กรรมการและผู้จัดการ ตลท. แสดงความมั่นใจปัจจัยลบในประเทศปีนี้หมดลงแล้ว หลังมีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น เชื่อครึ่งปีหลังปัจจัยลบกับเศรษฐกิจไทยจะมาจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก
นายภากร ปิตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้มีความชัดเจน และมีความมั่นคงมากขึ้นแล้ว หลังจากผ่านพ้นการเลือกตั้ง และมีการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาใหม่เป็นที่เรียบร้อย ถึงแม้ว่าหน้าตาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่ถูกยืนยันออกมาก็ตาม
ปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงยังส่งผลดีกับเศรษฐกิจภายในประเทศไทยอีกด้วย และเชื่อว่าโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆในประเทศจะได้รับการพัฒนาจากรัฐบาลชุดใหม่อีกหลายโครงการ ทำให้ภาคธุรกิจจะเกิดการแข่งขันกันมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติได้เป็นอย่างดี
ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังนั้น อาจต้องจับตามองไปที่ปัจจัยต่างประเทศเป็นสำคัญ เพราะเชื่อว่าปัจจับภายในประเทศ เช่นเรื่องการเมืองหรือเรื่องต่างๆ ไม่น่าจะมีสถานการณ์ใดเป็นปัจจัยเชิงลบกับเศรษฐกิจไทยแล้ว แต่ปัจจัยนอกประเทศเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมและคาดเดาได้ เช่นภาวะสงครามการค้าของสหรัฐฯและจีน เชื่อว่าสงครามการค้า และภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจต่างประเทศ จะเป็นอุปสรรคที่สำคัญกับบริษัทจดทะเบียนไทยในช่วงครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตามช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นว่าเริ่มมีเงินทุนจากต่างชาติไหลกลับเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นแล้ว หลังทิศทางการเมืองไทยเริ่มมีความชัดเจน ซึ่งต่อจากนี้บริษัทจดทะเบียนต้องใช้ความสามารถในการทำกำไรกันอย่างเต็มที่แล้ว เพราะเชื่อว่าปัญหาภายในประเทศของปี 62 ได้จบลงแล้ว
ส่วนสถานการณ์ความกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายนั้น ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีท่าทีเช่นไร แต่โดยปกติแล้วการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย มีเป้าหมายหลักคือต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ
ดังนั้น การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจึงไม่ใช่ข่าวดี หรือข่าวร้ายไปเสียทั้งหมด เนื่องจากจะมีกลุ่มธุรกิจบางประเภทที่ได้รับประโยชน์ และเสียประโยชน์ ดังนั้นนักลงทุนต้องติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดกันอย่างต่อเนื่อง