โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ดินแดนแห่งความสุข - อุ๋ย นที เอกวิจิตร์

THINK TODAY

เผยแพร่ 18 ธ.ค. 2561 เวลา 05.16 น. • อุ๋ย นที เอกวิจิตร์

ขอให้ประสบความสำเร็จ

คำนี้เป็นคำอธิฐานของหลายหลายคน แล้วความสำเร็จคืออะไร?

บางคน หมายถึงการมีเงินทองมากมาย

บางคนหมายถึงการมีชื่อเสียง

บางคนหมายถึงการมีอำนาจ

บางคนแค่ได้รับความรักอย่างจริงใจจากใครสักคน

ความสำเร็จของคนเรา คงเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้

หลายบทความหรือหลายๆ วิดีโอที่อยู่ตามโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็พูดถึงวิธีที่จะไปสู่ความสำเร็จกันเยอะแล้ว หนังสือที่ขายดีทั้งหลายก็พูดถึงวิธีประสบความสำเร็จ

วันนี้ผมเลยขอมาพูดเรื่องต่อจากนั้นซึ่งไม่ค่อยมีใครพูด

ประสบความสำเร็จแล้วไปไหนต่อ

เช่นถ้าคุณจะเดินทางไปไหนสักที่นึง คุณรู้แค่จุดหมายปลายทาง แล้วก็ได้แต่จินตนาการถึงจุดหมายปลายทางนั้นว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร คิดว่ามันคงเป็นแดนสวรรค์ที่มีแต่ความสุข เป็นนิรันดร์ ผมว่าคุณอาจจะผิดหวังก็ได้

จากประสบการณ์คนที่ประสบความสำเร็จแล้วอย่างผม (มั่นใจมาก55555) ที่ผมกล้าพูดว่าผมประสบความสำเร็จแล้วนั้น เพราะความสำเร็จของผมเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับของคนอื่นๆ ผมเคยฝันไว้ว่าจะได้ออกอัลบั้มเพลง โดยที่ไม่สนว่ามันจะขายได้หรือไม่ได้ แค่ได้ออกก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

ตอนนั้นคิดว่าคงจะมีความสุขมากๆ เป็นความฝันที่จินตนาการไว้ เพราะเบื่อและทุกข์เหลือเกินกับงานประจำที่ทำอยู่ พอได้ออกอัลบั้มจริงๆ ก็มีความสุขนะครับ เพราะได้ยิ่งกว่าที่ฝันไว้นอกจากได้ออกอัลบั้มแล้วยังได้รับผลตอบรับที่ดีมากด้วย 

ถ้าถามว่ามีความสุขไหม แน่นอนครับ มีแน่นอน แต่มันไม่ขนาดที่จินตนาการไว้ เพราะอะไร? 

คงเป็นเพราะเราจินตนาการความสุขไว้สูงมาก คล้ายๆ กับตอนไปเที่ยว ช่วงก่อนเดินทาง เตรียมตัว เตรียมของจัดกระเป๋า ตื่นเต้นและสนุกนะครับ  แต่พอไปถึงจริงๆ ก็โอเคอ่ะ แต่ไม่ขนาดที่เราจินตนาการไว้ก่อนไป ถึงแล้วไง เวลามันก็ต้องไปต่ออยู่ดี  

หลังจากผ่านช่วงออกอัลบั้มแรกไปก็งงๆ ครับ ว่า แล้วไงต่อวะ?

ก็ทำเพลงต่อไป แต่กดดันและคาดหวังกว่าตอนทำอัลบั้มแรกมาก เพราะยึดติดความสำเร็จจากอัลบั้มแรกที่ได้รับการตอบรับอย่างดี ผลที่ออกมาถ้าไม่เทียบอัลบั้มแรกก็ถือว่าดีมากแล้ว แต่พอมีการเปรียบเทียบกับอัลบั้มแรก ก็เป็นทุกข์ขึ้นมาทันที รู้สึกว่าผลที่ตอบรับไม่เท่าอัลบั้มแรก

ความสำเร็จในอดีตที่เราเคยใฝ่ฝันหาและได้ครอบครองทันแล้ว มาในวันนี้กลับกลายเป็นต้นเหตุให้เราทุกข์ใจ  แต่ถ้าจะพูดให้ถูก ไม่ใช่ความสำเร็จในอดีตหรอกครับที่ทำให้ผมทุกข์ใจตอนออกอัลบั้มที่ 2 

แต่ต้องเรียกว่า เป็นความยึดติดในอดีต และ การไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง ถึงจะถูก  

ความสุขความสมหวังก็ย้อนกลับมาทำให้เราทุกข์ได้ ถ้าเราไม่ยอมปล่อยสิ่งที่ผ่านไปแล้วจากใจ แต่ไม่ใช่ให้ลืมนะครับ จำได้ แต่ก็ปล่อยวางได้ด้วย แบบเข้าใจว่ามันเป็นของชั่วคราว

ส่วนความไม่สำเร็จ ความผิดหวัง ความลำบาก ที่เกิดขึ้นในชีวิต ก็อยากให้มองเป็นบทเรียนที่กำลังขัดเกลาเราให้เป็นคนใหม่ อย่าให้มันทำให้เราทุกข์จนท้อแท้จนไม่กล้าทำอะไรต่อ ความทุกข์ก็ไม่ได้คงอยู่ตลอดเหมือนกัน มาแล้วก็ไป 

หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้ ความทุกข์ก็จะทำให้เรามีความสุขง่ายขึ้น  เช่น ผมเคยบ้านไฟไหม้ ความลำบากของชีวิตช่วงนั้นก็ขัดเกลาเราเป็นคนใหม่ มองโลกมุมใหม่ 

ถึงบ้านใหม่ที่ไปอยู่จะเก่าทรุดโทรมหลังเล็กกว่าเดิมก็มีความสุขกว่าตอนไม่มีบ้านอยู่ ครอบครัวรักและเห็นใจกันมากขึ้นเยอะเพราะลำบากมาด้วยกัน ขัดเกลาให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น ทุกวันนี้มองย้อนกลับไป รู้สึกว่าบ้านไฟไหม้ให้ประโยชน์กับชีวิตมากๆ 

ความสุขก็ทำให้เราทุกข์ได้

ความทุกข์ก็ทำให้เราสุขได้

และทั้งความสุข ความทุกข์  ก็ไม่มีอะไรที่อยู่กับเราไปตลอด 

ถ้าวันนี้คุณยังไม่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณตั้งความหวังไว้ อย่าเพิ่งร้อนใจไปเลยครับ

บางทีดินแดนแห่งความสุขที่คุณฝันไว้ อาจไม่ใช่ปลายทางที่อยู่ในจินตนาการของคุณ  แต่เป็นความสุขเล็กๆ ทีละก้าวในตอนปัจจุบันนี้ ขณะที่คุณกำลังก้าวเดิน ดำเนินชีวิตอยู่ ก็เป็นได้ 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0