สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ รายงานว่าเมื่อเช้าวันเสาร์นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ สังเกตการณ์การทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องยิงขีปนาวุธนำวิถีแบบหลายลำกล้องรุ่นใหม่และมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งผลการทดสอบยิงขีปนาวุธ 2 ลูกประสบความสำเร็จและสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้นำเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม นายคิมได้มอบนโยบายให้มีการเร่งพัฒนาอาวุธและระบบที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันตนเองจากภัยคุกคามทางทหารจากศัตรู
ทั้งนี้ นับเป็นการทดสอบครั้งที่ 7 แล้วนับตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม ที่เกาหลีเหนือทดสอบประสิทธิภาพของระบบยิงขีปนาวุธแบบใหม่
ด้านทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจะเดินหน้าปรับปรุงความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือตามหลักการทางการทูตต่อไป เพื่อโน้มน้าวให้กลับมาร่วมเจรจาอีกครั้ง พร้อมสานต่อการพบหารือระดับทวิภาคีระหว่างนายคิมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
ขณะเดียวกันกองทัพเกาหลีใต้ เริ่มการซ้อมรบเป็นเวลา 2 วันในพื้นที่ซึ่งมีข้อพิพาทกับญี่ปุ่น ทำให้ทางการญี่ปุ่นยื่นประท้วง เนื่องจากเป็นการซ้อมรบที่มีขึ้นหลังจากที่เกาหลีใต้แจ้งยกเลิกการแบ่งปันข่าวกรองทางทหารกับญี่ปุ่น
สำหรับการซ้อมที่เกาะด็อคโดตามชื่อเรียกของเกาหลีใต้ แต่ญี่ปุ่นเรียกว่าเกาะทาเกชิมะ ทางกองทัพเกาหลีใต้ระบุว่าเป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดเพราะใช้กำลังจากทั้ง 3 เหล่าทัพร่วมด้วยนาวิกโยธิน และเรือพิฆาตติดตั้งระบบเอจิส ทำให้กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น เรียกร้องให้ยุติการซ้อมรบ
ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศว่า ประธานาธิบดีมุน แจ อิน แห่งเกาหลีใต้ จะเดินทางเยือนประเทศไทย, เมียนมา และลาว เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเกาหลีใต้กับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในวันที่ 1 กันยายน จะเดินทางเยือนประเทศไทยเป็นประเทศแรก เพื่อหารืออย่างเป็นทางการกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับความร่วมมือที่สำคัญระหว่างสองประเทศ และขอให้ไทย ซึ่งเป็นประธานอาเซียน ให้การสนับสนุนการจัดประชุมวาระพิเศษระหว่างผู้นำเกาหลีใต้และชาติอาเซียน ที่กำลังจะมีขึ้นที่เมืองปูซาน ระหว่างวันที่ 25-26 พฤศจิกายนนี้
จากนั้นในวันที่ 3 กันยายน ประธานาธิบดีมุน จะเดินทางเยือนเมียนมา เพื่อหารือกับนางออง ซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐของเมียนมา และประธานาธิบดีวิน มินต์ แห่งเมียนมา เกี่ยวกับการสนับสนุนธุรกิจของบริษัทเกาหลีใต้ในเมียนมา
วันที่ 5 กันยายน ประธานาธิบดีมุน จะเดินทางไปยังสปป.ลาว เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีบุนยัง วอละจิด และนายกรัฐมนตรีทองลุน สีสุลิด เกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำและความร่วมมือในการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวลาว
ด้านสถานการณ์ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง การชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นโดยตลอดทั้ง 3 วัน
ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินประกาศระงับการให้บริการในบางเส้นทางเพื่อป้องกันการชุมนุมภายในสถานี แต่ที่บริเวณด้านหน้าของสถานีก็ยังพบการชุมนุมในหลายจุด นอกจากนี้ยังมีการทำลายทรัพย์สินสาธารณะและกีดขวางการจราจร ส่วนที่ย่านอุตสาหกรรมควันตงทางตะวันออกของฝั่งเกาลูน มีการใช้ระเบิดขวดขว้างปาใส่ตำรวจ
เฉพาะเมื่อวันเสาร์มีผู้ประท้วงถูกจับกุมตัว 29 คนโดยเป็นชาย 19 คนและหญิง 10 คน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้ประท้วงถูกจับกุมแล้วกว่า 700 ราย
การประท้วงที่เริ่มต้นในเดือนมิถุนายนจากการต่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ขณะนี้ถูกระงับไปแล้ว กลายมาเป็นการเรียกร้องประชาธิปไตย ขณะที่ผู้ประท้วงไม่มีท่าทีว่าจะยอมรับการเจรจา ทำให้ฮ่องกงเผชิญวิกฤตการเมืองรุนแรงที่สุดนับจากที่สหราชอาณาจักรส่งคืนให้กลับไปอยู่ในการปกครองของจีนในปี 2540 ขณะที่กำลังจะมีพิธีรำลึกครบรอบ 70 ปีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
ที่ประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือจี7 มีการหารือเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก และความไม่แน่นอนของเบร็กซิต นอกจากนี้ ผู้นำจี7 ยังมีการหารือเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมและปัญหาในทวีปแอฟริกาด้วย
…
