ธนาคารกลางจีน (PBOC) ออกมาเตือนว่า ความไม่แน่นอนที่เกิดจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลก โดยความขัดแย้งทางการค้าและความไม่แน่นอนด้านนโยบาย คือปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญ และความไม่แน่นอนในหลายส่วน จะทำให้เศรษฐกิจประเทศต่างๆ เปราะบางมากขึ้น
ความไม่แน่นอนและผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก อันเป็นผลมาจากความขัดแย้งทางการค้ากำลังค่อยๆเผยให้เห็นมากขึ้น ตั้งแต่การที่ผู้ประกอบธุรกิจชะลอการตัดสินใจลงทุน ไปจนถึงอุปสงค์ภายนอกประเทศที่ลดลงอันเนื่องมาจากภาวะห่วงโซ่อุปทานชะงักงัน
ในอนาคต ความขัดแย้งทางการค้าและความไม่แน่นอนด้านนโยบายอาจฉุดเศรษฐกิจโลกมากยิ่งขึ้น ผ่านอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ลดลง รวมถึงความผันผวนของตลาดการเงิน
อย่างไรก็ดี แม้จะมีปัจจัยความไม่แน่นอนจากภายนอก แต่ PBOC คาดการณ์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจีนจะยังมีเสถียรภาพ โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยเด่นหลายประการ
ทั้งนี้ จีนสามารถรับมือกับความไม่แน่นอนหลากหลายรูปแบบ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายยังสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายต่างๆได้ อีกทั้งยังมีเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย
ขณะที่ เศรษฐกิจจีนช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัว 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด สะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังมีการขยายตัว และโครงสร้างทางเศรษฐกิจดีขึ้น