกข์นั้นให้ได้ดีกว่า
2.ฝั่งกิจ- หยุดสร้างหนี้ ลดรายจ่าย สร้างรายได้เพิ่ม อันดับแรกแน่นอนต้องไม่ก่อหนี้เพิ่ม สิ่งที่เคยฟุ่มเฟือยต้องตัดทิ้ง และอาจต้องหางานเสริม เพื่อนำมาปลดหนี้ ที่สำคัญเมื่อปลดหนี้ได้แล้ว ต้องอย่ากลับไปอยู่ในวงจรเดิมซ้ำๆอีก
โดยทั้งหมดจะต้องใช้สติ ทำใจให้สงบ เดี๋ยวทางออกที่เป็นรูปธรรม ก็จะค่อย ๆ ปรากฏเป็น รายละเอียดให้เราได้แก้ไขกันต่อไปค่ะ
อ้อมขอเป็นกำลังใจให้คนที่ทุกข์จากเรื่องนี้หาทางออกที่ดีของตัวเองให้เจอนะคะ แล้วถ้าคุณมีทุกข์อะไรที่อยากระบายหรือหาทางออก ก็ลองบอกมาทาง http://www.bia.or.th/dhamlife อ้อมจะไปตามหาคำตอบจากพระอาจารย์มาให้นะคะ
อะไรที่อ้อมพอจะช่วยได้ อ้อมยินดีค่ะ
ติดตามรายการธรรมlife ตอนใหม่ ได้ทุกวันเช้าพุธ และวันอาทิตย์ เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ที่ LINE TODAY #ปุ่ม4ในLINE
