โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ทำเงินให้เหมือนปุ๋ยแบบ TATA GROUP

ลงทุนแมน

อัพเดต 18 ก.ย 2562 เวลา 07.52 น. • เผยแพร่ 19 ก.ย 2562 เวลา 03.10 น. • ลงทุนแมน

ทำเงินให้เหมือนปุ๋ยแบบ TATA GROUP / โดย ลงทุนแมน

“เงินมันก็เหมือนปุ๋ย
มันจะเหม็นถ้าถูกกองอยู่เฉยๆ
แต่มันจะเติบโต ถ้าเรากระจายมันออกไป..”

ประโยคนี้เป็นคำพูดของคุณ J.R.D. Tata นักธุรกิจชาวอินเดีย
ซึ่งเป็นอดีตประธานบริษัท Tata Group

ปัจจุบัน Tata Group มีมูลค่าบริษัทในเครือ เฉพาะที่จดอยู่ในตลาดหลักทรัพย์
รวมกันกว่า 5 ล้านล้านบาท คิดเป็นกว่า 1 ใน 3 ของ GDP ประเทศไทย

แล้ว Tata Group ทำธุรกิจอะไรบ้าง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

เรื่องราวของอาณาจักร Tata
ต้องย้อนกลับไปกว่า 151 ปีก่อน..

คุณ Jamsetji Tata ในวัย 29 ปี เริ่มต่อยอดธุรกิจครอบครัว
โดยได้ซื้อกิจการน้ำมันที่ล้มละลาย และเปลี่ยนมันเป็นโรงงานทอผ้า

หลังจากนั้น เขาใฝ่ฝันที่จะทำ 4 ธุรกิจ นั่นคือ

ธุรกิจโรงแรม
ธุรกิจโรงงานเหล็ก
สถาบันการศึกษา
และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ

ในช่วงบั้นปลายของชีวิต คุณ Jamsetji Tata สามารถก่อตั้งโรงแรม Taj Mahal ได้สำเร็จ และโรงแรมนี้ถือเป็นโรงแรมแห่งแรกที่มีระบบไฟฟ้าในประเทศอินเดีย

สำหรับทายาทรุ่นที่ 2 คุณ Dorabji Tata ได้เริ่มธุรกิจ Tata Iron and Steel หรือ Tata Steel ซึ่งยังทำธุรกิจมาถึงปัจจุบัน และเป็นโรงงานเหล็กที่ใหญ่เป็นอันดับ 12 ของโลก..

นอกจากนั้น คุณ Dorabji Tata ยังสานต่อความฝันของพ่อโดยการสร้างบริษัท Tata Power ซึ่งเป็นโรงงานไฟฟ้าพลังงานน้ำ และสถาบันการศึกษาภาควิชาวิทยาศาสตร์ได้สำเร็จ..

สำหรับยุคต่อมา หรือยุคที่ 3 ของ Tata Group นำโดยคุณ J.R.D. Tata ซึ่งถือเป็นบุคคลที่ทำให้ Tata Group โตระเบิด..

คุณ J.R.D. Tata สามารถเพิ่มมูลค่าของธุรกิจในเครือ Tata Group ได้เป็นร้อยเท่า
จากการขยายธุรกิจในเครือจาก 14 บริษัท ไปเป็นกว่า 95 บริษัท
ทั้งในรูปแบบการก่อตั้งเอง และการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทอื่น

ไม่ว่าจะเป็น การก่อตั้งธุรกิจการบิน Tata Airline
ซึ่งเป็นสายการบินพาณิชย์แห่งแรกในประเทศอินเดีย

นอกจากนี้คุณ J.R.D. Tata ยังก่อตั้งบริษัท Tata Motors ธุรกิจผลิตยานยนต์ที่ร่วมลงทุนกับบริษัทยานยนต์ระดับโลกหลายแห่ง เช่น Daimler-Benz AG และ Fiat Chrysler

ปัจจุบัน Tata Motors นอกจากจะมีแบรนด์รถยนต์ภายใต้ยี่ห้อ Tata แล้ว
ยังเป็นเจ้าของแบรนด์ Jaguar และ Land Rovers จากการเข้าซื้อกิจการ Jaguar Land Rover แบรนด์รถหรูสัญชาติอังกฤษ

มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจคิดว่าธุรกิจโรงงานเหล็ก, ยานยนต์ และพลังงานทำให้ Tata Group กลายมาเป็นเครือบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย

แต่เรื่องจริงไม่ใช่แบบนั้น เพราะบริษัทที่มีมูลค่ามากสุดในเครือ Tata Group
กลับเป็น Tata Consultancy Services ซึ่งทำธุรกิจที่ปรึกษา..

แล้ว Tata Consultancy Services เป็นที่ปรึกษาอะไร?

ตามที่หลายคนอาจรู้ว่าประเทศอินเดียเป็นแหล่ง Outsource ด้านไอทีของกิจการข้ามชาติมากมาย

บริษัทแห่งนี้ให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาทางธุรกิจระดับองค์กร และมีกลุ่มลูกค้าอยู่ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก เช่น General Motors, Vodafone, WalMart, JP Morgan, Nokia, Apple, Microsoft

เรามาดูผลประกอบการของบริษัท Tata Consultancy Services

ปี 2016 รายได้ 5.06 แสนล้านบาท กำไร 1.13 แสนล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 5.28 แสนล้านบาท กำไร 1.11 แสนล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 6.28 แสนล้านบาท กำไร 1.35 แสนล้านบาท

โดยรายได้ทุกๆ 100 บาทของบริษัทมาจากการให้คำปรึกษาธุรกิจกลุ่ม

ธนาคารและประกัน 40 บาท
ค้าปลีก 17 บาท
เทคโนโลยี 16 บาท
อุตสาหกรรม 11 บาท
และอื่นๆ อีก 16 บาท

บริษัท Tata Consultancy Services ทำธุรกิจอยู่ใน 45 ประเทศ มีพนักงานมากถึง 436,641 คน

ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 3.6 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย และเมื่อรวมกับบริษัทในเครือ Tata Group ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ จะทำให้อาณาจักร Tata Group มีมูลค่าบริษัทรวมกันกว่า 5 ล้านล้านบาท..

นอกจากนี้ Tata Group ยังมีกลุ่มธุรกิจที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก เช่น

ธุรกิจกลุ่มประกัน, เครื่องดื่ม, ก่อสร้าง, เทเลคอม, สตาร์บักส์ประเทศอินเดีย, กาแฟสำเร็จรูปทาทา, ศูนย์การแพทย์, สถาบันการศึกษาวิจัย, โรงพยาบาล, สโมสรฟุตบอล, อีคอมเมิร์ซ และอีกมากมาย..

ก็ไม่น่าเชื่อว่า จากจุดเริ่มต้นของการต่อยอดธุรกิจครอบครัวของคุณ Jamsetji Tata จะกลายมาเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้

การทำเงินให้เหมือนปุ๋ยของ Tata Group คือการกระจายเงินให้ไปเติบโตตามที่ต่างๆ

เรื่องนี้ไม่ต่างอะไรจาก การกระจายปุ๋ยของซีพี ไปยัง เซเว่นอีเลฟเว่น และทรู
หรือการกระจายปุ๋ยของไทยเบฟ ไปยัง ธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอสังหาริมทรัพย์

เราไม่มีวันรู้หรอก ว่าที่ไหนจะเติบโตได้ดี
แต่เมื่อจุดไหนขยายตัวได้ ก็ปล่อยให้มันเติบโตเต็มที่
สุดท้ายแล้วมันก็อาจจะใหญ่กว่าธุรกิจเดิม เหมือนกรณีของ Tata Group

ต่อไปเวลาเราได้ยิน Tata จากอินเดีย
ถ้าเรานึกถึงเรื่องเหล็ก เรื่องรถยนต์ ให้เปลี่ยนความคิดใหม่
เพราะจริงๆ แล้ว Tata ในตอนนี้ได้กลายเป็นบริษัทไอทีไปแล้ว นั่นเอง..
———————-
Blockdit โซเชียลมีเดียรูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
———————-

References
-https://www.quora.com/Who-are-the-clients-of-TCS
-https://www.tcs.com/#type=search&start=1&filter=All&q=client
-https://www.tcs.com/content/dam/tcs/investor-relations/financial-statements/2018-19/ar/annual-report-2018-2019.pdf
-https://www.statista.com/chart/19091/tata-group-market-caps/
-https://www.tata.com/

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0