เมื่อวันที่ (21 ม.ค.63) ล่าสุดการสืบสวนตำรวจได้ขอรายชื่อผู้ครอบครองรถดังกล่าวจากกรมการขนส่งทางบกรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Yamaha รุ่น Fino สีแดง-ขาว ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุแล้ว โดยขอรวม 3 จังหวัด คือ ลพบุรี สิงห์บุรี และอ่างทอง ซึ่งได้ชื่อเจ้าของรถจักรยานยนต์มากว่า 2 พันคน แต่ตัดรายชื่อเหลือ 3 ราย ที่จดทะเบียนใน จ.ลพบุ ซึ่งระบุชัดว่าเป็น รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Yamaha รุ่น Fino สีแดง-ขาว ปี 2018
พบหัวกระสุน โจรปล้นทองลพบุรี เป็นชนิดพิเศษไม่มีขายทั่วไป
โดยข้อมูลรถจักรยานยนต์ที่ตำรวจจำกัดวงได้แคบลงนี้ มาจากการแกะรอยตามเส้นทานหลบหนีจากกล้องวงจรปิดที่จับได้ และมีการคาดการณ์เส้นทางหลบนี้ไว้ 2 เส้นทาง คือเส้นทางที่ 1 หลังก่อเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ย้อนศรเข้าตรงซอยหมู่บ้านที่เป็นทางด้านหลังห้างโรบินสันซึ่งเส้นทางดังกล่าวตัดออกถนนพหลโยธินสายเก่ามุ่งหน้าเข้าตัวเมืองลพบุรี
ส่วนเส้นทางคาดเดาที่ 2 คือ คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรไปทางถนนสาย 36 แต่เลี้ยวขวาตัดเข้าถนนคู่ขนานกับคลองชลประทาน ซึ่งไม่มีไฟส่องสว่างและกล้องวงจรปิดตลอดทาง
มีข้อมูลจากชุดสืบสวนว่า ตอนนี้คนร้ายอาจทิ้งรถจักรยานยนต์และของกลางกระจายลงในคลอง หรือน้ำ ในพื้นที่ละแวกใกล้เคียงกับสถานที่ก่อเหตุและตามเส้นทางหลบหนี โดยคาดว่าวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.63) ตำรวจจะจัดชุดค้นหาโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่รู้พิกัดกว้าง ๆ เท่านั้น และมีข้อมูลว่ามีคนร้ายร่วมก่อเหตุครั้งนี้มากกว่า 1 คน
ตร.เร่งพิสูจน์ตัวชายต้องสงสัยโผล่ จ.หนองคาย รูปร่างคล้ายโจรชิงทอง
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยที่เชิญมาสอบปากคำที่ จ.หนองคาย หลังพบว่ามีลักษณะคล้ายคนร้าย ผลตรวจสอบยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับคดีชิงทอง จ.ลพบุรี จึงปล่อยตัวไป พร้อมกำชับให้ฝ่ายสืบสวน เร่งระดมพยานหลักฐานต่อไป
ขณะที่วันนี้ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาติดตามคดีนี้ด้วยตัวเอง พร้อมทีมงานของ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ที่เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวน และเจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐาน ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี โดยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง
นอกจากนี้ตัวแทนสำนักงานประกันสังคม ไปมอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต และเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บ จากเหตุการณ์นี้ โดยกรณีเสียชีวิต ประกอบด้วย น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ หรือกวาง อายุ 31 ปี ที่เสียชีวิต ทำงานที่บริษัท ออโร่า ดีไชน์ ได้รับเงิน 992,174.19 บาทมีทายาท 3 คน ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ นายธีระฉัตร นิ่มมา หรือเอ้ อายุ 33 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย เอส พี วี ได้รับเงิน 795,353.41 บาท ทายาทที่ได้รับประโยชน์ 5 คน ส่วนผู้บาดเจ็บคือ น.ส.สุภาวดี ชุนสนิท อายุ 44 ปี ใช้สิทธิกองทุนประกันสังคมในการรักษาพยาบาล เช่นเดียวก้ันกับนายประเสริฐ คงลี อายุ 22 ปี