ตร.จับหนุ่มจีนเคลือข่ายค้ากัญชาออร์แกนิค ยึดของกลาง 1 พันต้น อ้างเป็นเพียงคนดูแลระบบไฟ…
พล ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทำทีมกันจับกุม นายอู๋ ติง ปิน อายุ 41 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ากัญชาออร์แกนิคชาวจีน จากการซักถามและสืบสวนเชิงลึกทราบว่า มีพฤติการณ์จำหน่ายกัญชา น่าจะมีแหล่งผลิตกัญชาอยู่ในย่านประเวศ และอาศัยอยู่ในย่านรามคำแหง จนทราบว่า พักอยู่ที่ซอยรามคำแหง 24/3 จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบ นายวู และ ตรวจค้นพบกุญแจและรีโมท นายอู๋ ให้การยอมรับว่าเป็นกุญแจโกดังที่ซอยอ่อนนุช 82 เมื่อทำการตรวจสอบภายในพบว่าผู้ต้องหาได้ทำการดัดแปลงโกดังสินค้า เป็นสถานที่ปลูกกัญชาออร์แกนิค ไว้จำนวน 1,000 ต้น ตลอดจนมีระบบแสง และอากาศเหมาะสำหรับปลูกยาเสพติดชนิดนี้ ทางตำรวจจึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
นายอู๋ อ้างว่ามีหน้าที่เป็นช่างดูแลระบบไฟฟ้าภายในพื้นที่โกดังดังกล่าวเท่านั้น ไม่รู้วิธีการปลูกต้นกัญชาแต่อย่างใด แต่จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมพบว่า นายอู๋ ได้มีการถือกระเป๋าขนาดใหญ่เข้าออกบริเวณโกดัง แล้วอาจจะไหวตัวทันจากการติดตามสืบสวนของเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดระบบไฟฟ้าทำให้ต้นกัญชาตายและนำเมล็ดพันธุ์ออกจากพื้นที่ดังกล่าว ประกอบกับเจ้าของพื้นที่เชื่อว่าชาวจีนที่มาเช่าโกดังอาจทำสิ่งผิดกฎหมาย เพราะมีการเปิดแอร์ทิ้งไว้ตลอดโดยค่าไฟต่อเดือนประมาณ 100,000 บาท แต่ค่าเช่าเพียงเดือนละ 40,000 บาท
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า เดิมผู้ต้องหารายนี้เดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่ปี 2561 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ต่อมาปี 2562 ได้เปลี่ยนเป็นวีซ่านักศึกษา เพื่อมาเรียนมวยไทย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่มีหลักฐานพบว่าทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 61 เป็นรายเดียวกันกับการจับกุมในพื้นที่ สน.หัวหมาก ได้มีการขยายผลพบมีผู้กระทำผิดเป็นชาวต่างประเทศทั้งหมด 5 คน จับกุมได้แล้ว 1 คน สำหรับสถานที่นี้เป็นที่เพาะต้นกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศ ซึ่งราคาขายสูงกว่าพันธุ์กัญชาในประเทศ จะมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 250,000 บาท หากส่งถึงมือผู้รับจะมีราคาสูงอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 700,000 บาท
ส่วนการจำหน่ายมีการโฆษณาผ่านโซเชียล จัดส่งผ่านไปรษณีย์และบริษัทขนส่งเอกชนต่างๆ หลังจากนี้จะขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายอื่นต่อไป เบื้องต้นมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายกฎหมาย และผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ดำเนินคดีต่อไป.