โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"ชวน" ยัน-ผิดแน่ๆ กรีดยับ ส.ส.พลังประชารัฐ ยังมาถามกลางสภา ปมเสียบบัตรแทน

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

อัพเดต 23 ม.ค. 2563 เวลา 16.53 น. • เผยแพร่ 23 ม.ค. 2563 เวลา 22.15 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

บิ๊กตู่ฉุน-ไม่ควรทำ

ประธานสภาฯส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 63 ตอกฝาโลง ส.ส.ฝาก เสียบบัตรแทนกันทำไม่ได้ทุกกรณี แม้เครื่องลงคะแนนมีไม่พอ ส.ส.รัฐบาลซักยิบข้อสงสัย เด็กพลังประชารัฐถึงกับอึ้งตั้งโจทย์ถ้า ส.ส.นั่งอยู่ 3 คนอีกคนเอื้อมไปเสียบบัตรไม่ถึง ให้เพื่อนกดลงคะแนนแทนได้หรือไม่ “ชวน” ฟันธงเปรี้ยงผิดแน่ๆ “ชัยวุฒิ” อ้างดื้อๆ เป็นอุบัติเหตุ โอดกดลงคะแนนมันยากจริงๆ “ภริม” ยันสุดวิสัยช่วย “ทวิรัฐ” ยื่นมือเสียบบัตรกดปุ่มใต้โต๊ะไม่ได้ “เทพไท” ชงติดตั้งซีซีทีวีกว่า 10 จุดในห้องประชุมสุริยัน ส่อง ส.ส.ลงมติ

“บิ๊กตู่” เมินออก พ.ร.ก.กู้เงิน หงุดหงิดบ่น ส.ส.ไม่ควรกระทำถ้ารู้ว่ามันผิด “วิษณุ” แก้ข่าวยันกดบัตรแทนกันผิดมีโทษร้ายแรง ย้ำ พ.ร.บ.งบประมาณล่าช้า แต่ไม่ถึงวิกฤติ “ชูศักดิ์” ซัดใช้อภินิหารทางกฎหมายบ่อยจนบ้านเมืองเดินลำบาก โฆษก พท.ไล่นายกฯไขก๊อกปัญหา ส.ส.พรรครัฐบาลเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน จนส่งผลทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ต้องล่าช้าออกไปจนวิปรัฐบาลนำ ส.ส.ที่ปรากฏภาพในคลิปชี้แจงอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุและเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่การลงคะแนนแทนกัน เพียงแค่ช่วยเพื่อน ส.ส.ที่เอื้อมไม่ถึง ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้ชัดแม้เป็นกรณี ส.ส.ช่วยเพื่อนที่เอื้อมมือไปเสียบบัตรไม่ถึงถือว่ามีความผิด

ปธ.สภาฯยื่นตีความ พ.ร.บ.งบฯปี 63

เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 23 ม.ค. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการเผยแพร่คลิปการเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส.พลังประชารัฐ และ ส.ส.ภูมิใจไทย ในการ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ว่า สภาฯต้องตรวจสอบทุกกรณี ไม่เช่นนั้นจะไม่ยุติธรรม ไม่ว่าจะเสียบบัตรแทนกันในกรณีใด ก็ทำไม่ได้ แม้เครื่องลงคะแนนในห้องประชุมมีไม่เพียงพอ แต่ ส.ส.ไม่สามารถฝากบัตรเสียบแทน กันได้ โดยทั่วไป ส.ส.จะไม่ยุ่งกับบัตรคนอื่น ส่วนคำร้องที่ต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยขั้นตอนการตราร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 63 ที่ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านยื่นให้ตีความว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างให้เลขาธิการสภาฯตรวจสอบรายชื่อทั้งหมดว่าถูกต้องหรือไม่ จะส่งกลับมาที่ตนเพื่อส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 23 ม.ค.เพราะต้องรีบ ไม่สามารถวินิจฉัยอะไรแทนศาลรัฐธรรมนูญได้ ต้องรอดูว่าศาลจะใช้เวลาพิจารณานานเท่าใด เชื่อว่าไม่นานคงรู้ผล ศาลฯทราบดีว่าต้องรีบพิจารณาเรื่องนี้

ถ้าเป็นโมฆะให้ใช้ของเก่าไปก่อน

เมื่อถามว่า หากร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 63 เป็นโมฆะจริงจะมีทางออกอย่างไร นายชวนตอบว่า ตามปกติถ้างบประมาณปีใหม่ยังไม่เริ่มใช้ ให้ใช้งบฯเดิมไปก่อน ดังนั้นเงินเดือนของข้าราชการเป็นไปตามปกติ เพียงแต่โครงการพัฒนาต่างๆไม่สามารถเดินหน้าได้ ส่วนการแก้ไขปัญหาเสียบบัตรแทนกันในอนาคต เหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนสำหรับทุกพรรคและทุกคน เชื่อว่าพรรคไม่มีใครเจตนาให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น แต่เพราะมีสมาชิกบางคนไม่ระวัง ทั้งที่ย้ำไปแล้วว่า วันเด็ก ส.ส.ไปร่วมกิจกรรมไม่ได้ ติดภารกิจพิจารณางบฯ ต้องยอมรับว่าสภาฯแห่งนี้ยังไม่พร้อมสำหรับการประชุม ส.ส.ยังไม่มีที่นั่งประจำ ต้องยืมห้องประชุมวุฒิสภาใช้ แต่หาก ส.ส.มีที่นั่งประจำจะทราบว่าใครลงคะแนนอย่างไร เป็นเครื่องประจำเหมือนห้องประชุมวุฒิสภา แต่เหนือสิ่งอื่นใด ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบแต่ละบุคคล

“รังสิมา” ดันสแกนม่านตา-ลายนิ้วมือ

ที่รัฐสภา น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า เหตุเสียบบัตรแทนกัน หากจะแก้ปัญหาที่ตัวบุคคลอาจทำได้ยาก จึงจะเสนอต่อประธานสภาฯให้ปรับแบบมาใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่แสดงอัตลักษณ์บุคคลแทนเครื่องเสียบบัตรแสดงตน เช่น การสแกนม่านตา หรือเครื่องสแกน ลายนิ้วมือบุคคล ส่วนตัวรับได้ถ้าฝากให้เพื่อน ส.ส.คนอื่นกดบัตรแทน หากเจ้าของบัตรอยู่ในที่ประชุมด้วย เพราะมีตัวตนอยู่ในที่ประชุม ต้องยอมรับว่าห้องประชุมสุริยันมีเครื่องลงคะแนนแค่ 350 เครื่องไม่พอกับ ส.ส. 500 คน จึงอาจต้องฝากบัตร ส.ส.ให้เพื่อนเสียบลงคะแนนแทน เกิดขึ้นทั้งในฝ่ายค้านและรัฐบาล แต่ไม่เห็นด้วยกับ ส.ส.ที่ขาดความรับ ผิดชอบโดดประชุมสภา ไม่อยู่ในห้องประชุม หรือ เดินทางไปต่างประเทศ แต่กลับมีการโหวตลงคะแนน แทน ผิดกฎหมายชัดเจน

“เทพไท” ชงติด CCTV จับผิด ส.ส.

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะ กมธ.กิจการสภาฯ กล่าวว่า การเสียบบัตรแทนกันเป็นปรากฏการณ์ซ้ำซากทุกยุคสมัย อยู่ที่จิตสำนึก ความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบแต่ละบุคคล ได้พิจารณาคำร้องกรณีการกดบัตรแทนของนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี เมื่อครั้งลงมติญัตติเพื่อตั้งคณะ กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44 ไม่สามารถตรวจสอบหาตัวผู้กระทำผิดได้ เพราะกล้องบันทึกภาพถ่ายทอดสดของทีวีรัฐสภาไม่สามารถจับภาพขณะกดบัตรได้ทั่วถึง มติคณะ กมธ.เสนอให้สำนักงานเลขาธิการสภาฯจัดซื้อติดตั้งทีวีวงจรปิด (CCTV) กว่า 10 ชุดติดตั้งในห้องประชุมสุริยัน จับภาพตรวจสอบการลงมติทุกครั้ง ป้องปรามให้เกรงกลัว ไม่ให้ ส.ส.กดบัตรลงคะแนนแทนกัน

วิปรัฐบาลอ้างตาใสเป็นอุบัติเหตุ

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.สิงห์บุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) พร้อม น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ที่ปรากฏอยู่ในคลิปที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 เผยแพร่ ส.ส.กดบัตรลงคะแนนแทน ส.ส.คนอื่นระหว่างการลงมติพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 63 ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง โดยนายชัยวุฒิกล่าวว่า ยืนยันว่าวิปรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐไม่มีนโยบายให้ ส.ส.เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน หากใครไม่มาประชุมจะไม่มีการลงคะแนนแทนให้ ปัจจุบันมีปัญหาเครื่องลงคะแนนไม่เพียงพอ พรรคพลังประชารัฐมีช่องลงคะแนนแค่ 68 ช่อง แต่มี ส.ส. 117 คน ใน 1 ช่องย่อมมีการเสียบบัตรลงคะแนน 1-3 ใบเป็นเรื่องปกติ ส่วนใหญ่แล้ว ส.ส.จะเสียบบัตรลงคะแนนกันเอง แต่กรณีที่เกิดปัญหาในคลิปเป็นอุบัติเหตุมี ส.ส.วางบัตรไว้บนโต๊ะแล้วก้มลงมาเสียบบัตรในเครื่องไม่ถึง จึงวานให้เพื่อนที่นั่งอยู่ใกล้ช่องเสียบบัตร ช่วยเสียบบัตรแทนให้เป็นแค่เฉพาะครั้ง ไม่ได้ทำเป็นประจำ

แค่ช่วยกันกดลงคะแนนมันยากจริงๆ

เมื่อถามว่าตามกฎหมายแม้เจ้าตัวจะอยู่ในห้องประชุม แต่ฝากให้เพื่อนช่วยเสียบบัตรให้ก็ไม่สามารถทำได้ ถือว่าทำผิดกฎหมาย นายชัยวุฒิตอบว่า ต้องให้เป็นการตีความของฝ่ายที่มีอำนาจตัดสินว่าทำได้หรือไม่ ยืนยันไม่ใช่การลงคะแนนแทนกัน แต่ช่วยกันลงคะแนนเนื่องจากเครื่องลงคะแนนไม่พร้อม บางครั้งจำเป็นต้องช่วยเสียบบัตรแทนกัน เพราะเข้าไปเสียบเองไม่ได้ เรื่องนี้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวเพราะเขาไม่สามารถเข้ามากดบัตรเองได้ เมื่อถามว่า ดูเหมือนต้องการโยนความผิดให้เป็นเรื่องอุปกรณ์ลงคะแนน นายชัยวุฒิตอบว่า เป็นเพราะช่องเสียบบัตรลงคะแนนไม่พอจึงต้องช่วยกันแก้ปัญหา เพื่อให้การประชุมราบรื่น ถือเป็นอุบัติเหตุเรื่องความจำเป็นในบางครั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้เราทำเพื่อแก้ปัญหาเรื่องเครื่องลงคะแนนไม่พอ ไม่มีเจตนาหรือนโยบายเสียบบัตรแทนกัน ผู้สื่อข่าวถามว่าเหมือนอยากบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ นายชัยวุฒิตอบว่า ไม่ขอตอบ แต่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่สภาฯ ไม่มีความพร้อมเรื่องเครื่องลงคะแนน ถ้าไม่ได้เข้าไปนั่งด้วยตนเอง จะไม่มีทางรู้เลยว่าการกดมันยากจริงๆ

“ภริม” ยันสุดวิสัยเพื่อนเอื้อมมือไม่ถึง

น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงว่าเมื่อตนได้ลงคะแนนเสร็จแล้วปรากฏว่านายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ เอาบัตรลงคะแนนมาวางไว้บนโต๊ะที่ตนนั่งอยู่ใกล้ช่องเสียบบัตร นายทวิรัฐเข้ามายังที่นั่งเพื่อเสียบบัตรด้วยตัวเองไม่ได้ จึงบอกให้ตนช่วยกดลงคะแนนให้ เป็นการกดบัตรให้ตามเจตนารมณ์ที่นายทวิรัฐบอก ไม่ได้ลงคะแนนตามเจตนารมณ์ของตนเอง เมื่อถามว่า โดยหลักการแล้วไม่ว่าจะเป็นบัตรใคร เจ้าตัวต้องลงคะแนนด้วยตัวเอง คนอื่นไม่สามารถลงคะแนนให้ได้ น.ส.ภริมตอบว่า ด้วยสถานการณ์ที่ไม่พร้อมทั้งช่องเสียบบัตรและที่นั่งที่มีแค่ 68 ช่องหากจะให้วิ่งกลับไปกลับมา อาจลงคะแนนได้ไม่ทัน เป็นเหตุสุดวิสัยที่เจ้าตัวไม่สามารถยื่นมือมาเสียบเองได้ เพราะปุ่มกดอยู่ใต้โต๊ะ เมื่อถามว่าถ้ากดลงคะแนนเองไม่ได้ สามารถใช้วิธีขานชื่อลงคะแนนแทนได้ น.ส.ภริมตอบว่า เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ

“สรศักดิ์” โทษถูกตัดงบฯเลยเกิดปัญหา

นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาฯ กล่าวถึงปัญหาการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันของ ส.ส.ระหว่างการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 63 ว่า รู้สึกเสียดายก่อนหน้านี้รัฐสภาแห่งใหม่ถูกออกแบบสำหรับแก้ปัญหากดบัตรแทนกัน ตั้งใจใช้เครื่องลงคะแนนแบบสแกนลายนิ้วมือแทนการเสียบบัตรแบบเดิม แต่ในปี 2560-2561 เมื่อถึงเวลาต้องตั้งงบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รัฐบาลกลับตัดลดงบประมาณจากที่เสนอขอไป 8 พันล้านบาท เหลือเพียง 3 พันล้านบาท จึงจำเป็นต้องตัดลดงบฯจัดซื้อเครื่องดังกล่าว ประกอบกับมีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปร้องเรียนถึงการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว ทำให้สภาฯต้องตัดงบฯส่วนนี้ออกไป

อนค.แนะใช้โปรแกรมแสดงที่นั่ง ส.ส.

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุมก่อนเข้าสู่วาระการประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือปัญหาต่างๆ โดยนายไกลก้อง ไวทยาการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ หารือขอให้เร่งแก้ไขปัญหาการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันของ ส.ส.ว่า ในฐานะประธานคณะอนุ กมธ.ศึกษาเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คณะ กมธ.กิจการสภาฯ ขอเสนอแนวทางแก้ปัญหาการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันเป็น 3 ระยะคือ 1.ระยะเฉพาะหน้า ปัจจุบันมีโปรแกรมแสดงผลการลงคะแนนที่แสดงชื่อและตำแหน่งที่นั่งของ ส.ส.ในห้องประชุม จึงระบุได้ว่าที่นั่งในตำแหน่งใดมีพฤติกรรมเสียบบัตรแทนกัน แต่ข้อเสียคือ ระบบนี้ไม่ได้บันทึกเอาไว้ ดังนั้น ควรมีโปรแกรมบันทึกการลงคะแนน เพื่อเวลามีปัญหาจะนำมาตรวจสอบได้ 2.ระยะกลาง เมื่อย้ายการประชุมสภาฯไปห้องประชุมแห่งใหม่ที่ห้องประชุมสุริยัน ควรติดกล้องวงจรปิด 3.ระยะยาว ในปี 2564 ควรมีระบบยืนยันตัวตนร่วม เช่น การสแกนลายนิ้วมือ ประธานสภาฯต้องไม่ปล่อยให้ปัญหานี้เป็นวงจรด่างพร้อยของรัฐสภา คนเรามีดีมีชั่ว ถ้าเราออกแบบที่ดีจะทำให้ลดการทุจริตได้ ขณะที่นายชวน กล่าวตอบรับว่าขอขอบคุณสำหรับความคิดเห็นจะหาโอกาสหารือกับนายไกลก้องต่อไป

ส.ส.ผวารุมซักถามปมข้อสงสัย

ต่อมาเวลา 11.30 น. เสร็จจากวาระหารือและรับทราบรายงานแล้ว ที่ประชุมสภาฯเข้าสู่การพิจารณาร่างข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมสภาฯ และกรรมาธิการ ตามที่คณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมสภาฯและกรรมาธิการได้พิจารณาเสร็จแล้ว ช่วงลงมติรายมาตราวาระ 2 ในข้อ 3 ร่างประมวลจริยธรรม ส.ส.หลายคนพากันซักถามข้อสงสัยการเสียบบัตรลงคะแนน อาทิ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ถามว่ากรณีมีบัตรเสียบคาไว้ในเครื่องอยู่แล้วมี ส.ส.ไปดึงบัตรออก แล้วไปเสียบบัตรของตัวเองเข้าไปแทน บังเอิญถูกกล้องจับภาพไว้ได้จะถูกกล่าวหาว่าเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันหรือไม่ นายชวนชี้แจงว่าต้องดูที่เจตนาเป็นหลัก

“ชวน” ฟันธงผิดแน่กดแทนคนเอื้อมไม่ถึง

ขณะที่ ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ ถามว่าถ้า ส.ส.นั่งกันอยู่ 3 คนในพื้นที่ แต่อีกคนเอื้อมไปเสียบบัตรลงคะแนนไม่ถึง แล้วให้ตนไปกดลงคะแนนแทนให้จะผิดหรือไม่ นายชวนตอบด้วยน้ำเสียงขึงขังว่า “ผิดแน่ๆครับ” ส.ส.หลายคนต่างอึ้งเมื่อได้ยินคำตอบ หันหน้าไปมองกันเลิกลั่ก ทั้งนี้การลงมติวาระ 2 ร่างข้อบังคับประมวลจริยธรรมสภาฯ ส.ส.หลายคนใช้วิธีขานชื่อแสดงมติ จนกระทั่งลงมติวาระ 2 เสร็จสิ้นครบทุกข้อแล้ว ที่ประชุมจึงลงมติวาระ 3 เห็นชอบร่างประมวลจริยธรรมดังกล่าวด้วยคะแนน 317 ต่อ 0 งดออกเสียง 1

“บิ๊กตู่” เมินไม่เหมาะออก พ.ร.ก.กู้เงิน

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึง ข้อกังวล ส.ส.เสียบบัตรแทนกันอาจส่งผลร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 63 ล่าช้าว่า เท่าที่ทราบขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว รัฐบาลมีหน้าที่ติดตามสถานการณ์ ในแง่ข้อกฎหมายได้หารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และต้องหารือกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณว่าจะทำอย่างไร แก้ปัญหาการบริหารราชการอย่างไร ส่วนบุคลากรคงไม่มีปัญหามากนัก จะมีปัญหาเรื่องงบฯลงทุนหลายแสนล้านบาทถ้าทำไม่ได้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจไม่ดีขึ้นมากนัก ต้องหามาตรการอื่นเสริมจากกฎหมายทุกฉบับ ขอให้ติดตามต่อไปและเท่าที่ปรึกษาแล้วไม่สมควรแก้ปัญหาด้วยการออก พ.ร.ก.การกู้เงินไม่รู้เหมือนกันว่าจะล่าช้าไปเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ปกติเรื่องแบบนี้นานเป็นเดือน สมมติล่าช้าไป 3 เดือนแล้วจะทันหรือเปล่า จะเข้าสู่ไตรมาส 2 แล้ว ต้องทำแผนสำรอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องประชุมว่าต้องทำอย่างไรกันต่อไปถ้าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 63 ต้องเลื่อนออกไป สามารถใช้จ่ายเงินงบฯรัฐไหนได้ไปพลางๆก่อน

บ่น ส.ส.ไม่ควรจะกระทำถ้ารู้ว่ามันผิด

เมื่อถามว่ามีการมองไปถึงความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ที่พรรคร่วมฯด้วยกันเองออกมาเปิดเผยข้อมูลจนทำให้มีปัญหาไปถึงร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 63 นายกฯ กล่าวว่า “ไม่รู้ จะพรรคไหน ผมไม่รู้” พร้อมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าปัญหาวันนี้เป็นเรื่อง ส.ส.ขุดคุ้ยกันเอง พล.อ.ประยุทธ์ถอนหายใจอีกครั้ง พร้อมกล่าวว่า “ก็ต้อง ไปถามคนฟ้องดู อย่ามาถามผม ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องด้วย สรุปคือว่าไม่ควรไปกระทำ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ก็ตาม ไม่ควรจะกระทำถ้ารู้ว่ามันผิดกติกาสภาฯ เอาอย่างงี้ ผมตอบแบบนี้ก็แล้วกัน”

ฉุนคอลัมนิสต์ใหญ่ด่า 5 ปีไม่เลิก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งการให้สัมภาษณ์ นายกฯกล่าวว่า ขอให้สื่อช่วยลดผลกระทบซึ่งกัน และกันบ้าง ในการนำเสนอข่าว ตนขอร้อง ลองไปศึกษาดูว่าจะทำอย่างไร จะช่วยรัฐบาลอย่างไร ซึ่งจริงใจแก้ปัญหา รัฐบาลก่อนและรัฐบาลนี้พยายามทำเต็มที่ จะเห็นได้ว่าทุกอย่างเดินหน้าเป็นขั้นเป็นตอนมาตลอด ใช้เวลาเป็นปีๆกว่าจะทำอะไรได้ซักอย่าง บางอันก็สำเร็จแล้ว บางอันก็เริ่มต้น บางอันอยู่ระหว่างขั้นตอนพัฒนาขั้นต่อไป ต้องเดินอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าออกนโยบายไปแล้วต้องทำได้ทันที วันนี้เอาแค่ใช้กฎหมายปกติให้ได้ทุกอย่างก่อน หลายเรื่องต้องสร้างการรับรู้ไป ที่กล่าวหาว่าไปละเมิดสิทธิมนุษยชน ไปทำร้ายสื่อ ยืนยันว่าไม่เคยไปทำร้ายใครที่ไหน เหมือนอย่างคอลัมนิสต์การ์ตูนในหนังสือพิมพ์ใหญ่บางฉบับ ด่าตนมา 5 ปีมันจริงหรือไม่

“วิษณุ” แก้ข่าวกดบัตรแทนผิดโทษร้ายแรง

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯให้สัมภาษณ์กรณีเสียงวิจารณ์ในโซเชียลว่าตนบอกว่าการเสียบบัตรเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่เป็นอะไร ยืนยันว่าไม่เคยพูด การเสียบบัตรแทนกันมีความผิด มีโทษร้ายแรง เกิดความเสียหายทั้งต่อภาพพจน์และสภาฯด้วย แต่ผลกระทบต่อร่าง พ.ร.บ.งบฯไม่น่าจะร้ายแรง อาจออกมาได้ 2-3 ทาง แต่ยังไม่พูดชี้นำว่ามีทางไหน ที่ระบุกันว่ากระบวนการมิชอบจะทำให้กฎหมายมิชอบไปด้วยเมื่อปี 2556 เป็นร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนปี 2557 เป็น พ.ร.บ.กู้เงิน เมื่อกระบวนการมิชอบเท่ากับไม่มีมติ แต่ร่าง พ.ร.บ.งบฯแปลกว่ากฎหมายอื่นมีรัฐธรรมนูญมาตรา 143 เป็นกรณีพิเศษว่าถ้า ส.ส.หรือ ส.ว.พิจารณาไม่ทันตามกรอบเวลาจะถือว่าเห็นชอบตามร่างนั้น ยังไม่รู้ชัดว่าจะนำมาตรา 143 มาใช้ได้อย่างไร เห็นคำร้องของ ส.ส.ที่ยื่นผ่านประธานสภาฯ ส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญ โยงถึงมาตรา 143 ด้วยก็ดีเพื่อให้ศาลวินิจฉัยส่วนนี้ไปด้วย เหตุที่มีเงื่อนเวลาออกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ถ้าล่าช้าจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อประเทศ แต่กฎหมายอื่นไม่มี ทุกอย่างเป็นไปได้หมดทั้ง 1.ตกทั้งฉบับ 2.เสียไปเฉพาะมตินั้น และ 3.เสียไปเฉพาะคะแนนที่จับได้ว่าเสียบบัตรแทนกัน สุดแท้แต่หรืออาจจะมีข้อ 4-5-6 ซึ่งไม่ทราบแต่ไม่ควรพูดชี้นำ

พ.ร.บ.งบฯล่าช้าไป แต่ไม่ถึงขั้นวิกฤติ

เมื่อถามอีกว่า แสดงว่า พ.ร.บ.งบฯปี 63 ไม่มีทางจะไม่ผ่าน นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่พูดเช่นนั้นแต่บอกว่าไม่ทำให้เกิดวิกฤติ วิบัติ เสียหาย อย่างที่ไปตีข่าวว่าแย่แล้วไม่ใช่ถึงขั้นอย่างนั้น เพราะมีทางแก้ไขตอนนี้ต้องรอความชัดเจนสองทาง คือการสอบสวนของสภาฯ ต้องออกมาว่ามีการเสียบบัตรแทนกันหรือไม่ แล้วใครเป็นคนแทนแล้วเจ้าของบัตรยินยอมหรือไม่ สอบได้แค่ไหนก็แค่นั้น ข้อเท็จจริงเหล่านี้จะทุ่นเวลาสำหรับศาลรัฐธรรมนูญ ผลกระทบที่มีแน่ๆคือยืดเยื้อและใช้เวลา ตามที่เคยคาดว่างบประมาณจะออกได้ต้นหรือกลางเดือน ก.พ.จะไม่เป็นเช่นนั้น แต่ความล่าช้านี้ทำให้เสียหายมีบ้าง แต่ไม่ถึงรุนแรงอะไร สื่อช่วยลงทุกคำให้ด้วย

“อุตตม” บอกนายกฯสั่งหาทางออกไว้

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลังและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงแผนสำรองกรณี พ.ร.บ.งบฯล่าช้าหลังมีการร้องเรียน ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายกฯได้สั่งการให้กระทรวงการคลังเตรียมการไว้แล้ว เมื่อถามว่า ต้องถึงขั้นออกเป็น พ.ร.ก.กู้เงินหรือไม่ นายอุตตม ตอบว่าต้องขอดูก่อน เพราะต้องดูในเรื่องของข้อกฎหมายด้วย ในส่วนของกระทรวงการคลังจะดูเรื่องของเงินที่ต้องใช้จ่ายและวินัยการคลัง ต้องนำมาประกอบกัน ฝ่ายกฎหมายดูรายละเอียด และสำนักงบประมาณดูกฎหมายวิธีการงบประมาณ เมื่อถามว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เตรียมทางออกไว้ให้แล้วใช่หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน

“ชูศักดิ์” ซัดกระบวนการไม่ถูกต้อง

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายวิษณุระบุการเสียบบัตรแทนกันในอดีตกับในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 63 อาจแตกต่างกันและอาจมีผลต่างกันว่า พิจารณาหลักเกณฑ์การตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่าง พ.ร.บ.ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ให้สิทธิ ส.ส.หรือ ส.ว.หรือทั้ง ส.ส.และ ส.ว. 1 ใน 10 ของสมาชิกทั้งหมดเข้าชื่อเสนอต่อประธานสภาฯส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่าง พ.ร.บ.จะมี 2 กรณี คือ 1.ร่าง พ.ร.บ.นั้นตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ และมีข้อความขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.กู้เงินว่าตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องและมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนที่เห็นว่าตราขึ้นโดยไม่ชอบจากที่ ส.ส.ใช้บัตร ส.ส.อื่นลงคะแนนแทนกัน เปรียบเทียบกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 63 มี ส.ส.กดบัตรลงคะแนนแทนกันจริงตามที่เลขาธิการสภาฯตรวจสอบ แม้ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นใคร ถือว่ากระบวนการตรากฎหมายไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ นายวิษณุอ้างว่าเป็นคนละกรณีกันความผิดต่างกัน โทษต่างกันผลต่างกัน จึงไม่น่าจะถูกต้อง

จวกใช้อภินิหาร ก.ม.จน ปทช.เดินลำบาก

นายชูศักดิ์กล่าวอีกว่า นายวิษณุอ้างว่าเพียงกระบวนการตราร่าง พ.ร.บ.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญไม่ทำให้ร่างกฎหมายตกไป อาจตีความกฎหมายเข้าข้างตนเอง ผิดจากที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) เมื่อกระบวนการตราร่าง พ.ร.บ.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ถือว่ามติสภาฯในกระบวนการตราร่าง พ.ร.บ.นี้ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ อันมีผลให้ร่าง พ.ร.บ.นั้นตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ร่าง พ.ร.บ.จึงต้องตกไปทั้งฉบับ ประเทศไทยขัดแย้งกันมายาวนาน ส่วนหนึ่งมาจากการบังคับใช้กฎหมายและตีความกฎหมายไม่เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองยิ่งควรทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์และบังคับใช้อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน ไม่ควรบิดเบือนหรือใช้อภินิหารทางกฎหมายบ่อยนัก เพราะจะทำให้ชาติบ้านเมืองเดินไปลำบาก

“ภูมิธรรม” อัดสร้างบรรทัดฐานผิดเพี้ยน

นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ประเทศ ส่งผลเสียหายอาจทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ อาจต้องตกไป ที่สำคัญสิ่งที่พรรคร่วมรัฐบาลทำวันนี้ทำให้สังคมเห็นถึงความเป็นสองมาตรฐาน สร้างบรรทัดฐานผิดเพี้ยน ทำผิดให้เป็นถูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า การเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส.พรรครัฐบาลครั้งนี้ เนติบริกรออกมาบอกว่าไม่อาจใช้บรรทัดฐานเดียวกันกับกรณีที่ผ่านมาในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่กลับจะสร้างบรรทัดฐานใหม่สนองประโยชน์แห่งตน โดยไม่ได้คำนึงว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ผิดเพี้ยน ทำผิดให้เป็นถูก ส่งผลกระทบสร้างความเสียหายให้กับหลักนิติธรรมของประเทศอย่างร้ายแรง อยากเห็นการสร้างบรรทัดฐานในสังคมที่ถูกต้องตามหลักการ ผดุงความยุติธรรมให้คนทุกกลุ่ม วันนี้บ้านเมืองผิดเพี้ยนเลอะเทอะมากพอแล้ว อย่ารุมทำร้ายประเทศให้มากไปกว่านี้เลย

“อนุสรณ์” ไล่ “บิ๊กตู่” ลาออกเซ่นงบฯช้า

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผลโหวตลงมติวาระ 3 ร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 63 มีมติเห็นด้วย 253 ต่อ 0 เสียง หากตรวจสอบแล้วไม่ใช่ 253 เสียงที่เกินกึ่งหนึ่งมาเพียง 3 เสียง แต่กลายเป็นเพียง 249 เสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง อันเกิดจากกรณีเสียบบัตรแทนกัน 4 เสียงจาก ส.ส.พรรคภูมิใจไทย 2 เสียง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 2 เสียง ยังมั่นใจอยู่หรือไม่ว่าร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 63 ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯถูกต้อง ขณะนี้การเสียบบัตรแทนกันมี 4 รายตรวจสอบลึกลงไปอาจพบมากกว่านี้นายกฯเจอปมนี้เข้าไปเซลล์สมองอาจเหลือน้อยกว่าเดิม มาตรการเศรษฐกิจที่ไม่มีแผนกระตุ้นเป็นรูปธรรมว่าหนักแล้ว หากงบฯล่าช้าไปอีก 3-4 เดือน ประชาชนจะไม่ทนคนจะออกมาวิ่งไล่ลุงกันมากขึ้น อันตรายถึงความอยู่รอดของรัฐบาล จะยึดเอาตามความเห็นนายวิษณุที่คนตั้งฉายาให้ว่าบิดาแห่งข้อยกเว้น โชคคงไม่เข้าข้างตลอดไป ความรับผิดชอบทางการเมืองสูงกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย หากร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 63 ล่าช้าจนทำให้ประเทศชาติประชาชนเสียโอกาสนายกฯควรลาออก

“นิพิฏฐ์” งงจะโกรธ ส.ส.ฉาวหรือคนแฉ

เมื่อเวลา 14.40 น. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กลักษณะเปรียบเทียบว่า “ถ้าเพื่อนเราเป็นโจรปล้นทองแล้วตำรวจจับได้ เราโกรธตำรวจที่จับเพื่อนเรา หรือเราโกรธโจร ถ้าผมจับ ส.ส.ที่กดบัตรแทนกัน คุณจะโกรธผมหรือโกรธ ส.ส.ที่กดบัตรแทนกัน ผมงงหมดแล้ว??”

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามว่ามีกระแสกดดันในพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ถึงได้โพสต์เฟซบุ๊กถามดังกล่าว นายนิพิฏฐ์ตอบว่า ไม่มีทุกคนเข้าใจ ขอให้ดูข้อเท็จจริงด้วย คำร้องที่ตนยื่นร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้งต่อ กกต.กลางไว้ 3 กรณียังไม่มีความคืบหน้า สัปดาห์หน้าจะเปิดคลิปหลักฐานทั้งหมดที่มีในมือสื่อมวลชน เพราะเลือกตั้งผ่านมาแล้วเกือบครบปี แต่ กกต.ยังยื้อไม่ประกาศใบแดงใบเหลือง กรณีนี้มั่นใจชัดเจนมากในเจตนาและพฤติกรรม ขอให้แยกแยะกับการตรวจสอบทำหน้าที่ของ ส.ส.ในสภาฯ

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0