เอเอฟพี - ซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่าได้ทำการประหารชีวิตพลเมือง 37 คนในวันอังคาร(23เม.ย.) หลังคนเหล่านั้นถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐาน "ก่อการร้าย" ในประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งดินแดนที่มีการประหารชีวิตนักโทษมากที่สุดในโลก
การประหารชีวิตครั้งนี้มีขึ้นทั้งในกรุงริยาด, เมืองศักดิ์สิทธิ์ต่างๆของชาวมุสลิม ทั้งนครเมกกะและเมดินา, จังหวัดกัสซิม ทางภาคกลางของประเทศและจังหวัดอีสเทิร์น อันเป็นถิ่นฐานของชนกลุ่มน้อยชีอะห์
ถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวซาอุดีเพรส(เอสพีเอ) สื่อมวลชนแห่งรัฐ ระบุว่าพลเมืองเหล่านี้ถูกประหารฐานรับเอาแนวคิดก่อการร้ายและหัวรุนแรง รวมถึงจัดตั้งเครือข่ายเพื่อก่อการร้ายเพื่อบั่นทอนความมั่นคง"
ในถ้อยแถลงระบุด้วยว่ามีนักโทษอยู่คนหนึ่งจะถูกตรึงบนไม้กางเขนหลังการประหาร บนลงโทษซึ่งสงวนไว้สำหรับอาชญากรรมร้ายแรงโดยเฉพาะ
การประหารชัวิตในประเทศอนุรักษ์นิยมสุดขั้วแห่งนี้โดยปกติแล้วมักเป็นการลงทัณฑ์ด้วยการตัดคอ
จากข้อมูลอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวเอสพีเอ ระบุว่ามีนักโทษอย่างน้อย 100 รายถูกประหารชีวิตในซาอุดีอาระเบีย นับตั้งแต่เริ่มต้นปีเป็นต้นมา
เมื่อปีที่แล้ว ตามข้อมูลขององค์การนิโทษกรรมสากล พบว่าซาอุดีอาระเบียได้ประหารชีวิตนักโทษทั้งสิ้น 149 ราย ซึ่งมีเพียงอิหร่านเพียงชาติเดียวเท่านั้น ที่ประหารชีวิตนักโทษมากกว่าริยาด
พวกผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนแสดงความกังวลบ่อยครั้งเกี่ยวกับความยุติธรรมของ
กระบวนการพิจารณาคดีในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งปกครองภายใต้กฎหมายอิสลามอันเข้มงวด
ผู้ต้องหาที่ถูกพิพากษาว่ามีควมผิดฐานก่อการร้าย, ฆาตกรรม, ข่มขืน, ขโมยโดยใช้อาวุธและค้ายาเสพติด มีสิทธิ์ต้องโทษประหารชีวิต ซึ่งทางรัฐบาลอ้างว่าก็เพื่อยับยั้งไม่ให้ก่ออาชญากรรมซ้ำอีก