(20 ก.ย. 62) พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และ ตำรวจ สภ.สารภี นำหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 74/49 บ้านป่ากล้วยสุพรรณ หมู่ที่ 3 ตำบลชมภู อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ หลังสืบทราบว่า บ้านหลังดังกล่าว มีการลักลอบผลิตและบรรจุน้ำมันกัญชา ขายออนไลน์
จากการตรวจสอบ พบ นายนิพนธ์ โพธิ์สัน อายุ 34 ปี และ นางสาววิชุณี ภักดีราช อายุ 31 ปี ทั้ง 2 เป็นสามีภรรยากัน แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน
ขณะตรวจค้น พบน้ำมันกัญชาบรรจุขวด และ แพ็คใส่กล่องพัสดุ เตรียมส่งให้ลูกค้ากว่า 30 กล่อง รวมทั้งตัวยาที่เป็นส่วนผสมอีกจำนวนหนึ่ง สมุดบัญชีเงินฝาก โฉนดที่ดิน และคู่มือรถยนต์ รวมทั้งเงินสดเป็นธนบัตรฉบับละ 1 พันบาท รวมกว่า 3,400,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้ตรวจสอบ
พล.ต.ต.พิเชษฐ เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนกันยายน 62 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ว่า มีผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นหญิงวัย 39 ปี สั่งซื้อน้ำมันกัญชาจาก นางสาววิชุณี ต่อมาไม่นานผู้ป่วยหญิงรายนี้ เสียชีวิตลง
โดยแพทย์ระบุว่า เกิดจากโรคเส้นเสียงติดเชื้อ ทางญาติเชื่อว่า อาจเกิดจากการที่ผู้ป่วยรายนี้ซื้อน้ำมันกัญชามาใช้ จึงร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ
หลังรับเรื่อง ชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนแน่ชัด ก่อนขออนุมัติศาลออกหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบในบ้านหลังดังกล่าว ที่คาดว่าจะเป็นแหล่งผลิตและบรรจุน้ำมันกัญชา ซึ่งการสืบสวนพบว่ามีการสั่งซื้อกัญชามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนนำมาผสมและบรรจุเพื่อขายให้ลูกค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์มานานกว่า 2 ปีแล้ว เจ้าหน้าที่เตรียมจะตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายยึดทรัพย์ รวมทั้งขยายผลถึงเครือข่ายที่ลักลอบส่งน้ำมันกัญชาให้ผู้ต้องหารายนี้เพิ่มเติม
เบื้องต้น ได้มีการแจ้งข้อกับ 2 สามีภรรยา ในข้อหา "ผลิตและมียาเสพติดประเภท 5 ไว้ในความครอบครอง" และจะได้ส่งน้ำมันกัญชาของกลาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบว่ามีส่วนผสมของสารชนิดใดบ้าง และเกี่ยวข้องกับสาเหตุการตายของผู้ป่วยหญิงวัย 39 ปีหรือไม่ หากพบว่ามีเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป
ด้าน นางสาววิชุณี ให้การว่า ตนเรียนจบระดับปริญญาตรี จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นตนและสามี คือ นายนิพนธ์ โพธิ์สัน ก็ร่วมกันทำธุรกิจขายถุงห่อผลไม้เพื่อป้องกันแมลง และอุปกรณ์ทางการเกษตร
ส่วนสาเหตุที่หันมาขายน้ำมันกัญชา เพราะตนก็ใช้อยู่และได้ผลดี ขณะเดียวกันก็ได้รู้จักกับผู้ป่วยมะเร็งหลายคน จึงสนใจและเริ่มศึกษาก่อนสั่งน้ำมันกัญชาจาก สปป.ลาวมาผสมและบรรจุขายให้ผู้ป่วย ในราคาขวดละ 1 พันบาท หลังจากขายน้ำมันกัญชาให้ผู้ป่วยมะเร็งหลายรายได้ติดตามผล พบว่าหลายรายมีอาการดีขึ้น และหายป่วย จึงขายมาเรื่อยๆ จนธุรกิจขยายตัว
แต่ยืนยันว่าเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ที่เก็บไว้ในบ้านพัก เป็นเงินที่ได้จากธุรกิจขายอุปกรณ์ทางการเกษตรไม่เกี่ยวกับการขายกัญชา
ขณะที่ เภสัชกรหญิงนฤมล ขันตีกุล เภสัชกรชำนาญการ กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า น้ำมันกัญชาที่ไม่เข้ากลุ่มยาเสพติด ต้องอยู่ในกลุ่มยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยแบ่งจากส่วนผสมหากมีสารทีเอสซี น้อยกว่า 0.02 เปอร์เซนต์ จะถือเป็นยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร แต่รายนี้พบว่ายังไม่มีการขออนุญาตถูกต้อง ซึ่งผู้บริโภคที่ซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการขออนุญาตถูกต้อง จะไม่รู้เลยว่า มีส่วนผสมชนิดใดบ้าง เกินมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ และควรใช้ในปริมาณเท่าใดจึงจะเหมาะสม จึงอาจเกิดความเสี่ยงและมีผลเสียต่อร่างกาย และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
จึงขอฝากเตือนประชาชน ให้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ให้ดีว่าได้รับอนุญาตหรือไม่ โดยเฉพาะน้ำมันกัญชา จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
