กลายเป็นดรามาเดือดของวงการแดนกิจิในเวลานี้เลยทีเดียวสำหรับการประกาศแยกทางของคู่รักที่เคยหวานที่สุดคู่หนึ่งอย่าง “กูฮเยซอน” และ “อันแจฮยอน” หลังพบรักกันจากซีรีส์เรื่อง Blood ซึ่งหลังจากทนายความของนางเอกสาวออกมาแถลงว่าฝ่ายชายคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงอื่นต่อหน้า ทาง “อันแจฮยอน” ก็ไม่เงียบอีกต่อไป ออกมาตอบโต้ร่ายยาวเป็นครั้งแรก ก่อนที่ “กูฮเยซอน” จะโต้กลับว่าเปย์ให้ทุกอย่าง แต่มาขอหย่าเพราะ “หัวนมไม่เซ็กซี่”
หลังจากที่ กูฮเยซอน นางเอกสาวจากซีรีส์ Boys Over Flower หรือ F4 เวอร์ชันเกาหลี ออกมาประกาศผ่านอินสตาแกรมว่าสามีที่เคยรักและหลงเธอมากอย่าง อันแจฮยอน กำลังจะฟ้องหย่าตน พร้อมกับโพสต์บทสนทนาที่คุยกันโดยยืนยันว่าเธอเองยังไม่อยากหย่า เพราะห่วงความรู้สึกแม่ ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา ทนายความของ กูฮเยซอน ก็ได้ออกแถลงการณ์ของฝ่ายนางเอกสาวหลังเล็งเห็นแล้วว่า ต้นสังกัดอย่าง HB Entertainment ดูจะเข้าข้างฝ่ายชายมากกว่าจนเป็นเหตุให้ กูฮเยซอน ถึงกับลั่นว่ายินดีออกจากสังกัด ฉีกสัญญา แม้จะไม่มีงานทำก็ตาม
“ในฐานะสำนักงานกฎหมาย และเป็นตัวแทนของกูฮเยซอน เราจะขอแจ้งเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของกูฮเยซอนเรื่องประเด็นหย่าร้างกับ อันแจฮยอน ผ่านแถลงการณ์ฉบับนี้
อันดับแรก เราขอแจ้งให้ทราบว่ากูฮเยซอนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ทำให้แฟนๆทุกคนที่คอยเฝ้าดูผลงานในวงการบันเทิงรวมถึงชีวิตแต่งงานของเธอต้องเป็นห่วงและวิตกกังวลกันขนาดนี้
ขณะที่ กูฮเยซอน และ อันแจฮยอน ได้ ‘หารือ’กันเรื่องแยกทาง พวกเขาไม่เคย ‘ตกลง’ กันอย่างจริงจังเกี่ยวกับเรื่องหย่า และตอนนี้เธอเองก็ไม่ได้มีความปรารถนาที่จะหย่า และเราอยากจะชี้แจงด้วยว่าไม่ได้มีปัจจัยภายนอกอะไรที่ทำให้การแต่งงานต้องยุติลง การร่างเรื่องหย่าของทั้งคู่ยังเป็นฉบับร่างที่ส่งไป-มาระหว่างทั้งสองคนอยู่ และยังไม่ได้มีการเซ็นยอมรับหรือตกลงกับเอกสารใดๆที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น
และตามที่กูฮเยซอนได้เปิดเผยไปก่อนหน้านี้ ว่ามีการคุยกันเรื่องหย่าจริง หลังจากที่เธอเครียดจากการที่ อันแจฮยอน เมินเฉยต่อชีวิตแต่งงานที่เกิดขึ้น เขาทรยศต่อความไว้ใจของกูฮเยซอน และเขายังโทรศัพท์หาผู้หญิงอื่นบ่อยครั้งระหว่างที่เขาเมามาย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แม่ของกูฮเยซอน ต้องเจ็บปวดจนช็อกเพราะเรื่องหย่าของลูกสาวจนส่งผลให้สุขภาพย่ำแย่ลงเรื่อยๆ เธอจึงได้ออกมาแสดงเจตจำนงที่จะปกป้องชีวิตครอบครัวของตนเอง ทาง กูฮเยซอน ได้เคลียร์ชัดเจนในอินสตาแกรมแล้วว่าเธอไม่ต้องการจะหย่า ความรู้สึกของเธอตอนนี้เกี่ยวกับเรื่องแม่และครอบครัวยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนข่าวที่บอกว่ากูฮเยซอนและอันแจฮยอนตกลงกันได้เรียบร้อยแล้วที่จะหย่า ทั้งหมดนั้นไม่เป็นความจริงและไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
ยิ่งไปกว่านั้น กูฮเยซอนก็ไม่ไว้วางใจในต้นสังกัดที่เธอทำงานด้วยอีกต่อไป และยืนยันที่จะไม่ขอทำงานร่วมกับบริษัทนี้อีก เราหวังว่าจะได้ยกเลิกสัญญากับทางต้นสังกัดของเธออย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และถ้าทางต้นสังกัดของเธอไม่ให้ความร่วมมือ ก็หมายความว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อขอยกเลิกสัญญาต่อไป
เราหวังว่าจะไม่มีข่าวหรือบทความที่ไม่เป็นความจริงและปราศจากหลักฐานใดๆเกี่ยวกับการหย่าของ กูฮเยซอน และ อันแจฮยอน ออกมาตีพิมพ์อีก
และอีกครั้ง ทางกูฮเยซอนได้ขอโทษอย่างจริงใจที่สร้างความวิตกกังวลให้กับสาธารณชนเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของเธอ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถแก้ไขประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
หลังทนายความแถลงไม่นานฝั่ง อันแจฮยอน ก็ไม่อยู่เฉยอีกต่อไป ขอโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมชี้แจงยาวเหยียดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
โดย อันแจฮยอน ได้เผยถึงการตัดสินใจออกมาเปิดใจในครั้งนี้เพราะ ทนายความของกูฮเยซอนได้กล่าวหาเขาอย่างผิดๆว่าติดต่อพูดคุยกับผู้หญิงอื่น และยังยืนยันว่าเขาไม่เคยนินทาหรือพูดถึงภรรยาของเขาในทางเสียหายให้ ซีอีโอ ของต้นสังกัด HB Entertainment ของทั้งคู่ฟัง ตามที่ กูฮเยซอน กล่าวหาด้วย
“ผมอันแจฮยอนนะครับ ผมต้องขอโทษมากๆที่สร้างเรื่องยุ่งยากให้กับทุกคนเพราะประเด็นส่วนตัวของผม ผมเคยรักกูฮเยซอนมากๆและตัดสินใจแต่งงานกับเธอขณะที่ผมรักและเคารพเธอมากเช่นกัน และเพราะว่าเราทั้งคู่ต่างเป็นคนมีชื่อเสียง ผมจึงหวังอย่างจริงใจที่จะจบเรื่องนี้อย่างเงียบๆ เพราะฉะนั้นแม้จะต้องเผชิญกับเหตุฉุกเฉิน การประกาศที่ไม่ได้คาดคิด และการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ผมก็ยังคงเงียบและพยายามที่จะอดทนอย่างเงียบๆมาตลอด อย่างไรก็ตามการตัดทอนข้อความบางส่วนทั้งก่อนและหลังสถานการณ์ดังกล่าว และเปิดเผยเฉพาะบางส่วนที่ไม่สมบูรณ์ นับเป็นการบิดเบือนความจริงที่ทำร้ายความรู้สึกของคนรอบตัวผมอย่างมาก หลังจากที่ต้องเจ็บปวดกับคำพูดให้ร้ายว่าผมติดต่อกับผู้หญิงอื่นขณะเมามายนั้น มันทำให้ผมไม่สามารถอยู่เฉยๆได้อีกต่อไป เพราะฉะนั้นผมจึงตัดสินใจเขียนข้อความนี้
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาของชีวิตแต่งงานของเรา มันเริ่มต้นจากการที่เราชอบกันและกัน เรามีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน มันนับเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายทางใจกับผมมาก แม้ว่าเราจะพยายามอย่างหนักที่จะทำให้ความสัมพันธ์มันดีขึ้นแล้ว แต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับเราที่จะปิดช่องว่างความห่างเหินที่เรามีระหว่างกัน และเพราะแบบนั้นเธอก็ได้อยู่อย่างสบายใจกับสัตว์เลี้ยง 5 ตัวที่เธอรัก ขณะที่ผมเองก็จบลงด้วยการเป็นคนย้ายออกจากบ้านไป หลังจากนั้นในวันที่ 30 ก.ค. หลังจบการสนทนา กูฮเยซอน และผมก็ได้ตกลงที่จะหย่ากัน
ผมจ่ายค่าสินสมรสหลังหย่าแบบเต็มจำนวนตามที่กูฮเยซอนได้คำนวณและตัดสินใจเรียกร้องมาแล้ว จากแถลงของกูฮเยซอนเธอได้รวมเอาค่าใช้จ่ายประจำวันและเงินบริจาคที่เธอมอบให้การกุศลที่ได้จากการแต่งงาน ผมยอมทำตามคำเรียกร้องของเธอทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ผมยอมทำตามไม่ใช่ว่าเป็นเพราะผมคือฝ่ายผิดที่ทำให้การแต่งงานครั้งนี้ต้องจบลง แต่เป็นเพราะผมอยากช่วยเรื่องเงินให้กับภรรยาคนที่ผมเคยรัก แต่ไม่กี่วันต่อมา กูฮเยซอน ก็อ้างว่าจำนวนที่บอกไปตอนต้นนั้นยังไม่พอ เธอยังเรียกร้องที่จะเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนต์ที่เราเคยอาศัยอยู่ด้วยกันด้วย
หลังจากนั้น ผมจึงได้แจ้งต้นสังกัดของเราเกี่ยวกับข้อเท็จจริงการหย่าที่เกิดขึ้น และเมื่อวันที่ 8 ส.ค. เราก็ได้พบกับซีอีโอ คนที่พยายามจะคุยและไกล่เกลี่ยและบอกให้เราพิจารณากันดีๆอีกครั้ง อย่างไรก็ตามตอนนั้นความรู้สึกของผมเกี่ยวกับการหย่ายังคงเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนใจครับ
ในคืนวันที่ 9 ส.ค. กูฮเยซอน ยังได้โกหกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอพาร์ทเมนต์ที่ผมออกมาพักอยู่คนเดียวว่า เธอทำกุญแจหาย และหลังจากนั้นเธอก็ได้กุญแจสำรองและสามารถเข้ามาในอพาร์ทเมนต์ผมได้ เธอบอกผมว่า ‘นี่ไม่ใช่การบุกรุก ฉันเข้ามาได้เพราะฉันเป็นภรรยาของนาย’ ซึ่งเธอเข้ามาใช้โทรศัพท์ผมและจัดการบันทึกคลิป ซึ่งมันเป็นช่วงที่ผมกำลังหลับอยู่ ผมช็อกมากๆและมันทำให้ผมกลัวกับพฤติกรรมของเธอ
ขณะเดียวกันในโทรศัพท์ผมก็มีข้อความที่คุยกับ ซีอีโอ หลังจากที่ได้คุยกับเราทั้งคู่ ท่านถามมาว่ามันมีอย่างหนึ่งที่เราสองคนต่างเล่าไม่ตรงกัน กูฮเยซอน บอกว่าเธอไม่ได้เรียกร้องจะเอาอพาร์ทเมนต์ เธอบอกว่าเธอไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ เพราะฉะนั้นเธอไม่มีเหตุผลที่จะเรียกร้องเอาอพาร์ทเมนต์ และผมก็ได้ตอบข้อความซีอีโอไป ผมไม่ได้พูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับเธอเลยสักนิด คืนนั้น ผมมีความคิดขึ้นมาเลยว่า ถ้ายังคงปล่อยให้ชีวิตแต่งงานของเราดำเนินต่อไปมันคงจะเจ็บปวดกันทั้งคู่ และมันก็ทำให้ผมยิ่งแน่ใจมากขึ้นว่าต้องการหย่า
ไม่กี่วันต่อมา กูฮเยซอน ก็ติดต่อผมแล้วบอกว่า เธอต้องการหย่าทันที เธอได้จ้างทนายไว้แล้ว และเธอก็ได้ส่งข้อตกลงการหย่าและแถลงการณ์ที่จะบอกต่อสื่อเอาไว้ให้ด้วย และเธอก็บอกผมว่าให้ติดต่อหาทนายเอาไว้ด้วย เพราะได้วางแผนที่จะยื่นฟ้องหย่าต่อศาลในวันที่ 28 ส.ค.
และเนื่องจากข้อเรียกร้องที่เธอเรียกเพิ่มมากขึ้น ผมจะต้องเป็นหนี้ และต้องขายบ้าน ผมเลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแจ้งต้นสังกัดให้ทราบเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ต้นสังกัดไม่ได้มาเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องส่วนตัวของเราเลยตั้งแต่แรก แต่เป็นเพราะ ในฐานะนักแสดงในสังกัด ผมจึงต้องแจ้งให้ทราบว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคตเร็วๆนี้เท่านั้น
หลังจากแต่งงานผ่านไปได้ 1 ปี 4 เดือน ผมต้องเข้ารับการบำบัดทางสภาพจิตใจ และตอนนี้ผมก็ต้องกินยาต้านอาการซึมเศร้า ระหว่างที่ใช้ชีวิตแต่งงาน ผมได้ทำหน้าที่สามีอย่างดีที่สุดแล้ว และผมไม่เคยทำอะไรที่ต้องรู้สึกละอายเลยด้วย
ผมเห็นคำพูดของ กูฮเยซอน ที่บอกอยากรักษาชีวิตแต่งงานเอาไว้ แต่จากที่ผมได้เห็นเธอทำร้ายคนอื่นด้วยการบิดเบือนสิ่งที่เราได้ตกลงกันเอาไว้แล้วหลังจากที่คุยกันมานาน และได้มาเห็นเธอพูดจาบิดเบือนความจริงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกอย่างที่ผมสามารถคิดได้ตอนนี้ และรุนแรงยิ่งกว่าเดิมคือ ผมคงไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตแต่งงานกับเธอแบบเดิมได้อีกแล้ว
ผมต้องขอโทษอย่างถึงที่สุดต่อต้นสังกัด ที่ต้องมาเสียหายเพราะเรื่องส่วนตัวของพวกเรา รวมถึงทีมงาน My Ugly Duckling ที่ต้องได้รับผลกระทบจากการออกอากาศ รวมถึงทีมงานละครทุกคน ผมรู้สึกละอายมาก และผมไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการขอโทษทุกๆคน และผมเองก็รู้สึกผิดต่อภรรยา ที่ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจจนต้องแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ออกมา แต่มันก็ยากสำหรับผมที่จะเข้าใจการกระทำเหล่านี้ นับตั้งแต่ที่เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะผมไม่สามารถรับมือกับปัญหาส่วนตัวได้ดีเพียงพอ ผมจึงได้แต่ขอโทษอย่างจริงใจ ผมต้องขออภัยจริงๆครับ”
หลัง อันแจฮยอน ชี้แจงผ่านทางอินสตาแกรม ทาง กูฮเยซอน ก็โพสต์ข้อความตอบโต้ทันที พร้อมเผยประเด็นส่วนตัวอีกมากมาย
“สวัสดีค่ะ ฉันกูฮเยซอนนะคะ ฉันต้องมาเขียนข้อความเหล่านี้หลังจากได้เห็นข้อความที่โพสต์ไว้ของอันแจฮยอน ฉันอยากจะขออธิบายในส่วนของเงินสินสมรสที่ได้รับนะคะ เงินบริจาคจากสินสมรส เรื่องนี้มันโยงถึงเงินจำนวนเต็มที่เราได้บริจาคไปให้การกุศลแทนที่จะจัดงานแต่งงาน ซึ่งทั้งหมดนั้นกูฮเยซอนเป็นคนจ่าย ฉันเลยเรียกเงินจำนวนนี้คืนครึ่งหนึ่งจากเขาค่ะ การตกแต่งบ้านพักของอันแจฮยอน ฉันกูฮเยซอนก็เป็นคนจ่ายทั้งหมดอีก และเนื่องจากกูฮเยซอนเป็นคนจ่ายค่าดูแลทุกอย่างในบ้านทั้งหมด 100% ฉันจึงได้เรียกเงินคืนเป็นจำนวน 30,000 วอนต่อวัน ( 768 บาท ) ย้อนหลังในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ..ต้องบอกว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ค่าสินสมรสหลังหย่าค่ะ
เนื่องจากก่อนหน้านี้สุนัขของฉันตาย ฉันก็เลยกลายมาเป็นโรคซึมเศร้าก่อน และเป็นฉันเองที่แนะนำสามีให้รู้จักกับจิตแพทย์ที่ฉันเคยเจอ หลังจากที่ทำการรักษาแล้ว สามีฉันก็เริ่มเอ็นจอยกับการดื่มแอลกอฮอลล์ และฉันก็ได้เห็นเขาพูดคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงอื่นขณะมึนเมาด้วย ซึ่งฉันเห็นด้วยสองตาของฉันเอง และฉันก็ได้ยินทั้งหมดเต็มๆสองหู ฉันบอกเขาให้วาง เพราะมันอาจเกิดการเข้าใจผิดได้ แต่เราก็ลงเอยด้วยการทะเลาะบ่อยๆจากเรื่องนี้ แถมบทสนทนาลับๆของพวกเขาก็ลงเอยตรงที่มันเป็นเรื่องที่ฉันไม่รู้เรื่องเลย
ในวันเกิดของสามี เขาบอกว่าเขาอยากกินซุปเนื้อหัวไชเท้า ฉันก็เตรียมไว้ให้เขาตั้งแต่เช้า แต่เขากินเข้าไปแค่ช้อนสองช้อนแล้วก็ไม่กินต่อ แล้วฉันก็ต้องมาดูเขาออกไปปาร์ตีวันเกิดข้างนอกกับคนอื่น ฉันรู้แล้วว่าหัวใจเขาไม่ได้อยู่ที่ชีวิตคู่ของเราอีกต่อไป นอกจากนั้นฉันเองยังเคยสำนึกบุญคุณถึงแม่ของอันแจฮยอนผู้ให้กำเนิดเขา เพราะฉะนั้นเมื่อฉันได้ยินว่าบ้านแม่ไม่มีแอร์ ฉันก็ซื้อให้ และฉันก็ซื้อเครื่องซักผ้าและตู้เย็นใหม่ไปให้ด้วย
ต้องบอกว่า อันแจฮยอน ไม่ได้ย้ายไปอยู่อพาร์ตเมนท์อื่นเพราะแยกทาง แต่จริงๆแล้ว ฉันเป็นคนอนุญาตให้เขาไปเพราะเขาบอกว่าเขาอยากโฟกัสกับการแสดง เพราะฉะนั้นฉันจึงมีสิทธิ์ที่จะเข้าไปในอพาร์ทเมนต์นั้นค่ะ และเรื่องที่ฉันขอมีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้าน อันแจฮยอน เป็นเพราะเขาไม่ได้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านเลยแม้แต่ก่อนที่เราจะแยกทางกัน เพราะฉะนั้นฉันเลยประชดเขาว่า ‘ถ้าฉันต้องอยู่ที่นี่คนเดียวแบบนี้ ก็ยกบ้านให้ฉันเลย’ เพราะแบบนี้เขาเลยบอกฉันว่าเขาจะยกบ้านที่ยองอินให้ถ้าฉันยอมหย่า ฉันเลยโมโหตอบตกลง นับจากนั้นสามีของฉันก็พูดแต่เรื่องหย่ามาตลอด
ฉันทำผิดอะไรเหรอ? พอฉันถามเขา เขาบอกว่า ฉันไม่เซ็กซี่ และสามีฉันเอาแต่พูดว่าไม่ว่ายังไงเขาก็อยากหย่าเพราะหัวนมฉันมันไม่เซ็กซี่ แม้กระทั่งตอนที่เราอยู่ด้วยกัน บางครั้งสามีฉันก็เปิด YouTube เสียงดังลั่นเกี่ยวกับเรื่องผู้ชายที่เบื่อกับชีวิตแต่งงานต้องฟังก่อนจะหลับไป.. ฉันเหมือนผีที่ไม่มีตัวตนสิงอยู่ในบ้าน และผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งนายเคยรักมากต้องกลายมาเป็นซอมบี้ แม้กระทั่งตอนนี้ก็ตาม”
ตามรายงานระบุว่าตอนนี้ชาวเน็ตเกาหลีแบ่งแยกเป็นสองฝ่าย แต่ส่วนมากเห็นใจทางฝั่งของ กูฮเยซอน มากกว่าที่นอกจากเสียสามีแล้ว ยังต้องออกจากต้นสังกัด และไม่มีงานทำ ขณะที่ฝ่ายชายยังมีต้นสังกัดคอยปกป้องและป้อนงานให้อยู่เรื่อยๆด้วย
