เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในซอยรามอินทรา 65 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ขับรถเก๋งออกจากประตูบ้านพุ่งตรงมาจอดขวางอยู่กลางถนน โดยที่เธอจอดรถนิ่งอยู่นานหลายนาที ก่อนที่จะลดกระจกลง พร้อมกับชี้หน้าด่าคนขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ เพราะไม่สามารถผ่านไปได้ พร้อมกับโต้เถียงกันไปมา โดยไม่สามารถจับใจความได้ จนกระทั่งสุดท้ายเธอปิดกระจกรถ และถอยรถกลับเข้าไปในบ้านแต่โดยดี
ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้อยู่ในเหตุการณ์ถ่ายภาพและนำคลิปดังกล่าวโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีผู้สนใจเข้ามาดูและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก พร้อมร่วมแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย โดยที่ส่วนใหญ่ตั้งข้อสันนิษฐานว่าหญิงคนดังกล่าว อาจป่วยทางจิตแต่เหตุใดจึงสามารถขับรถได้ เกรงจะสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น
ล่าสุดวันนี้ (18 ม.ค.) พันตำรวจเอกสิงห์ สิงห์เดช ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว เปิดเผยว่าหลังเกิดเรื่องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่บริเวณหน้าบ้านเกิดเหตุ และประสานญาตินำตัวผู้หญิง อายุ 49 ปี ที่ก่อเหตุมาพบตำรวจในวันนี้ แต่ทางพ่อของผู้หญิงคนดังกล่าวให้ข้อมูลว่าลูกสาวป่วยทางประสาทไม่สามารถไปพบตำรวจได้ จึงให้ญาติเดินทางจะมาพบแทน พร้อมนำใบรับรองแพทย์ระบุการรักษาตัวของหญิงดังกล่าวมาให้ตรวจสอบ
โดยญาติติดต่อมาว่าวันนี้ยังไม่สามารถหาเอกสารได้ทัน จึงขอเลื่อนมาพบเป็นวันจันทร์ที่ 21 มกราคมนี้ เวลา 10.00 น. แต่จากการตรวจสอบคลิปพบว่าการกระทำของหญิงดังกล่าวสามารถดำเนินคดีได้ 2 ข้อหา คือขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร ปรับไม่เกิน 500 บาท และก่อความเดือดร้อนรำคาญ จำคุกไม่เกิน 1เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ส่วนข้ออ้างของญาติที่บอกว่าผู้หญิงดังกล่าวป่วยทางประสาทก็เป็นคำให้การที่สามารถทำได้ แต่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และรอเอกสารการรักษากับญาติอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป