ปักกิ่ง, 20 ม.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 ม.ค.) เหมียวเหวย รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ของจีน รายงานว่าตลาดยานยนต์ของจีนมีแนวโน้มตกต่ำถึงขีดสุดในปี 2020 และ 2021 หลังยอดจำหน่ายลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
เหมียวเผยว่าทั้งยอดจำหน่ายและการผลิตรถยนต์ในปีนี้คาดว่ามีแนวโน้มจะแตะที่ 25 ล้านคัน ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า พร้อมเสริมว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนกำลังเผชิญกับปัญหาเรื้อรัง อาทิ ขาดแคลนการสนับสนุนด้านการวิจัยและเทคโนโลยีที่สำคัญ รวมทั้งผลกระทบระยะสั้นจากการลดเงินอุดหนุนยานยนต์พลังงานใหม่ และมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันขับเคลื่อน
อย่างไรก็ตามความเชื่อมั่นของตลาดปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการผลิตยานยนต์ขยายตัวเมื่อเทียบปีต่อปีในเดือนพฤศจิกายน หลังนโยบายส่งเสริมการบริโภคมีผลบังคับใช้
จีนจะยังคงผลักดันการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์ กระตุ้นตลาดให้คึกคัก ส่งเสริมผู้ผลิตยานยนต์ให้สำรวจตลาดต่างประเทศ และมอบโอกาสให้บริษัทลงทุนทั้งจีนและต่างชาติได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม
ขณะเดียวกันเหมียวได้กล่าวถึงโรงงานเทสลา (Tesla) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ในเซี่ยงไฮ้ ว่าโรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานใหม่แห่งแรกของประเทศที่มีเจ้าของเป็นต่างชาติโดยสมบูรณ์ โรงงานเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2019 และเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนทดลองการผลิต หลังผ่านไป 10 เดือน และเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. โรงงานได้เริ่มส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า เทสลา โมเดล 3 รุ่นผลิตในจีน (China-made Model 3) 15 คันแรกให้แก่ลูกค้า
"สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจที่แน่วแน่ของจีนในการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระหว่างประเทศ และผลักดันให้มีการเปิดตลาดรอบใหม่" เหมียวกล่าว
เหมียวยอมรับว่าราคารถยนต์เทสลาที่ต่ำลง จะสร้างแรงกดดันให้ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศ และกล่าวว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคชาวจีน และเป็นแรงจูงใจในการผลักดันผู้ผลิตรถยนต์ให้เสริมสร้างนวัตกรรม และปรับปรุงความสามารถในการแข่งขัน
ทั้งนี้ สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีน (China Association of Automobile Manufacturers) เปิดเผยว่าจีน ซึ่งเป็นตลาดยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก จำหน่ายยานยนต์ได้ราว 25.77 ล้านคันในปี 2019 ลดลงร้อยละ 8.2 ซึ่งมากกว่าตัวเลขนี้ของปี 2018 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.8 สืบเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้า มาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้น และการปรับลดการอุดหนุนยานยนต์พลังงานใหม่
