วันที่ 14 ธันวาคม 2561 นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า รู้สึกสับสนว่า จริงๆ แล้วเศรษฐกิจไทยดีขึ้นหรือตกต่ำลง พราะ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล คสช. ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่าเศรษฐกิจดีขึ้น แต่กลับมีการทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ “บัตรคนจน” ออกมามากถึง 14.5 ล้านใบ แต่เมื่อถูกตั้งคำถามเรื่องอัดเงินในบัตรคนจนช่วงใกล้เลือกตั้ง นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ( พปชร.) ก็ออกมาอ้างว่า “ไม่ให้ไม่ได้ คนจะอดตายอยู่แล้ว”
“ความย้อนแย้งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า 4 ปีที่ผ่านมา ต่างคนต่างทำ ไม่ประสานการทำงานกัน เหมือนคนทำงานไม่เป็น ไม่ใช่มืออาชีพ และไม่รู้ว่าคำพูดของรัฐมนตรีคนไหนที่โกหกกันแน่ ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญมากเพราะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อประเทศไทย” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า การจะดูว่าพรรคไหนทำงานแบบมืออาชีพ ให้ดูจากผลงานที่ผ่านมาและเชื่อว่าประชาชนคงรู้ดี ว่าพรรคเพื่อไทย เคยทำนโยบายแก้ปัญหาความยากจนสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง ไล่มาตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย อาทิโครงการกองทุนหมู่บ้าน / โอทอป / 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นต้น
“การแจกเงินผ่านบัตรคนจนคือการบริหารที่ไร้การวางแผนแก้ไขความยากจนอย่างยั่งยืน ไร้ฝีมือ ไร้ประสบการณ์ จะช่วยคนจนทั้งทีแต่เงินจำนวนมหาศาลกลับไหลไปให้กลุ่มทุนเพียงไม่กี่ราย ต่างจากแนวปฏิบัติของพรรคเพื่อไทยที่เคยแก้ปัญหาความยากจนสำเร็จมาแล้ว และมั่นใจว่าไม่เกินความสามารถของทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยที่จะรับภาระหยุดความยากจนครั้งใหม่ให้แก่ประชาชนชาวไทยทุกคน” นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีก
นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ยกเลิกบัตรคนจน ขณะเดียวกันก็มีแนวคิดจะปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม และจะส่งเสริมพัฒนาให้ประชาชนมีความสุขมีความเจริญก้าวหน้า มีอาชีพมีรายได้อย่างมั่นคงยั่งยืน เพื่อให้ประชาชนหายจน สามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี
