ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันพฤหัสบดี 9 เมษายน 2563
พฤติกรรมมนุษย์ยิ่งทำให้ โควิด-19 ระบาดหนัก
นักวิจัยจากสหรัฐฯ นำเสนอรายงานการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings ของ Royal Society B ที่ระบุว่า โรคต่าง ๆ เช่นการระบาดของโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกอาจกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ที่ทำลายที่อยู่อาศัยและบังคับให้สัตว์ป่าที่เป็นพาหะนำโรคเข้ามาอยู่ใกล้กับมนุษย์มากขึ้น โดยการบุกรุกพื้นที่ป่า และวิถีชีวิตในเมือง ล้วนนำไปสู่การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา เมื่อมีการทำลายล้างสัตว์ป่าและความอุดมสมบูรณ์
นางคริสติน จอห์นสัน จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า เชื้อโรคในมนุษย์ประมาณร้อยละ 70 เป็นโรคจากสัตว์สู่คน (zoonotic) เช่นเดียวกับ โควิด-19 โดยมีไวรัสมากกว่า 140 ชนิดเป็นที่รู้จักกันว่าถูกถ่ายทอดจากสัตว์สู่มนุษย์ ทั้งสัตว์เลี้ยง, สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, ค้างคาวและหนูที่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสชนิดออกฤทธิ์มากที่สุด คือประมาณร้อยละ 75 โดยมีความชุกของโรคสัตว์ในสัตว์เพิ่มมากขึ้น ในพื้นที่การเกษตรที่บุกรุกพื้นที่ป่า
เกาหลีใต้เตรียมระงับฟรีวีซ่า –วีซ่า เข้าประเทศชั่วคราว รวมถึงไทยด้วย
นายกรัฐมนตรีชุง เซคยุน แห่งเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า จะยกเลิกฟรีวีซ่า (visa-free entry) และการยกเว้นการขอวีซ่า (visa waiver program) เป็นการชั่วคราว โดยจะมีผลบังคับใช้กับประเทศที่ห้ามพลเมืองเกาหลีใต้เข้าประเทศ เพื่อป้องกันผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มาจากต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เกาหลีใต้ยังคงเปิดประเทศ แต่จะเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นในการเดินทางเข้าประเทศ โดยเฉพาะการเดินทางแบบที่ไม่มีความจำเป็น
มี 148 ประเทศ รวมถึงยุโรป 41 ประเทศ และเอเชียแปซิฟิก 36 ประเทศ ที่มีคำสั่งห้ามชาวเกาหลีใต้เดินทางเข้าประเทศ ส่วนมาตรการวีซ่าของเกาหลีใต้จะมีผลบังคับใช้กับ 88 ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา รัสเซีย และไทย
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมสหรัฐฯ พุ่งขึ้นกว่า 400,000 คน เสียชีวิตสะสม อันดับ 3 ของโลก
มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากถึง 424,945 คนแล้ว และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 14,524 ราย หลังจากที่ทำสถิติมีผู้เสียชีวิตมากถึง 1,939 ราย ในรอบ 1 วัน โดยรัฐที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด คือ รัฐนิวยอร์ก 142,384 คน ตามมาด้วยรัฐนิวเจอร์ซีย์ มิชิแกน แคลิฟอร์เนีย และรัฐลุยเซียนา
นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ยังสูงกว่าจีนเกือบ 5 เท่า โดยจีนถือเป็นประเทศแรกที่พบผู้ติดเชื้อเมื่อปลายปีที่แล้ว และมีผู้ติดเชื้อสะสมจนถึงขณะนี้ 82,209 คน เสียชีวิต 3,337 ราย
สำหรับประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคืออิตาลี 17,669 ราย จากที่มีผู้ติดเชื้อสะสม 139,422 คน อันดับ 2 ยังคงเป็นสเปน เสียชีวิต14,792 ราย จากผู้ติดเชื้อ 148,220 คน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ วิจารณ์การทำงานขององค์การอนามัยโลกว่าให้ข้อแนะนำที่แย่ๆออกมาให้ทั่วโลกทำตาม โดยเฉพาะคำแนะนำที่ว่าไม่ควรปิดพรมแดน จนทำให้เชื้อไวรัสนี้แพร่กระจาย ที่เขาเห็นว่าเป็นนโยบายที่เข้าข้างจีนมากเกินไปทั้งที่รับเงินสนับสนุนสหรัฐฯ ดังนั้นเขาจึงจะพิจารณาตัดลดเงินงบประมาณสนับสนุนองค์การอนามัยโลก
ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก วอน ผู้นำโลกเลิกเล่นการเมือง ในภาวะวิกฤตโควิด-19
เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุเมื่อวันพุธ(8เม.ย.) เรียกร้องเหล่าผู้นำโลกหยุดเล่นการเมืองท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) หลังองค์การอนามัยโลก ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ยังขอให้สหรัฐฯและจีน รวมพลังกันในการต่อสู้กับโรคร้าย แทนที่จะมัวมาหมกมุ่นอยู่กับการกล่าวโทษกันไปมา
เสียงตอบโต้ของนายเทดรอส มีขึ้นหลังจากนายทรัมป์วิจารณ์หน่วยงานด้านสาธารณสุขของสหประชาชาติแห่งนี้ โดยกล่าวหาว่ารับเงินจากสหรัฐฯแต่ฝักใฝ่จีน ดินแดนซึ่งโควิด-19 อุบัติขึ้นในเดือนธันวาคม
ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ย้ำว่า ประเด็นหลักที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญก็คือการปกป้องชีวิตผู้คน กรุณาอย่าเอาไวรัสมาเล่นการเมือง ถ้าคุณต้องการเห็นถุงบรรจุศพอีกมากมาย ก็เอาเลย ถ้าคุณไม่ต้องการเห็นถุงบรรจุศพมากมาย คุณควรอดกลั้นจากการเล่นเกมทางการเมือง กักกันโรคหรือเกมการเมืองโควิด-19 เราไม่ควรเสียเวลาชี้นิ้วเลือก มันเหมือนเล่นกับไฟ เราจะมีถุงศพมากมายกองอยู่ตรงหน้าหากเราไม่เลิกทำตัวแบบนี้ ยามใดที่มีความแตกร้าวทั้งในระดับชาติและระดับโลก เมื่อนั้นไวรัสก็จะบรรลุเป้าหมาย ให้ตายเถอะ เราสูญเสียประชากรโลกไปแล้วกว่า 60,000 คน แล้วเรามัวทำอะไรกันอยู่? มันยังไม่เพียงพอใช่หรือไม่?
นายเทดรอส กล่าวขอบคุณสหรัฐฯ สำหรับการสนับสนุนและความเอื้อเฟื้อจนกระทั่งตอนนี้ พร้อมแสดงความคาดหวังว่าสหรัฐฯจะยังคงส่วนแบ่งเงินอุดหนุนองค์การอนามัยโลกต่อไปตามเดิม ซึ่งสถานการณ์ของโควิด-19 จะเลวร้ายหากว่าประเทศต่างๆไม่เป็นอันหนึ่งเดียวกัน ในการยืนหยัดต่อสู้กับการแพร่ระบาด "จงช่วยกันสู้สุดตัวเพื่อเอาชนะและควบคุมไวรัสนี้ มันอันตรายจริงๆ มิเช่นนั้น จากแนวทางที่เรากำลังเป็นอยู่นี้ ผมคิดว่าเราคงจะต้องเสียใจ”
ราคาน้ำมันโลก-ตลาดหุ้นฟื้นตัว
ราคาน้ำมันฟื้นแรงในวันพุธ(8เม.ย.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.46 ดอลลาร์ ปิดที่ 25.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 97 เซนต์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 32.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯเผยแพร่รายงานในวันพุธ(8เม.ย.) ระบุว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบภายในประเทศ ลดลง 600,000 บาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากระดับเกือบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 12.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 เมษายน สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 11 สัปดาห์ติดต่อกัน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกแข็งแกร่งในวันพุธ(8เม.ย.) ดาวโจนส์พุ่งกว่า 700 จุด นักลงทุนขานรับข้อมูลการรับมือ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในรัฐนิวยอร์คและอีกหลายรัฐในสหรัฐฯ ที่เริ่มชะลอตัวแล้ว ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 779.71 จุด ปิดที่ 23,433.57 จุด
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(8เม.ย.) ซื้อขายผันผวนก่อนปิดบวกในกรอบแคบๆ หลังรายงานการประชุม(minutes) ของเฟด ณ การประชุมวันที่ 3 มีนาคมและ 15 มีนาคม เผยให้เห็นว่าในการมองโลกในแง่ร้ายที่สุดของเจ้าหน้าที่เฟด ที่ประเมินว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯจะไม่ฟื้นตัวจนกระทั่งปีหน้า ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ 1,684.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อาการป่วยนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ดีขึ้น
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร อาการดีขึ้นเรื่อยๆ สามารถลุกขึ้นนั่งบนเตียงและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่และแพทย์ได้แล้ว นายจอห์นสัน ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเมื่อคืนวันอาทิตย์ (5 เม.ย.) หลังยังมีอาการเรื้อรังจากการติดเชื้อโควิด-19 นานกว่า 10 วัน นับตั้งแต่ทราบผลว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เมื่อวันที่ 26 มี.ค.รวมถึงยังมีไข้สูงและไอ ก่อนที่ในวันจันทร์(6เม.ย.) อาการของเขาทรุดลงและถูกย้ายเข้าห้องไอซียู โดยแพทย์ต้องใช้ออกซิเจนแต่ยังไม่ถึงขั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมของสหราชอาณาจักรในวันพุธ(8เม.ย.) อยู่ที่ 61,747 คน ส่วนผู้เสียชีวิตรายวันแตะระดับ 952 ราย สูงสุดนับตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาดเข้ามาในประเทศแห่งนี้ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 7,711 ราย
