ชินวัฒน์ ชินแสงอร่าม ขอยุติบทบาทใน สำนักงานกฎหมาย WCP ทั้งการเป็นผู้ถือหุ้น กรรมการ และ ทนายความ แสดงสปิริตถูกก.ล.ต.กล่าวโทษ ในฐานะอดีตกกรมการ ADAM มีผลตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2562
รายงานข่าวจากบริษัท วีระวงค์,ชินวัฒน์ และพาร์ทเนอร์ส จํากัด(WCP) แจ้งว่า ผู้บริหารของสํานักงานฯได้ประชุมเมื่อวันที่ 21 เมษายน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)กล่าวโทษอดีตกรรมการ บริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) (ADAM) ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รวม 8 ราย จากการที่ ADAM เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จํากัด ซึ่งมีนายชินวัฒน์ ชินแสงอร่าม ในฐานะเป็นอดีตกรรมการ ADAM และนายชินวัฒน์ยังเป็นกรรมการและทนายความหุ้นส่วนอาวุโส (Senior Partner) ของ WCP ด้วย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า นายชินวัฒน์รับทําหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับ Fortune Thailand Investment Fund ซึ่งเป็นกองทุนต่างชาติที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในสิงคโปร์ เพื่อเข้าลงทุนใน ADAM ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ ADAM เป็นบริษัทเพื่อการลงทุนของกองทุนในการลงทุนในกิจการอื่นๆ ในประเทศไทย ซึ่ง ณ ขณะนั้น กีธาเป็นหนึ่งในเป้าหมายการลงทุนของกองทุน ผ่าน ADAM
ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับกองทุน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ADAM และกีธา และบริษัท ที แลนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของกีธาด้วย ไม่ปรากฏชื่อนาย อภิชาติ จันทร์สกุลพร(หรือเสี่ยเปี๋ยง) หรือบุคคลในครอบครัวเป็นผู้ถือหุ้นหรือมีหลักฐานจากการตรวจสอบว่า เป็นผู้ลงทุนในกองทุน หรือ ADAM รวมทั้ง กีธา หรือทีแลนด์แต่อย่างใด
“นายชินวัฒน์และสํานักงานฯไม่เคยรับรู้เหตุการณ์หรือความเป็นผู้ถือหุ้นไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมของนายอภิชาติ หรือบุคคลในครอบครัว ใน ADAM ในกองทุน กีธา ทีแลนด์ และกองทุนที่เป็นผู้ถือหุ้นของ ทีแลนด์ การที่นายชินวัฒน์เข้าไปทําหน้าที่กรรมการใน ADAM เกิดจากคําร้องขอของลูกความ ซึ่งเป็นกองทุนต่างชาติที่ไม่มีตัวแทนใดๆ ในประเทศไทย นายชินวัฒน์จึงรับเป็นกรรมการให้เป็นการส่วนตัว ไม่ใช่ในฐานะตัวแทน หรือได้รับมอบหมายจากสํานักงานฯ แต่อย่างใด และหลังจาก ADAM เข้าลงทุนในกีธา ADAM ได้ขายหุ้นทั้งหมดในกีธาออกไป เนื่องจากประสบปัญหาในกระบวนการอนุมัติการลงทุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง ADAM ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ จากการขายหุ้นดังกล่าว และนายชินวัฒน์ก็ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการของ ADAM”
ดังนั้น สํานักงานฯ เชื่อมั่นว่า จากข้อมูลที่ได้ทําการตรวจสอบทั้งหมด นายชินวัฒน์จะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อดีเอสไอได้อย่างแน่นอน สํานักงานฯยึดมั่นในหลักจริยธรรมและจรรยาบรรณของวิชาชีพไม่เคยเป็นที่ปรึกษา กฎหมายให้กับลูกความรายใด (รวมถึงเสี่ยเปี๋ยง)ในธุรกรรมทางการเงินเพื่อการฟอกเงิน หรือเพื่อการทุจริต คอร์รัปชัน
อย่างไรก็ตาม สํานักงานฯได้รับแจ้งจากคุณชินวัฒน์ว่ าแม้ขณะนี้จะเป็นเพียงขั้นตอนการถูกกล่าวโทษ โดย ก.ล.ต. เพื่อเริ่มต้นกระบวนการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และแม้ว่าคุณชินวัฒน์จะมี ความมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตน แต่คุณชินวัฒน์เห็นว่าการที่มีสื่อเผยแพร่ข่าวในเรื่องนี้ โดยมีการนํา สํานักงานฯ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น เป็นเรื่องที่เกินเลยและไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายชินวัฒน์จึงได้แสดงความประสงค์ที่จะยุติการเป็นผู้ถือหุ้นของสํานักงานฯและขอลาออกจากตําแหน่งกรรมการและทนายความ หุ้นส่วนอาวุโส รวมทั้งการเป็นพนักงานของสํานักงานฯ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและแสดงความรับผิดชอบ เพื่อธํารงไว้ซึ่งจรรยาบรรณในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพที่พึงได้รับความไว้วางใจ แม้สํานักงานฯ จะทักท้วง เพราะเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ และเห็นว่า นายชินวัฒน์ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับการกระทําที่มีการกล่าวโทษตามขั้นตอนของกฎหมาย และ ก.ล.ต. ก็ไม่ได้กล่าวโทษนายชินวัฒน์ในบทบาทของการเป็นที่ปรึกษากฎหมายแต่อย่างใด โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2562 นี้ เป็นต้นไป
