นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ได้รับรายงานจากกองตรวจสอบและปฏิบัติการของกรมฯว่าได้ตรวจสอบการจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางออนไลน์ พบเฟซบุ๊กรายหนึ่ง จำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ในราคาชิ้นละ 14 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการล่อซื้อทางเฟซบุ๊กจำนวน 29 กล่อง โดย 1 กล่องบรรจุ 50 ชิ้น รวมทั้งสิ้น 1,450 แผ่น และคิดเป็นเงิน 20,300 บาท โดยได้นัดส่งของที่หน้าอาคารแห่งหนึ่งย่านสะพานพระราม 8 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด
“เมื่อถึงเวลานัดหมายเพื่อส่งของ ได้พบกับเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวมาส่งของให้กับพนักงานเจ้าที่ในราคา 14 บาทต่อชิ้น ตามที่ได้ตกลงกันไว้ เมื่อชำระเงิน พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บวรมงคล เพื่อดำเนินคดีในข้อกล่าวหาจำหน่ายสูงเกินสมควรตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มาตรา 29 จึงอยากเตือนถึงเฟซบุ๊กรายอื่นๆ อย่าขายหน้ากากอนามัยสูงเกินจริง ซึ่งเป็นการซ้ำเติมประชาชนและทำให้ตลาดปั่นป่วน ถือว่ามีโทษทั้งจำและปรับ กรมจะเร่งดำเนินการตรวจสอบและส่งดำเนินคดีทันที “นายประโยชน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มาตรา 29 ซึ่งตามกฎหมายโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยการดำเนินการดังกล่าว มาจากมีประชาชนร้องเรียนและให้ตรวจสอบการจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาในออนไลน์ ที่พบว่ามีการกำหนดราคาขายเกินความจริงมาก และอยากให้กรมการค้าภายใน ตรวจสอบการค้าบนออนไลน์ด้วย
ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้เรียกหารือกับเจ้าของแพลตฟอร์ม 3 รายใหญ่ เพื่อขอความร่วมมือในการบล็อกร้านค้าบนออนไลน์หากพบว่ามีการขายหน้ากากอนามัยสูงเกินจริง ส่วนราคาหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ที่กรมการค้าภายในประสานผู้ผลิตเพื่อนำมาจำหน่ายในร้านธงฟ้าและร้านสวัสดิการหน่วยงานรัฐต่างๆ ราคาไม่เกิน 2.50 บาทต่อชิ้น
