ความคืบหน้าเหตุนายตำรวจเจ้าของรถเบนซ์ ที่จอดเสียบนสะพานไทย-ญี่ปุ่น ใช้ปืนยิงข่มขู่คู่กรณีที่กำลังมีเหตุทะเลาะวิวาท คือนายชนะชล เปราะแดง อายุ 26 ปี ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ และนายณัฐยุทธ เหล่ากิจเขต อายุ 43 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์นิสสัน
น.ส.ศิริกานดา จูหมื่นไวย์ แฟนสาวของนายชนะชล เดินทางมาที่สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อขอสำเนาการลงบันทึกประจำวัน เพื่อทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล และเปิดเผยว่า นายชนะชล มีบาดแผลถลอกตามร่างกายหลายแห่งและต้องใส่เฝือกที่ขา เนื่องจากอุบัติเหตุรถล้ม โดยกล่าวว่า เธอไม่ได้อยู่ในขณะที่เกิดเหตุ แต่นายชนะชล เล่าให้ฟังว่า มีรถเบนซ์จอดเสียอยู่ไหล่ทาง จึงขับรถเบี่ยงออกแต่เกิดไปเฉี่ยวชนกับรถยี่ห้อนิสสันที่ขับตามหลังมา และมีปากเสียงกับนายณัฐยุทธ ระหว่างนั้น ตำรวจเจ้าของรถเบนซ์เข้ามาอ้างตัวเป็นตำรวจพร้อมยิงปืนขึ้นฟ้า ทำให้นายชนะชลตกใจ แต่เมื่อจะโทรศัพท์มาหา ก็ถูกนายตำรวจแย่งโทรศัพท์ไป บอกว่าไม่ให้โทรหาใครและไม่ให้ถ่ายรูป และยังบอกว่าอยากยิงคน ส่วนจะแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจนายนี้หรือไม่นั้น ขอหารือกันก่อน
ด้านพ.ต.ท.ณรงค์ ยิ้มปั่น รองผู้กำกับการ สน.ทุ่งมหาเมฆ เปิดเผยว่า สำหรับนายตำรวจคนดังกล่าวเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อช่วงเช้า ขณะนี้ยังไม่มีการสอบปากคำ จะต้องตรวจสอบพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงอีกครั้งว่าเป็นคนขับรถเบนซ์จริงหรือไม่ เบื้องต้นจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 4 ปลอก ส่วนกล้องติดหน้ารถกู้ภัยที่มีรายงานว่าตำรวจนายนี้เอาไป ขณะนี้ยังไม่มีการนำมอบให้พนักงานสอบสวน หลังจากนี้ก็จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำ รวมถึงให้ชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณรอบที่เกิดเหตุด้วย
สำหรับตำรวจนายนี้ อยู่ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งพล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ระบุว่า เพิ่งได้รับรายงานว่า ตำรวจนายนี้ถูกขอตัวให้ไปช่วยราชการในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ดังนั้นในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาก็จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะพฤติการณ์ยิงปืนขึ้นฟ้าว่าเหมาะสมหรือไม่ หากเป็นการห้ามปรามเหตุทะเลาะวิวาทก็สามารถทำได้ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
….
