ธนาธรถึงเข้าสภาฯ ไม่ได้ แต่ยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ ธนาธรยันเดินหน้ารวมเสียงตั้งรัฐบาล

23 พ.ค. 2562 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ที่ทำการพรรคฯ กรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9:0 รับคำร้อง กกต.วินิจฉัยคุณสมบัติ ส.ส. ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปมถือหุ้นสื่อ และมีมติ 8:1 ให้ธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จนกว่าจะมีคําวินิจฉัย เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับมติของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ตามเหตุผลที่ปิยบุตรได้แถลงความเห็นด้านกฎหมายไปแล้วเมื่อวานนี้

นอกจากนี้ ธนาธร ยังตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการพิจารณาคำร้อง กกต. เกี่ยวกับความเป็นสมาชิกภาพ ส.ส. ของตนเองว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ รีบร้อนผิดปกติหรือไม่ และมีมูลเหตุทางการเมืองหรือไม่

โดยยกกรณีเอกสารของคณะกรรมการสอบสวนไต่สวนของ กกต. ที่เรียกพยานเพื่อสืบความเพิ่ม ลงวันที่ 17 พ.ค. ขณะที่ กกต.ชุดใหญ่ ได้ส่งข้อร้องเรียนให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปแล้วเมื่อวันที่ 6 พ.ค. ถามว่าเหตุใด กกต.ชุดใหญ่จึงไม่รอการพิจารณาให้เสร็จสิ้นก่อน เอาข้อสรุปมาจากไหน ทั้งที่ กกต.ชุดเล็กกำลังพิจารณา หรือกรณีเรียกมารดาของตนเองสอบปากคำกรณีดังกล่าว ที่เอกสารมาถึงบ่ายวันที่ 22 เม.ย. แต่เป็นการเรียกให้ปากคำในวันที่ 22 เม.ย.เช้า ซึ่งไปไม่ได้อยู่แล้ว และจากนั้น 23 เม.ย. กกต.ก็แจ้งข้อกล่าวหาทันที โดยที่ฝั่งตนเองยังไม่มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงกับ กกต.

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกรณีวานนี้ ปิยบุตรแถลงเรื่องความเร่งรีบผิดปกติคดีนี้ เทียบกับกรณีของ ดอน ปรมัตถ์วินัย ที่กรณีธนาธรนั้นใช้เวลานับแต่รับเรื่องจนถึงศาลรัฐธรรมนูญ 53 วัน ขณะที่กรณีของนายดอน ใช้เวลา 417 วัน 

“จำนวนวันที่แตกต่างระหว่างสองกรณี คือ 364 วันหรือเกือบปี ถามว่า ทุกท่านคิดว่าผมได้รับความเป็นธรรมในกรณีนี้หรือไม่ การทำงานของกระบวนอิสระที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติในไทยเป็นธรรมหรือไม่” ธนาธรกล่าวพร้อมเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันตรวจสอบการทำงานขององค์กรอิสระ

ทั้งนี้ ธนาธรระบุด้วยว่า แม้มีคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่พรรคอนาคตใหม่จะเดินหน้ารวมเสียงพรรคที่ต่อต้านระบอบเผด็จการ เพื่อผลักดันธนาธรเป็นนายกฯ อย่างไม่หยุดยั้ง และตนเองยังเป็นแคนดิเคตนายกฯ และพร้อมที่จะเป็นนายกฯ