คลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมรัฐพิหาร ทางตะวันออกของอินเดีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 184 ราย
กรมบริหารจัดการภัยพิบัติอินเดีย เปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า ผู้เสียชีวิตในรัฐพิหาร ส่วนใหญ่อยู่ในเขตออรังคาบัด คยา และนาวาดา
ทั้งนี้ อินเดียกำลังเผชิญกับอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในหลายเมือง โดยที่เมืองชูรู ในรัฐราชาสถาน อุณหภูมิล่าสุดพุ่งสูงเกิน 50 องศาเซลเซียสแล้ว
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 มิ.ย.) มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 รายที่เมืองออรังคาบัด และเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลกว่า 200 คน
ส่วนบริหารท้องถิ่นในเมืองคยา ได้ออกข้อบังคับห้ามชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยให้เหตุผลว่า ต้องการให้ประชาชนอยู่แต่ในร่ม เพื่อเลี่ยงภูมิอากาศที่ร้อนจัด โดยเนื้อหาในหนังสือเวียนของทางส่วนบริหารระบุว่า ห้ามทำการก่อสร้างทั้งของทางการ และเอกชน รวมถึง การจัดงานด้านวัฒนธรรม และการรวมตัวกันในพื้นที่กลางแจ้ง ระหว่างเวลา 11.00 – 14.00 น. เช่นเดียวกับที่รัฐทมิฬนาฑู ที่ทางการได้สั่งให้ประชาชนอยู่แต่ที่ร่มในช่วงเวลาเดียวกันดังกล่าว
รัฐพิหาร ยังได้มีคำสั่งให้ส่วนบริหารท้องถิ่น และโรงเรียนรัฐบาลทั่วทั้งรัฐ ปิดดำเนินการไปจนถึงวันที่ 22 มิถุนายนนี้ด้วย
“เราได้ขอให้ประชาชนอยู่แต่ภายในร่ม ในช่วงที่คลื่นความร้อนยังรุนแรงอยู่ ซึ่งจนถึงขณะนี้ มีประชาชนจำนวนมากต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยทางการกำลังจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ชาวอินเดียหลายพันคนในรัฐต่างๆ ทางเหนือของอินเดีย ต้องพากันอพยพออกจากบ้านเรือนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่ตำรวจเริ่มเข้าควบคุมแหล่งน้ำต่างๆ เนื่องจากเริ่มมีการต่อสู้เพื่อแย่งชิงน้ำกันมากขึ้น