วันนี้ ( 14 พ.ย.61 ) เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.โกสละ งามผ่อง สว.สอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณะภัยเมืองพัทยา ร่วมตรวจสอบชาวต่างชาติที่แขวนคอเสียชีวิต
โดยที่ลำคอของผู้เสียชีวิตถูกผูกโยงด้วยเชือกไนล่อนสีแดงที่รัดกับหัวจ่ายดับเพลิงจากดาดฟ้าบนชั้นที่ 31 ของอาคาร ขณะที่ร่างผู้เสียชีวิตห้อยแขวนอยู่ริมผนังของอาคาร ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมองเห็นไปทั่วบริเวณสร้างความหวาดเสียวเป็นอย่างมาก
เหตุเกิดที่ ซ.เลียบชายหาดพัทยา 5 ม.9 ต.หนอง ปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากการนำกำลังขึ้นไปตรวจสอบบนที่เกิดเหตุพบว่าบริเวณชั้นดาดฟ้าของอาคาร พบอุปกรณ์หลายอย่าง อาทิ อุปกรณ์จำพวกมีด คัตเตอร์ตัดสติ๊กเกอร์ ไฟฉาย รวมทั้งเขียงไม้ 2 อันที่ถูกติดตั้งด้วยท่อเหล็กขนาดความยาวประมาณ 1 เมตร ลักษณะคล้ายถูกดัดแปลงเพื่อทำเป็นอาวุธปืนจำลองโดยมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังพบจดหมายเขียนข้อความภาษานอร์เวย์ทิ้งวางไว้ 1 ฉบับ ทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนที่ตัวศพพบว่าถูกโยงจากเชือกตัวห้อยอยู่ริมผนังอาคารห้อยต่ำจากดาดฟ้าลงไปประมาณ 3-4 เมตร ทำให้การนำร่างขึ้นมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงประสานเจ้าหน้าที่จากหน่วยบรรเทาสาธารณะภัยเมืองพัทยา มาทำการโดยตัวลงไปใช้เชือกรัดที่ตัวศพก่อนนำขึ้นมาด้านบนได้ โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชม.เนื่องจากการทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ทั้งนี้ พบสภาพศพสวมเพียงกางเกงขาสั้นที่ลำคอถูกรัดจนแน่น ใบหน้าปูด บวมมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนทั่วลำตัว นอกจากนั้นบริเวณใต้คางมีรอยถูกกระสุนยิงเข้าทะลุศีรษะ จึงประสานเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการเวรและแพทย์มาตรวจสอบสภาพศพอีกครั้ง
ตรวจสอบพบว่าผู้ตายคือ Mr.Max Holden สัญชาตินอร์เวย์ อายุ 69 ปี ซึ่งพักอยู่ที่ห้องพักบนชั้นที่ 23 ของอาคาร โดยผู้ตายมาเช่าพักอยู่ได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ขณะที่การก่อเหตุดังกล่าวคาดว่าผู้ตายอาจมีปัญหาส่วนตัวบางอย่างจึงปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าของอาคาร ก่อนเขียนจดหมายลาตายและก่อเหตุขึ้น
โดยสันนิษฐานว่าอาจมีการนำแท่งเหล็กมายึดติดกับเขียงไม้ขนาดใหญ่เพื่อประกอบเป็นอาวุธบางอย่างจ่อยิงตัวเองที่ริมระเบียงจนทำให้ร่างตกลงมาที่ผนังตึกซึ่งที่ลำคอผูกรัดไว้ด้วยเชือกอย่างแน่นหนาห้อยอยู่เป็นเวลานาน ทำให้มีเลือดไหลออกจากร่างเป็นจำนวนมากทั้งบริเวณดาดฟ้า และผนังอาคาร
ซึ่งกรณีดังกล่าวจะได้ให้เจ้าหน้าที่มาพิสูจน์ทราบอีกครั้ง ขณะที่ศพผู้เสียชีวิตจะได้นำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อชันสูจน์ รวมทั้งการสืบหาข้อมูลถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนอีกครั้ง