วันที่ 22 ก.พ. พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.14 (แม่ทะ) นำโดย นายสินธพ เรือนมั่น เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน เดินทางเข้าไปตรวจสอบ บริเวณโรงโม่หินเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในป่าลึก ติดถนนสาย ลำปาง-แพร่ ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง
โดยคุมตัวผู้ต้องหา คือ นายอุดมสินธิ์ ธิธรรมา อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ บริษัท โรงโม่หิน ดังกล่าว พร้อมของกลาง อาวุธปืนแก๊ปยาว 1 กระบอก, ชนวนที่ทำจากขวดยากันยุงและไม้ขีดไฟซึ่งเป็นอุปกรณ์เผาป่า พร้อมไฟแช็ก เดินทางเข้ามาชี้จุดเกิดเหตุ ที่บริเวณกระท่อมเพิงพัก หลังโรงโม่หิน
.
สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (21 ก.พ.) ประมาณ 11:00 น นายอิศเรศ จิรารัตน์ ผอ.ศูนย์ส่งเสริมควบคุมไฟป่าภาคกลาง หรือ ผอ.ชุดเหยี่ยวไฟป่า นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟป่าในพื้นที่ติดกับโรงโม่หินดังกล่าว หลังจากพบว่า มีไฟไหม้ป่ากินพื้นที่บริเวณกว้างมีความเสียหาย 109 ไร่ ซึ่งจุดเพิงพัก ห่างจากจุดไฟไหม้ป่า เพียง 10 เมตรเท่านั้น
ขณะตรวจในเพิงพักพบชนวนจุดไฟ เป็นวัตถุที่ทำขึ้นเพื่อใช้เป็นต้นเพลิงแบบถ่วงเวลา โดยจุดแท่งยากันยุงแล้วหวังผลให้ลุกลามถึงหัวไม้ขีด เพื่อเกิดเปลวไฟเผาไหม้เชื้อเพลิงต่อไป
.
จากการสอบปากคำ โดยผู้บังคับการภูธรจังหวัดลำปาง นายอุดมสินธิ์ รับว่ายากันยุงที่พันด้วยก้านไม้ขีดไฟเป็นของตนเองจริง แต่ตนเองไม่ได้เผาป่ารอบโรงโม่หิน เหตุไฟไหม้ไม่รู้ว่าใครทำ ส่วนชนวนที่ทำไว้พร้อมไม้ขีดไฟ ตั้งใจจะนำไปเผาไร่นา ทุ่งหญ้าที่บ้านตัวเองที่ อ.แม่ทะ
.
อย่างไรตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่เข้ามาร่วมสอบปากคำและมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุในวันนี้ ไม่ปักใจเชื่อในคำพูดของผู้ต้องหา เพราะหลักฐานต่างๆ ชัดเจน
.
โดยนำตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.แม่ทะ ในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองและข้อหาเผาป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ก่อนนำตัว ส่งฟ้องศาล จ.ลำปาง ต่อไป
