ตำรวจ แจ้ง 3 ข้อหา ประเด็นรถหรู หนิง ปณิตา ยันไม่ใช่การเอาคืน พร้อมเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม แต่ขอตรวจสอบรายละเอียดตัวรถหรูให้ชัดเจนอีกครั้ง…
จากกรณี หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ ดารานักแสดงชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความในอินสตาแกรมส่วนตัว ในเชิงวิจารณ์การทำงานของตำรวจราจร ว่ามีการถ่วงเวลาคล้ายจะเรียกรับผลประโยชน์ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้ว
ล่าสุด พ.ต.ท.พันษา อมรราพิทักษ์ รองผู้กำกับจราจร สน.วิภาวดี ได้ชี้แจงว่า เหตุการณ์นี้ ตำรวจยศสิบตำรวจโท ได้เรียกหนิง ปณิตา หยุดรถ หลังขับรถทับเส้นทึบ บนถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนที่จะมีการแจ้งข้อหาพร้อมกับดำเนินการเขียนใบสั่ง แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่นายดังกล่าวไม่รู้จักยี่ห้อรถยนต์ มาเซราติ คันดังกล่าว จึงได้มีการตรวจสอบตัวรถ และสอบถามดาราสาว เนื่องจากเกรงว่าจะกรอกข้อมูลในใบสั่งผิดพลาด เพราะจากการตรวจสอบเบื้องต้น รถยนต์คันดังกล่าวไม่ติดแผ่นป้ายวงกลมภาษีขนส่งทางบก และผู้ขับขี่ไม่พกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ แต่ต่อมาเมื่อทำการตรวจสอบในฐานข้อมูลพบว่า แผ่นป้ายทะเบียนรถที่ดำเนินการออกใบสั่งเป็นรถยนต์ยี่ห้อ BMW ที่ขาดต่อภาษีขนส่งทางบกเมื่อปีที่แล้ว ส่วนใบอนุญาตขับขี่ของดาราสาว ตามฐานข้อมูลพบว่ามีการขาดต่ออายุไปเมื่อปี 2557 ซึ่งยังคงต้องรอการยืนยันจากกรมขนส่งอีกครั้งว่าข้อมูลในฐานระบบตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่
ขณะที่ในขั้นตอนต่อจากนี้ จะมีการตรวจสอบตัวรถหรู ที่ดาราสาวใช้ในวันเกิดเหตุ ว่ามีการผ่านขั้นตอนทางศุลกากร และมีการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกหรือไม่ ส่วนการเรียกตรวจสอบรถคันดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุจพินิจของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ซึ่งการตรวจสอบต่อจากนี้จะต้องตรวจสอบให้หลายประเด็น ทั้งตัวทะเบียนของรถยนต์ที่นำมาสวมใส่ว่ามีการต่อภาษีแล้วหรือไม่ เพราะเป็นไปได้เช่นกันว่าอาจมีการต่อภาษีแล้ว และนำแผ่นป้ายภาษีอันเก่า มาใช้กับรถ มาเซราติ เพราะจะมีผลในการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม เนื่องจาก หากรถหรูคันดังกล่าวไม่ผ่านขั้นตอนทางศุลกากรหรือไม่ผ่านการจดทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบก ก็จะมีโทษหนักแต่หากรถคันดังกล่าวผ่านขั้นตอนศุลกากรและผ่านการจดทะเบียนแล้ว แต่อยู่ระหว่างรอการดำเนินการ และนำป้ายทะเบียนรถคันอื่นที่ตนเป็นเจ้าของมาติดโทษก็จะเบากว่ามาก ซึ่งยังต้องรอการตรวจสอบอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามมีการแจ้งไปแล้ว 3 ข้อหาคือ ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร, ขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และ ไม่ชำระภาษีรถยนต์ประจำปี ซึ่งทราบว่าดาราสาวมีการส่งตัวแทนมาเพื่อจะชำระค่าปรับ แต่เนื่องจากเป็นความผิดที่มีโทษทางอาญา ต้องให้ผู้กระทำผิดมาเป็นผู้ชำระเองจึงไม่สามารถรับชำระได้ แต่ในส่วนของ 3 ข้อหานี้ดาราสาวยังสามารถชำระได้อีกหลายช่องทางที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ เช่นการชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือการชำระผ่านธนาคารกรุงไทย
พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผู้บังคับการตำรวจราจร ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเอาคืนดาราสาวกรณีที่มีการโพสต์ข้อความในสื่อออนไลน์ ส่วนจะมีการดำเนินการแจ้งข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ ขอพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง.
