เครดิตรูปภาพ: svgimmeshelter.com
เหตุการณ์นี้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณสองปีก่อน ตอนนั้นฉันสังเกตเห็นตุ่มประหลาดบนใบหน้าของฉันซึ่งดูเหมือนสิวแต่ก็ไม่หายไปสักที มันอยู่อย่างนั้นประมาณสองเดือนก่อนที่จะกลายเป็นเหมือนแผลแถมมีสีเข้มขึ้นเล็กน้อย สามีของฉันก็เซ้าซี้ให้ไปตรวจนะตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเห็นแต่ฉันก็บอกปัดไป
เครดิตรูปภาพ: svgimmeshelter.com
คุณจะเห็นตุ่มเล็กๆบริเวณใต้ตาซ้ายของฉัน ภาพนี้ถ่ายตอนไปฮันนีมูนเมื่อปี 2014
เครดิตรูปภาพ: svgimmeshelter.com
ฉันคิดตลอดว่าเดี๋ยวตุ่มนี้ก็หายไปแต่มันก็อยู่อย่างนั้นและใหญ่ขึ้นเมื่อปลายปี 2015
ในที่สุดเมื่อสามสัปดาห์ก่อนฉันก็ตัดสินใจไปหาแพทย์ด้านผิวหนัง แม้ว่าฉันจะไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับตุ่มนั้นเลยแต่ทันทีที่หมอเห็น เขาก็ขอตัดชิ้นเนื้อไปตรวจจากนั้นเขาก็ปิดแผลที่แก้มและให้ฉันกลับบ้านได้เลย
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาฉันได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าตัวอย่างชิ้นเนื้อที่ไปตรวจนั้นมีผลเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง Basal Cell Carcinoma (BCC) ซึ่งเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดที่พบบ่อยและรักษาง่ายที่สุด พวกเขาต้องรักษาโดยการผ่าตัดเอาผิวหนังหนึ่งชั้นซึ่งหนาประมาณ 2 มม.ที่อยู่รอบๆบริเวณที่เป็นมะเร็งออกไปจนกว่าจะไม่มีเซลล์มะเร็งหลงเหลืออยู่
เครดิตรูปภาพ: svgimmeshelter.com
นี่คือใบหน้าของฉันหลังจากที่ผ่าตัดเอาผิวหนังออกไปหนึ่งชั้น
ฉันโชคดีมากที่ต้องผ่าตัดผิวหนังออกไปแค่ชั้นเดียว ฉันนึกไม่ออกเลยว่าถ้าต้องเอาออกไปมากกว่านั้นจะเป็นอย่างไร หลังจากที่ผ่าตัดเอาเซลล์มะเร็งออกไปหมดแล้วพวกเขาก็ทำศัลยกรรมพลาสติกและเย็บแผลให้ฉันเรียบร้อย
เครดิตรูปภาพ: svgimmeshelter.com
ไม่ค่อยน่ามองเท่าไหร่แต่ฉันว่าการแต่งตัวเป็นโจรสลัดน่าจะช่วยทำให้ดูสมจริงมากกว่านี้
ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพเหมือนกับตอนที่ฉันขาหักซึ่งต้องคอยตอบแค่คำถามเดิมซ้ำๆ แต่ฉันก็ชอบนะที่ทุกคนดูวิตกกังวลและถามว่า “มันเป็นมายังไงเหรอ?” หรือ “ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าควรไปตรวจเมื่อไหร่?” คำตอบของฉันคือถ้าคุณกังวลนักก็รีบไปตรวจซะ ฉันไม่รู้เลยว่าอาการแบบนี้จะกลายเป็นมะเร็งได้ ที่สำคัญฉันอยากเตือนทุกคนว่า “หมั่นทาครีมกันแดดอยู่เสมอนะคะ”
