จะอะไรก็หยุดไม่อยู่! รถยนต์ขวางรางรถไฟจนรถไฟต้องยอมหยุดให้!
แม้สถานการณ์การจราจรเมืองไทย โดยเฉพาะเมืองหลวงอย่าง กทม. จะวิกฤตจนต่างชาติยกให้เป็นเมืองรถติดอันดับต้นๆของโลก แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่า งานมหกรรมยานยนต์ก็ยังคงกระแสดี ยอดไม่ตก กระตุ้นให้ประชาชนออกรถใหม่ได้ทุกปี โดยที่มีการประเมินออกมาว่ายอดจองรถยนต์ในงานครั้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้น่าจะสูงถึง 45,000 คัน รถจักรยานยนต์ 8,000 คัน และผู้ชมงาน 1.5 ล้านคน สร้างเม็ดเงินสะพัดในงานกว่า 55,000 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขาย รถยนต์รวมของไทยปี 2561 ทะลุ 1 ล้านคัน เท่ากับว่าเราจะมีรถยนต์เพิ่มเติมเข้ามาในท้องถนนถึง 1 ล้านคัน ผสมรวมกับรถเก่าเกือบ 10 ล้านคันที่ยังคงวิ่งอยู่บนท้องถนน
คำถามคือ..เรายังจะมีพื้นที่ถนนว่างพอให้รถใหม่ออกมาวิ่งกันอีกหรือ?
ล่าสุด เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “Takawit Thibthong” ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ พร้อมข้อความว่า “ยอม” ซึ่งเป็นเหตุการณ์การจราจรติดขัดบริเวณทางเชื่อม ARL- MRT แยกเพชรบุรี – มักกะสัน เมื่อวันที่ 13 พย. ที่ผ่านมา ทำให้รถไฟต้องหยุดให้กับรถยนต์ที่ติดอยู่บนถนนซึ่งขวางกั้นรางรถไฟอยู่ ทั้งๆ ที่โดยปกติแล้ว ตามกฎหมายจราจร จำเป็นต้องหยุดรถก่อนข้ามทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร โดยไม่หยุดหรือจอดรถคร่อมทางรถไฟ ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 63 ในทางเดินรถตอนใดที่มีทางรถไฟผ่าน ไม่ว่าจะมีเครื่องหมายระวังรถไฟหรือไม่ก็ตาม
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดย "นายฐากูร อินทรชม" ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า การจราจรติดขัดส่งผลกระทบทำขบวนรถล่าช้า และต้องหยุดรอรถที่ติดล้ำเส้นทาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่เคลียร์การจราจรและปิดเครื่องกั้นถนนก่อน
จะเห็นว่าปัญหาการจราจรติดขัดอย่างรุนแรงส่งผลกระทบในภาพรวมของกรุงเทพมหานครอย่างมหาศาล อาจพูดได้เลยว่า เหตุการณ์รถไฟต้องหยุดให้รถยนต์ สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เมืองหลวงของเราคงไม่ได้มีพื้นที่ถนนว่างมากพอ และเป็นสิ่งที่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนต้องตระหนักเป็นอย่างยิ่งกับวิกฤตที่เรากำลังเผชิญร่วมกันอยู่นี้
แหล่งที่มา : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1223529
เฟซบุ๊ก : Takawit Thibthong https://www.facebook.com/701346311/posts/10156228586236312/
