‘ซิโก้’ พร้อมรอข้อเสนอคัมแบ๊กคุมทีม ยก ‘บุรีรัมย์’ เต็งแชมป์แม้ทีมอื่นเสริมหนัก
หลังจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น กระแสของฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก 2020” ที่แม้ว่าจะมีกำหนดการแข่งขันในเดือนกันยายน แต่กลับมีข่าวฮือฮาต่อเนื่องเกี่ยวกับการย้ายทีมของผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์ โดยเฉพาะในส่วนของ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ปล่อย 2 ผู้เล่นหลักอย่าง “เก่ง” อดิศร พรหมรักษ์ ให้ การท่าเรือ เอฟซี และ “ตังค์” สารัช อยู่เย็น ให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
นอกจากนี้ทีมดังย่านคลอง 3 ยังคว้าตัว อันเดรียส ตูเญซ กองหลังชั้นนำของประเทศ มาจาก “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบบไม่มีค่าตัว ทำให้หลายคนตื่นเต้นกับการลุ้นชิงแชมป์ลีก รวมถึงการชิงอันดับ 1-4 ที่จะเป็นโควต้าไปเล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวสอบถามความเห็นของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกองหน้า และหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เกี่ยวกับโอกาสการลุ้นแชมป์ไทยลีก ซึ่งอดีตกองหน้าจอมตีลังกา กล่าวว่า บรรยากาศตอนนี้เป็นบรรยากาศที่สนุก จากที่เมื่อก่อนนั้นมีเพียงเอสซีจี เมืองทอง, ชลบุรี เอฟซี จนมาเป็นเมืองทอง-บุรีรัมย์ จนมามีสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ขึ้นมาคว้าแชมป์ปีก่อน ดังนั้นมันยังมีทีมใหญ่ๆ ที่ยังไม่ถึงฝันที่วางเอาไว้ ทั้งบีจี, การท่าเรือ หรือทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เองก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ซิโก้ กล่าวว่า บุรีรัมย์นั้นยังคงเป็นทีมที่อันตรายและมีโอกาสคว้าแชมป์มากที่สุด ตอนนี้พวกเขายังซุ่มอยู่ เราไม่รู้ว่าตัวต่างชาติของบุรีรัมย์จะเป็นอย่างไรบ้าง แต่เป้าหมายของเขาคือการคว้าแชมป์เท่านั้น ยิ่งปีก่อนพลาดก็ทำให้ปีนี้ฮึกเหิมมากขึ้น ขณะที่บีจีเพิ่งก้าวมาลุ้นแชมป์ครั้งแรก อาจจะยังไม่ชิน จึงมองว่า บุรีรัมย์ คือทีมเต็ง ตามมาด้วย การท่าเรือ, บีจี, ทรู แบงค็อก และสิงห์ เชียงราย ขณะที่เมืองทองนั้นอาจจะลุ้นแบบเงียบๆ ไม่กดดัน
ทั้งนี้ผลงานของแต่ละทีมที่อดีตกองหน้าทีมชาติไทยกล่าวมา ผลงาน 4 นัดแรก มี ทรู แบงค็อก ชนะรวด เท่ากับ ราชบุรี มิตรผล มี 12 แต้ม, ท่าเรือ กับ บีจี มี 10 แต้ม, เมืองทอง 6 แต้ม, สิงห์ เชียงราย 5 แต้ม, บุรีรัมย์ 4 แต้ม
ส่วนการที่เอสซีจี เมืองทองฯ ปล่อยผู้เล่นตัวหลักออกไปนั้น โค้ชซิโก้ กล่าวว่า ทั้งสองคนอยู่กับทีมมานาน แต่การซื้อขายนักเตะเป็นเรื่องธรรมชาติ การขายก็ต้องมีตัวมาทดแทน นักเตะจะได้ไปหาความท้าทายใหม่ๆ สโมสรได้เงินที่ต้องการ ก็ถือว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
สำหรับซิโก้ นับตั้งแต่ลาออกจากการคุมทีมการท่าเรือ เอฟซี เมื่อปี พ.ศ.2560 เท่ากับว่าเขาละเว้นงานคุมทีมมาแล้วกว่า 20 เดือนด้วยกัน ซึ่งเมื่อถามถึงโอกาสในการกลับมารับงานคุมทีมนั้น เจ้าตัว กล่าวว่า ตอนนี้งานปัจจุบันที่ทำคืองานอดิเรก ในตัวยังคงมีเลือดฟุตบอลเต็มเปี่ยม ทั้งติดตามดูทีมชาติ สโมสร และระดับเยาวชน ไม่ได้หนีออกจากวงการฟุตบอล เผลอๆ จะติดตามมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“ผมเตรียมตัวให้พร้อมตลอดเวลา เมื่อมีโอกาส มีข้อเสนอ มีอะไรดีๆ มาในชีวิต ผมเพิ่งผ่านโปรไลเซนส์ ถือว่ายังใหม่ มีเวลาอีกเยอะ ยังมีไฟในการทำทีม เพียงแต่ว่า ที่ผ่านมายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ฉะนั้นยืนยันว่า ไม่หนีไปไหน” ซิโก้ ทิ้งท้าย.
