โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ทึ่ง! “โรงเรียนญี่ปุ่นสุดเจ๋ง” จากโรงเรียนเด็กเกเร สู่มัธยมเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ!

TheHippoThai.com

เผยแพร่ 19 ก.ย 2562 เวลา 01.00 น. • THE HIPPO | Another Point Of View
ทึ่ง! “โรงเรียนญี่ปุ่นสุดเจ๋ง” จากโรงเรียนเด็กเกเร สู่มัธยมเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ!

By BOOM JapanSalaryman

โรงเรียนที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้ มีชื่อว่า “Nishiyamato Gakuen” เป็นโรงเรียนมัธยมที่ตั้งอยู่ในเขต
Kitakatsuragi จังหวัดนารา ประเทศญี่ปุ่น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ โรงเรียนมัธยมแห่งนี้ในอดีตมีนักเรียนเกเรเป็นจำนวนมาก ชอบชกต่อยกัน บางทีหนักถึงขั้น..โยนโต๊ะโยนเก้าอี้ลงมาจากหน้าต่างห้องเรียนเลยครับ นึกภาพแล้วก็รู้สึกหนาว ๆ ยังไงก็ไม่รู้ ถ้าไปเรียนที่นั่นจะทำตัวอย่างไร ผู้ปกครองต้องไม่ Happy แน่ ๆ เลยครับ

ผอ.โรงเรียนเห็นภาพนั้นแล้วคงทนไม่ไหว เลยตั้งอกตั้งใจเปลี่ยน Nishiyamato Gakuen
ให้เป็นโรงเรียนชั้นดี และตอนนี้โรงเรียนแห่งนี้ก็กลายเป็นโรงเรียนที่ถูกหมายตาโดยผู้ปกครองญี่ปุ่นทั้งประเทศ แก่งแย่งแข่งขันกันเพื่อให้ส่งลูกเข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้ให้ได้ แม้ที่ตั้งของโรงเรียนจะไม่ได้ตั้งอยู่ใกล้เมืองหลวงก็ตาม

จากเริ่มแรกที่มีแต่เด็กเกเร 4 ปีต่อมาโรงเรียนแห่งนี้ สามารถส่งลูกศิษย์คนแรกเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียว มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นได้เป็นสำเร็จ
ปีที่ 8 ปั้นเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวได้ถึง 5 คน!
ปีที่ 10 ได้ถึง 10 คน!!
และปีที่ 20 หลังจากการก่อตั้งโรงเรียน (ค.ศ. 2006) สามารถส่งลูกศิษย์เข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวได้มากถึง 27 คนครับ!!!

ตัวเลขนี้คนญี่ปุ่นฟังแล้วต่างร้องว้าว เพราะการจะเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวได้นั้น ถือเป็นความฝันของคุณพ่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่น เป็นงานหินมากสำหรับนักเรียนและโรงเรียน  ต้องเก่งจริงหัวกะทิเท่านั้นถึงจะเข้าได้

ยังไม่หมดแค่นั้น..ปี 2013 โรงเรียน Nishiyamato Gakuen สามารถปั้นนักเรียนจำนวน 111 คนเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวและมหาวิทยาลัยเกียวโตได้สำเร็จ ในบรรดาโรงเรียนชั้นนำ พวกเขามีสถิติเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น

และเมื่อปี 2015 นักเรียนจากโรงเรียนแห่งนี้เข้ามหาวิทยาลัยเกียวโตได้ถึง 81 คน สถิติเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ

จากโรงเรียนที่เต็มไปด้วยเด็กเกเรในอดีต กลายเป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนมากความสามารถ สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศได้เป็นจำนวนมาก ท่านผู้อำนวยการในยุคนั้นเปลี่ยนแปลงโรงเรียนอย่างไร อ่านไปพร้อม ๆ กันครับ

ท่านผู้อำนวยการมีชื่อว่าอาจารย์ Tanose Ryotaro เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้ ท่านเล่าว่านักเรียนที่นี่ ไม่ต้องพึ่งโรงเรียนกวดวิชา แค่มาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ที่เดียวก็สามารถประสบความสำเร็จแบบที่กล่าวมาได้ เพียงแค่ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมสำหรับการเรียนรู้ที่โรงเรียนมอบให้ดังนี้

  • โรงเรียนจัดให้แต่ละห้องมีจำนวนนักเรียนประมาณ 50 คน (โดยปกติแล้วค่าเฉลี่ยจำนวนนักเรียนต่อห้องในประเทศญี่ปุ่นจะอยู่ที่ 36 คน)

อาจารย์ Tanose เล่าว่า สมัยก่อนโรงเรียนกำหนดจำนวนนักเรียนต่อห้องประมาณ 30 คน แต่ในสิ่งแวดล้อมแบบนั้น ทั้งอาจารย์และนักเรียนจะใกล้ชิดกันเกินไป บรรยากาศสบาย ๆ คล้ายอยู่บ้าน (คนญี่ปุ่นใช้คำว่า At Home) ทำให้ผลการเรียนค่อย ๆ แย่ลงไปเรื่อย ๆ

อาจารย์เล่าว่า คนส่วนใหญ่คิดว่าการสอบเข้ามหาลัยคือการสู้กับตัวเอง แต่นั่นคือความคิดที่ผิด เพราะการสอบเข้ามหาลัยคือการสู้แบบหมู่คณะ การเพิ่มจำนวนคนคือการเพิ่มความรู้สึกการแข่งขันให้มีมากขึ้นในหมู่นักเรียน

  • ก่อนเริ่มเรียนวิชา Homeroom อาจารย์จะให้นักเรียนทำ Mini Test คิดเลขเร็วประมาณ 6 นาที ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีต่อนักเรียนมาก ๆ เมื่อมี Mini Test ทุกเช้า นักเรียนกลับบ้านไปก็จะทบทวนบทเรียน เป็นการสร้างนิสัยให้เกิดความเคยชินต่อการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยครับ

นอกจากนี้ทุก ๆ วันอังคารหลังเลิกเรียน จะมีการสอบเพื่อทบทวนบทเรียนที่เรียนไปใน 1 อาทิตย์ด้วย

อาจารย์ Tanose เล่าว่า โรงเรียนทั่วไปจะประเมินผลการเรียนรู้นักเรียนในช่วงกลางภาค หรือปลายภาคเท่านั้น ซึ่งอาจจะช้าเกินไปแล้วในการติดตามประสิทธิภาพการเรียนรู้ของนักเรียนทุกคน การสอบทุก ๆ อาทิตย์จะช่วยให้โรงเรียนรู้ว่า นักเรียนคนไหนตามบทเรียนทัน หรือไม่ทันยังไงล่ะครับ แล้วจึงไป follow up เด็กต่อในลำดับต่อไป

  • วิชาที่ให้ความสำคัญสูงสุดคือ วิชาอ่านหลากหลาย อนุญาตให้เรียนเฉพาะเด็กชั้น ม.2 และ ม.3 เท่านั้น อ่านชื่อวิชาแล้วเพื่อน ๆ คงสงสัยว่าวิชานี้ต้องทำอะไร!?

วิชาอ่านหลากหลายเป็นวิชาที่ให้นักเรียนอ่านหนังสือต่างประเทศให้มากที่สุด โดยให้นักเรียนเข้าไปอยู่ในห้องสมุดที่มีหนังสือภาษาอังกฤษวางเรียงรายประมาณ 5,000 เล่ม นักเรียนสามารถเลือกอ่านได้ตามใจชอบ โดยที่ปกหนังสือจะมีเขียนเอาไว้ว่า “เล่มนี้มีคำศัพท์ xxx คำ”

นักเรียนจะเริ่มต้นจากเล่มที่มีศัพท์ 100 คำก่อน ไม่อนุญาตให้ใช้ดิคชันนารี คำศัพท์ไหนไม่เข้าใจให้ข้ามไปเลย ถ้าไม่สนุกก็เลิกอ่านเล่มนั้นได้ แล้วให้หาเล่มใหม่สนุก ๆ แทน

อาจารย์อธิบายว่า แม้ไม่เข้าใจเนื้อหา แต่อ่านไปเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มเข้าใจเอง คุ้นตากับคำศัพท์มากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากนั้นนักเรียนก็จะได้ฟังซีดี โดยเป็นเนื้อหาเดียวกันกับหนังสือที่ได้อ่าน เพื่อเพิ่มฐานคำศัพท์ในหัวให้มีมากขึ้น

อาจารย์ Tanose บอกว่า ทำแบบนี้ใช้เวลาแค่ 2 ปี มีนักเรียนบางคนสามารถอ่านแฮรี่พอตเตอร์ฉบับภาษาอังกฤษได้ด้วย (จำนวนคำศัพท์มากถึง 77,000 คำ)

ซึ่งนักเรียนที่ได้เรียนวิชานี้ต่างรู้สึกว่า เวลาผ่านไปเริ่มอ่านหนังสือเนื้อหายาก ๆ (ภาษาอังกฤษ) ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ

  • จัดการสอนเป็นภาษาอังกฤษในวิชาเลือก เช่น วิชาพละศึกษา วิชาศิลปะ และวิชาดนตรี

ตอนแรกผู้อำนวยการเคยคิดจะให้การเรียนการสอนทุกวิชาเป็นภาษาอังกฤษ แต่กลัวจะมีผลกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย (ซึ่งต้องใช้ภาษาญี่ปุ่น) จึงใช้ภาษาอังกฤษแค่วิชาเลือก

ที่อยากสอนด้วยภาษาอังกฤษเพราะเล็งเห็นว่า คนญี่ปุ่นฟังพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้  อยากจะช่วยแก้ปัญหานั้น

นอกจากนั้นผู้อำนวยการอยากจะสร้าง Global Leader จึงมีโครงการให้นักเรียน ม.3 ได้ไปโฮมสเตย์ที่เมือง UTAH สหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 10 วัน อยู่ที่นั่นต้องใช้ภาษาอังกฤษ เรียนรู้ที่จะอยู่อาศัยกับครอบครัวชาวต่างประเทศ

ถ้าเขาได้มีประสบการณ์แบบนี้ ในอนาคตอาจารย์ Tanose เชื่อว่าพวกเขาจะออกไปต่างประเทศอีกครั้งอย่างแน่นอน

  • นักเรียนใช้ IPAD ในการเรียน (เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2014) โดยอาจารย์เองก็ใช้ IPAD ในการสอนด้วยเช่นกัน

ผู้อำนวยการเล่าว่า วิธีนี้ช่วยลดเวลาเขียนกระดาน และร่นเวลานั่งทำแบบทดสอบในกระดาษของอาจารย์ได้เยอะเลยทีเดียว เมื่อทำได้แบบนี้ทำให้นักเรียนเรียนรู้ได้ไวขึ้น ลดเวลาอันไม่มีผลต่อการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน

  • บีบเนื้อหาการเรียน ม.1 - ม.6 ให้จบภายในครึ่งปีแรกของชั้น ม.5 เวลาที่เหลือจะใช้เป็นเวลาสำหรับเตรียมสอบ รวม 1 ปีครึ่งด้วยกัน
  • 7. ให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมนอกห้องเรียนด้วย

ผู้อำนวยการบอกว่า ถ้าเอาแต่เรียนอย่างเดียว ความสามารถทางการศึกษาคงไม่พัฒนาขึ้นได้ถึงขนาดนี้ ผมคิดว่าต้องให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมนอกห้องเรียนด้วย  เช่น Farm Stay 2 คืน 3 วัน, สำรวจการออกไข่ของเต่า,  ปีนภูเขาไฟฟูจิ, เยี่ยมกรมศุลกากรสนามบินคันไซ, เข้าใจงานคุณหมอในโรงพยาบาล, โปรแกรมศึกษาต่างประเทศ เช่น เวียดนาม กัมพูชา

รวมทั้งสิ้น Nishiyamato Gakuen มีกิจกรรมนอกห้องเรียนให้เลือกถึง 39 อย่างด้วยกันครับ

แต่กิจกรรมที่ฮอตฮิตที่สุดในปัจจุบันคือ Summer Camp มหาวิทยาลัยโตเกียว ซึ่งนักเรียนจะมีโอกาสได้ทำกิจกรรมร่วมกับนักเรียนปัจจุบันของมหาวิทยาลัยโตเกียว หรือรุ่นพี่ที่จบไปแล้วเปิดกิจการของตัวเองอยู่  เป็นการเติมไฟให้นักเรียนอยากเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้มากขึ้นด้วย

กิจกรรมนี้ดีมากถึงขนาดทำให้นักเรียนบางคนเจอฝันของตัวเองด้วย

  • ความตั้งใจของคุณครู

ช่วงเวลาหลังเลิกเรียนตั้งแต่ 4 โมงถึง 6 โมงครึ่ง เป็นช่วงเวลาที่จัดไว้ให้นักเรียนปรึกษาคุณครู โรงเรียนจะจัดสถานที่ไว้ให้โดยเฉพาะ นักเรียนคนไหนสนใจปรึกษาคุณครู สามารถแวะเข้ามาปรึกษาได้

หลังจากเวลานั้นคุณครูก็จะโทรศัพท์หาผู้ปกครองเพื่อสื่อสารความคืบหน้าของเด็ก ๆ ให้ทราบ กระชับความสัมพันธ์ เพื่อความเชื่อใจเชื่อมั่นให้ผู้ปกครอง

  • 9. กำหนดตำแหน่งให้คุณครูหลากหลายมากกว่า 30 ตำแหน่ง

โดยปกติแล้วโรงเรียนในญี่ปุ่นจะไม่ค่อยมีตำแหน่งให้บรรจุ อย่างมากก็ตำแหน่งผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ ครูประจำชั้น แต่ที่โรงเรียนนี้สร้างตำแหน่งขึ้นมาหลากหลาย เช่น ครูผู้รับผิดชอบการเลื่อนชั้นของนักเรียน, หัวหน้าแผนกการศึกษานานาชาติ, ครูผู้รับผิดชอบพัฒนาสื่อการสอน เป็นต้น คุณครูที่ได้รับแต่งตั้งจะรู้สึกถึง ความรับผิดชอบ และโรงเรียนก็ยังมีเงินพิเศษให้กับตำแหน่งเหล่านั้นอีกด้วย

ด้วย 9 ข้อนี้ทำให้โรงเรียน Nishiyamato Gakuen เติบโตอย่างก้าวกระโดดกลายเป็นโรงเรียนชั้นนำของประเทศ ส่งนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำในญี่ปุ่นได้มากมาย ปั้นเด็กให้เป็นเลิศทั้งวิชาการ และมีทักษะที่สำคัญในการดำรงชีวิต

อ่านแล้วรู้สึกถึงความตั้งใจของท่านผู้อำนวยการ ที่อยากให้เด็กทุกคนในโรงเรียนของเขาเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคม น่าชื่นชมเป็นแบบอย่างนะครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ได้ฉุกคิดอะไรบางอย่าง และสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่ทำงานเกี่ยวกับวงการการศึกษาไทยนะครับ

ภัทรพล เหลือบุญชู
(Boom JapanSalaryman)
ผู้เขียนหนังสือ JapanSalaryman:เป็นได้มากกว่ามนุษย์เงินเดือน

Source :
1.http://johotrend.com/3410.html
2.https://book.mynavi.jp/macfan/detail_summary/id=65011

  1. https://ja.m.wikipedia.org/wiki/西大和学園中学校・高等学校

Photo : 1. https://book.mynavi.jp/files/user/img/brand/macfan/article/2017/03/7c421e28a398abeabb7db7b4546d5194.jpg

หน้าเว็บไซต์ของโรงเรียนจะเห็นเป็นกิจกรรมต่าง ๆ โดยคร่าวของเด็ก ๆ

2.https://book.mynavi.jp/files/user/img/brand/macfan/article/2017/03/20f15fc3d56013c985b024d58898cd17.jpg

บรรยากาศนักเรียนใช้ ipad เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้ในห้องเรียน

3.https://openmatome.net/matome/upload/201608/7471470158179657.jpg

บรรยากาศวิชาอ่านหลากหลายสำหรับนักเรียนชั้น ม.2 และ ม.3 เท่านั้น

4.https://openmatome.net/matome/upload/201608/8451470158399728.jpg

จะมีการระบุจำนวนคำศัพท์ไว้ที่หน้าปกเพื่อให้นักเรียนรู้ว่า ในเล่มนั้น ๆ มีคลังคำศัพท์กี่คำ

5.http://www.kankakuyamato.com/blog/20170429.html

ผู้ก่อตั้งโรงเรียน ท่านอาจารย์ Tanose Ryotaro

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0